31 ก.ค. 2558

ถนนโซลาร์เซลล์ แห่งแรกของโลก


ถนนโซลาร์เซลล์ แห่งแรกของโลก

อย่างที่เราทราบกันว่า เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดิน ทาง  แถมได้ชื่อว่าเป็น ‘เมืองแห่งจักรยาน’ เสียด้วยซ้ำ ว่ากันว่ามีจักรยานที่ขี่กันในเมืองถึง 18 ล้านคัน และมีเลนจักรยานถึง 21,748 ไมล์ เรียกได้ว่าหากคุณเห็นผู้คนในเมืองนี้ขี่จักรยานก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่าง ใด

ถนนในเนเธอร์แลนด์กลับเป็นถนนสร้างชื่อให้ประเทศ เมื่อประสบความสำเร็จในการเป็นถนนโซลาร์เซลล์ที่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ จากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งอยู่บนผิวถนนเป็นประเทศแรกของโลก ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้นั้นเพียงพอสำหรับใช้ในครอบครัวขนาดเล็กๆ ได้นานหนึ่งปีเลยทีเดียว

ไอเดียก็คือปกติถนนจะทำจากคอนกรีตล้วนๆ แต่คราวนี้ถนนโซลาร์เซลล์ Solar Road จะมีการนำแผงโซลาเซลล์เข้ามาผสมด้วย โดยแผ่นคอนกรีตขนาด 2.5 x 3.5 เมตรแต่ละแผ่นประกอบด้วยแผงโซลาเซลล์แบบซิลิกอนที่มีความหนา 1 มิลลิเมตร ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นกระจกใสเพื่อเปิดรับแสงอาทิตย์ให้ส่องเข้ามาข้างในได้ ที่สำคัญมีความแข็งแรงทนทานต่อพาหนะทุกชนิดที่วิ่งบนถนนสายนี้
     
SolaRoad หรือถนนโซลาร์เซลล์ ลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนถนนของเมือง Krommenie ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นระยะทางยาว 70 เมตร เมื่อปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นผลเป็นที่ประจักษ์แล้ว โดยวันนี้ วิศวกรเผยว่า ระบบการผลิตไฟฟ้าของ SolaRoad ทำงานได้ดีกว่าที่คาดไว้ และสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 3,000 กิโลวัตต์ ซึ่งพลังงานไฟฟ้าที่ได้นี้เพียงพอสำหรับจ่ายให้ครอบครัวเล็กๆ ใช้งานได้นาน 1 ปี
     
ไม่เพียงเท่านั้น ทีมวิจัยยังเผยว่า อนาคตอาจเปิดจุดบริการชาร์จไฟให้แก่จักรยานไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และโคมไฟพลังแสงอาทิตย์ หรือ โคมไฟโซล่าเซลล์ ตามท้องถนนและทางเดินเท้า  ที่ Sola Road ผลิตได้อีกด้วย
     
โดย ทางเนเธอร์แลนด์ ได้แนวคิดดังกล่าวมาจากแคมเปญระดมทุนตัวหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่ตั้งเป้าว่า จะใช้แผงโซลาร์เซลล์มาติดตั้งบนถนน เพื่อใช้ผลิต กระแสไฟฟ้า และทางเนเธอร์แลนด์ได้คว้ามาทำก่อนเป็นชาติแรกของโลก
     
สำหรับ การติดตั้งนั้น ทางเนเธอร์แลนด์เลือกติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนเลนจักรยาน และได้ใช้วัสดุอย่าง กระจก ยางซิลิโคน และคอนกรีตในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แผงโซลาร์เซลล์ โดยแผงดังกล่าวสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 12 ตัน และแผงแต่ละตัวจะเชื่อมต่อเข้ากับมิเตอร์อัจฉริยะที่คอยวัดพลังงานไฟฟ้าที่ ได้ ก่อนจะส่งพลังงานเหล่านั้นไปให้แก่ระบบไฟฟ้าริมถนนจ่ายให้โคมไฟทางเดิน และท้องถนนที่จักรยานขับผ่าน เสมือนหนึ่งมีโคมไฟโซล่าเซลล์ รอบเมือง เพื่อให้ความสว่างในยามค่ำคืน
     
โดย วิศวกรผู้พัฒนา SolaRoad เผยว่า ใช้เวลาถึง 5 ปีในการพัฒนาให้ระบบรองรับการทำงานในทุกสภาวะ ยกตัวอย่างเช่น หากมีแผงโซลาร์เซลล์บางแผงที่แตกหักเสียหาย หรือสกปรกจนรับแสงอาทิตย์ไม่ได้ ก็จะปิดตัวเองไปเฉพาะแผ่นนั้น ไม่กระทบต่อระบบโดยรวมทั้งหมดแต่อย่างใด

นอก จากนั้น ในช่วงทดสอบยังพบว่า มีนักปั่นจักรยานมาใช้บริการถนนดังกล่าวมากกว่า 150,000 คน แต่ตลอด 6 เดือนพบว่า เกิดความเสียหายเพียง 1 ครั้งเท่านั้น โดยเป็นความเสียหายกับวัสดุเคลือบแผงโซลาร์เซลล์ที่แยกตัวออกมาเป็นชั้นๆ อันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ซึ่งทางทีมงานอยู่ระหว่างการหาทางพัฒนาวัสดุเคลือบให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
     
สิ่ง ที่ทีมวิจัยผู้ออกแบบแผงโซล่าร์เซลล์สำหรับถนนครั้งนี้ต้องการคือ การพัฒนาให้มันอยู่คงทนได้อย่างน้อย 20 ปี ซึ่งเท่ากับอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์ชนิดที่ติดตั้งบนหลังคานั่นเอง
     
ปัจจุบัน แนวคิดดังกล่าวได้กระจายออกไปตามชานเมืองทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว และคาดว่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ก็เตรียมจะได้มีถนนในลักษณะเดียวกันนี้ในอีกไม่ช้า

Cr.Creative Move,e-news ,Asia21st

ดาวพลูโต มีมนุษย์ไหม ?


ดาวพลูโต มีมนุษย์ไหม ?
ภาพเปรียบเทียบขนาดของโลก ดวงจันทร์ และดาวพลูโต ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุด (ภาพจากไทยรัฐ)

ดาวพลูโต ซึ่งถูกตั้งชื่อ ตามชื่อของเทพแห่งขุมนรก เนื่องจากถือเป็นดาวที่อยู่ไกลที่สุดของระบบสุริยะของเรา กลับมาอยู่ในความสนใจของมหาชนอีกครั้ง หลังองค์การนาซา (NASA) ประสบความสำเร็จในการส่งยานสำรวจ NEW HORIZONS มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าไปอยู่ในจุดที่ใกล้ที่สุดในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ เพื่อทำการสำรวจอย่างจริงจังได้เป็นผลสำเร็จ แม้จะต้องกินระยะเวลาเฉพาะการเดินทางร่วม 10 ปี ก็ตาม

การสำรวจ จักรวาลในครั้งนี้ ผ่านเลนส์ในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องของประเทศไทย รศ.ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล ที่ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไทยรัฐ

ดาวพลูโต มีดวงจันทร์ เป็นบริวารถึง 5 ดวง !
แม้ ดาวพลูโต มีดวงจันทร์บริวาร ถึง 5 ดวง หรือ อาจจะมากกว่า แต่ดาวพลูโต ก็ยังมีขนาดเล็กกว่า ดวงจันทร์ของโลกเรา เพราะดวงจันทร์ของโลกเรานั้น มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3,450 กิโลเมตร ในขณะที่ ดาวพลูโต มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 2,370 กิโลเมตร

วัน-เวลาบนดาวพลูโต
ดาว พลูโตโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ  ใช้เวลา 248 ปี หมุนรอบตัวเอง 1 รอบ ใช้เวลา 6 วัน 9 ชั่วโมง  ส่วนของโลกเราโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้เวลา1 ปี หรือ 365 วันของโลก และหมุนรอบตัวเองใช้เวลา 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมงของโลก

บรรยากาศของดาวพลูโต
บรรยากาศ ของดาวพลูโต เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นไนโตรเจนบริสุทธิ์ (PURE NITROGEN) ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยของดาวที่อยู่ไกลที่สุดของระบบสุริยะของเรานี้ อยู่ที่ -229 องศาเซลเซียส! พูดง่ายๆ คือ หนาวยะเยือกสุดขั้วหัวใจจนกลายเป็นน้ำแข็งกันเลยล่ะ

พื้นผิวของดาวพลูโตเป็นอย่างไร?
พื้น ผิวของดาวพลูโตนั้น มีภูเขา แต่กลับไม่มีร่องรอยของการถูกชนโดยอุกกาบาตเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ ที่ดวงดาวขนาดใหญ่แบบพลูโต จะไม่ถูกอุกกาบาตพุ่งเข้าชนเลยสักครั้ง…ในขณะที่อายุจริงของดาวพลูโต ตามที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์นั้น น่าจะอยู่ที่ประมาณ 4,500 - 4,600 ล้านปี หรือเกิดมาพร้อมๆ กับโลกสีน้ำเงิน ที่เต็มไปด้วยร่องรอยการถูกชนโดยอุกกาบาตของเราเนี่ยแหละ...

ดาวพลูโต มีภูเขาน้ำแข็ง
พบ ภูเขาน้ำแข็งบนที่ราบโดยที่ภูเขาน้ำแข็ง ที่มีขนาดความสูงถึง 3,353 เมตร ซึ่งกำลังเป็นที่ฮือฮาอยู่ในเวลานี้ เป็นน้ำจริงๆ แม้จะไม่มากเท่าไร แต่เป็นภูเขาน้ำแข็งที่งอกขึ้นมาจากที่ราบ ที่เป็นไนโตรเจนและมีเทนแข็ง  เจ้าภูเขาน้ำแข็งนี้ อาจจะมีความแข็งเสียยิ่งกว่าเหล็กเสียอีก ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีก 1 ข้อมูลใหม่ ที่สร้างความพิศวงให้กับนักวิทยาศาสตร์มากเช่นกัน เพราะยังไม่เคยมีการสำรวจพบการเกิดภูเขาน้ำแข็งในลักษณะแบบนี้บนดาวดวงอื่น เลย!

เจอน้ำแข็ง แล้วจะเจอน้ำไหม ?
กรณีของดาวพลูโตนั้น เราพบ ไนโตรเจน และน้ำแข็ง หลังจากนั้นมีการพบเจอน้ำบางส่วนบนดาวพลูโต ทำให้นักวิทยาศาสตร์คิดทฤษฎีขึ้นมาเช่นกันว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่บริเวณใต้ดินของดาวพลูโต อาจจะมีแหล่งน้ำอยู่ เช่นเดียวกับดวงจันทร์ยูโรปา ของ ดาวพฤหัสบดี ซึ่งเชื่อกันว่ามีน้ำจำนวนมากอยู่ใต้พื้นดิน นอกจากนี้ บริเวณขั้วของดาวพลูโต ที่พบว่าลักษณะคล้ายๆ เป็นแถบน้ำแข็งขนาดใหญ่นั้น ที่สุดกลับพบว่าไม่ใช่น้ำ แต่เป็นมีเทนและไนโตรเจน

มีน้ำ ก็เท่ากับมีออกซิเจน แต่ไม่พบสิ่งมีชีวิต?
ขณะ นี้เราพบ ไนโตรเจน และน้ำแข็ง ซึ่งมีไฮโดรเจนและออกซิเจนรวมอยู่ แต่ยังไม่เจอคาร์บอน ทำให้โอกาสที่เราจะเจอสิ่งมีชีวิตในแบบของสัตว์ หรือแบบเป็นมนุษย์คงลำบาก จนถึงขณะนี้ยังไม่มี สิ่งสนับสนุนที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ เว้นแต่...จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดมาก ในแบบที่มนุษย์เรานึกไม่ถึงจริงๆ  หากจะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้จริงๆ ก็คงประหลาดมาก และคงไม่น่ามีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ในระดับที่เราเรียกว่า พืช หรือ สัตว์ ที่เห็นได้ เพราะหากเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ก็จะมีกิจกรรมเกิดขึ้น ซึ่งกิจกรรมที่ว่านี้จะมีร่องรอยหลักฐานให้ ยาน NEW HORIZONS สามารถพบเห็นแล้ว ส่งมาให้เราได้ฮือฮาอย่างแน่นอน


ยาน NEW HORIZONS มีภารกิจสำรวจดาวพลูโตกี่ปี ?
เบื้อง ต้น จะมีการเก็บข้อมูลดาวพลูโต ไปอีกประมาณ 16 เดือน รวมถึงดวงจันทร์ชารอน และดวงจันทร์อีก 4 ดวง แต่หากจะว่ากันตรงๆ ก็ต้องบอกว่า เงินทุนสำหรับโครงการนี้ มีเพียงพอสำรวจดาวพลูโต และแถบไคเปอร์ ได้เพียงถึงปี ค.ศ.2016 เท่านั้น แม้ว่าเจ้าตัวยาน NEW HORIZONS เอง จะมีพลังงาน ที่สามารถทำงานต่อไปได้ด้วยตัวของมันเอง คือ อาศัย แบตเตอรี่สำรองแบบนิวเคลียร์พลูโตเนียม อย่างน้อยถึงปี ค.ศ.2022 ก็ตาม

ยาน NEW HORIZONS บรรทุกอะไรไปบ้างในภารกิจพิชิตดาวพลูโต
ยาน NEW HORIZONS เอาเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ไปไม่มากและแน่นนอนคงไม่ได้เอาเครื่องมือวัดขนาด พวกไมโครมิเตอร์ไปแน่ ( Micrometer )  เพราะนาซา ใช้งบประมาณน้อย โดยมีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพียง 6 ชุด เท่านั้น โดยใน 6 ชุดนี้ มีชุดหนึ่งที่น่าสนใจมาก คือ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ (University of Colorado Boulder California) ที่มีชื่อย่อว่า VB-SDC (The student dust counter) หรือเครื่องมือจับฝุ่นในอวกาศ โดยที่ VB คือ เวเนเทีย เบอร์นีย์ (VENETIA BURNEY) ผู้ตั้งชื่อดาวพลูโต เมื่อดาวพลูโตถูกค้นพบ 85 ปีก่อน ในขณะเธอมีอายุ 11 ปี

นอกเหนือไปจากเครื่องมือวิทยาศาสตร์แล้ว ยังนำสิ่งของอื่นๆ ในเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับดาวพลูโตและโลกไปด้วยหลายอย่าง เช่น นำเถ้ากระดูกของผู้ค้นพบดาวพลูโต  แผ่นซีดีรอม มีภาพคณะผู้ทำงานโครงการ NEW HORIZONS และชื่อของคนบนโลกอีกกว่า 434,000 ชื่อ ไปกับยาน NEW HORIZONS เป็นเชิงสัญลักษณ์ว่า มนุษย์มาเยือนดาวพลูโตด้วยตนเองยังไม่ได้ แต่ก็ขอส่งชื่อมาเยือนกับยาน NEW HORIZONS ก่อน

Cr.ไทยรัฐ,เล่าสู่กันฟัง ,Synergy | Facebook

ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา เธอคือใครกัน ?

 
ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา เธอคือใครกัน ?
ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา เธอคือใครกัน ?


“ม่านฟ้า” คนนั้นเธอคือใครกัน?

       แชตไลน์หลุดปริศนา ที่คาดว่าน่าจะเป็นบทสนทนาระหว่างพระเอกขาวใสขวัญใจสาวๆ สน ยุกต์ ส่งไพศาล กับ ม่านฟ้า ว่าที่ ดร.อรปภัตร จันทรสาขา ไฮโซสาวเซี้ยะรวยระดับพันล้าน ไล่อ่านจากแชตไลน์แล้วจะพบว่า ซุ่มแซ่บคบหาดูใจกันอยู่หรือไม่ ซ่อนความหวามและหวานเอาไว้ไม่น้อย!

       โดยม่านฟ้ากล่าวสั้นๆ ไวๆ กับบันเทิงไทยรัฐออนไลน์ว่า "รู้จักกันจริงกับสน แต่ขออนุญาตนะคะๆ ตอนนี้ยังไม่พร้อมจริงๆ ที่จะพูดถึงสน ต้องขอโทษด้วยค่ะๆ" ส่วนเรื่องไลน์หลุดนั้น ม่านฟ้าก็ยังย้ำคำเดิมเสียงดังว่า ยังไม่ขอตอบตอนนี้.
      
        อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทีมข่าว Super บันเทิง ก็ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวคนหนึ่งว่า แท้จริงหญิงสาวที่มีชื่อ “ม่านฟ้า” คนนั้น เธอหาใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นหนึ่งในบรรดาคนแวดวงบันเทิงของบ้านเรานี่เอง
      
        โดยสาวม่านฟ้าคนนั้นมีชื่อจริงว่า “อรปภัตร จันทรสาขา” เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2532 จบการศึกษาจากสาขาวิชาธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยว คณะศิลปศาสตร์ ม.เกษมบัณฑิต, วิชาการสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก
      
        เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านความงาม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ MARFELLA ปัจจุบันนั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาร์เฟลล่า อิตาลี จำกัด
      
        นอกจากนี้ก็ยังเป็นประธานสหกรณ์ ที่ สหกรณ์รถบริการภูเก็ต คอลเซ็นเตอร์ จำกัด, กรรมการผู้จัดการ ที่ บริษัท สไมค์ แลนด์ แฟคตอรี่ จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นภัสสร 555 จำกัด อีกด้วย
      
        ว่ากันถึงความสวยความงามนั้นต้องบอกว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะมีตำแหน่งการันตีมาแล้วทั้ง ดาวคณะศิลปศาสตร์, นางนพมาศประจำปี 2553 ในการประกวดภายในของมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
      
        ปี พ.ศ. 2554 เจ้าตัวได้เข้าร่วมประกวดเวที “มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2011” ผ่านเข้ารอบ 44 คนสุดท้าย จากนั้นจึงไปคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 ในการประกวดมิสไทยแลนด์ บีช อินเตอร์เนชั่นแนล 2011 (Miss Thailand Beach International 2011) มาครอง
      
        และในปีเดียวกันเธอก็ได้สมัครเข้าร่วมประกวดสาวงามเวที “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2011” จนได้เข้ารอบ 30 คนสุดท้ายก่อนที่เธอจะขอถอนตัวออกไปโดยโพสต์ให้เหตุผลว่าติดภาระเรื่องเรียน
      
        “ม่านฟ้าต้องขอโทษทุกๆ คนด้วยนะค่ะ ถ้าม่านฟ้าทราบว่าตารางมันจะชนแบบนี้ม่านฟ้าจะไม่ไปสมัครเลยค่ะ ตอนนี้ม่านก็เรียนเทอมสุดท้ายแล้วค่ะ ม่านก็ต้องไปออกทริปต่างจังหวัดที่ระยอง เพราะเป็นวิชาบังคับถ้าไม่ไปก็ไม่ผ่านและไม่จบ ตารางก็มาตรงกับเก็บตัวที่พังงาพอดีค่ะ”
    

   
        “และยังมีเรื่องสอบอีกค่ะ ตรงกับช่วงสอบพอดีเลยค่ะ ทำเรื่องสอบย้อนหลังได้ก็จริงค่ะ แต่ว่าจะได้ข้อสอบชุดใหม่ยากกว่าเดิมอีกค่ะ เกรดออกช้าด้วยค่ะ ครั้งที่แล้วที่ประกวด MTU ม่านก็สอบญี่ปุ่นย้อนหลัง ตอนนี้เกรดยังเป็น เอฟ อยู่เลยค่ะ หวังว่าทุกคนยังคงให้โอกาสม่านฟ้านะค่ะ ถ้าม่านฟ้าจะมาใหม่ในครั้งต่อไป”
      
        ว่าไปถึงงานในวงการบันเทิง นอกจากงานเดินแบบแล้วเจ้าตัวยังเคยเป็นหนึ่งในอดีตนักแสดง “น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์” ทางช่อง 3 มาก่อนด้วย
      
        ขณะที่ในแวดวงดนตรีก็อาจจะคุ้นหน้าเธอคนนี้อยู่บ้าง หลังเจ้าตัวเคยคว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดร้องเพลงโครงการ Singing Camp Contest ปี 2548 ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการเป็นผู้จัด รวมถึงได้ตำแหน่งรองชนะเลิศในการประกวดร้องเพลง “พวงมาลัย” โครงการ ต้านยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีข่าวว่าเจ้าตัวนั้นได้เซ็นสัญญาเพื่อเข้าเป็นศิลปินนัก ร้องลูกทุ่งกับค่าย “ยู พี แอล” มาแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาแต่อย่าง ใดกระทั่งเธอมาตกเป็นข่าวกับนักการเมืองอดีตดาราที่ว่า
      
        ทั้งนี้แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่า แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ใจว่านามสกุล “จันทรสาขา” ของสาวม่านฟ้าคนนี้จะเป็นสายเดียวกับสกุลซึ่งพระราชทานแก่ “พระยาศศิวงศ์ประวัติ” (เมฆ จันทรสาขา) เจ้าเมืองมุกดาหารองค์สุดท้ายที่สืบเชื้อสายเจ้าพระยาจันทรศรีสุราชอุปราชา มันธาตุราช (กินรี จันทรสาขา) เจ้าเมืองบังมุกองค์แรก และเป็นโอรสเจ้าศรีวิไชย นัดดาเจ้าศรีวรวังโส ปนัดดาพระเจ้าโพธิสาลราช พระเจ้านครเวียงจันทน์หรือไม่...แต่ที่บอกได้ก็คือครอบครัวของเธอนั้นรวย มาก!




Cr.ไทยรัฐ,ผู้จัดการ ,e-news ,Asia21st       

โรคซึมเศร้า ค่อย ๆ แก้ก็หายได้ด้วย ?


โรคซึมเศร้า ค่อย ๆ แก้ก็หายได้ด้วย ?
โรคซึมเศร้า ค่อย ๆ แก้ก็หายได้ด้วย ?
นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณี นายประชาธิป มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ Sqweez Animal อายุ 31 ปี กระโดดตึกฆ่าตัวตาย ว่า จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิตปี 2556 พบว่า คนไทยฆ่าตัวตายกว่า 3,900 รายต่อปี เฉลี่ยคนไทยฆ่าตัวตาย 1 คน ทุก 2 ชั่วโมง

โดยช่วงอายุที่ฆ่าตัวตายมากที่สุดคือ 30-39 ปี โดยผู้ชายฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าผู้หญิง 3.8 เท่า
โดยเกือบ 90% ของผู้ฆ่าตัวตายต้องการความช่วยเหลือในด้านสุขภาพจิตขณะนั้น โดย 2 ใน 3 มีอาการของโรคซึมเศร้าที่ ไม่ได้รับการวินิจฉัยและการรักษา

ที่สำคัญคือจากการศึกษาในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา พบว่า นักเขียนและศิลปิน เมื่อเทียบกับประชากรทั่วไปมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่า 8-10 เท่า และมีโอกาสฆ่าตัวตายมากกว่าคนทั่วไป 6-18 เท่า
นพ.วรตม์ กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มศิลปินมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตายสูงกว่าคนปกติ

 เพราะคาแรกเตอร์ของตัวศิลปินเอง เช่น มีความสันโดดมากกว่าผู้อื่น มีอารมณ์ร่วมหรือเซนซิทีฟต่อเหตุการณ์ต่างๆ ได้ง่าย บวกกับสภาพแวดล้อมเศรษฐานะต่างๆ นอกจากนี้ เรื่องการรักษาภาพพจน์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งด้วย

 เพราะศิลปินที่มีชื่อเสียงบางครั้งไม่สามารถแสดงออกหรือระบายปัญหาของตนให้ ใครรับทราบได้ และเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิต เพราะกลัวกระทบภาพลักษณ์ของศิลปิน ซึ่งคนทั่วไปจะต้องมองว่าศิลปินดาราจะต้องสมบูรณ์แบบ รวมไปถึงได้รับความคาดหวังสูงจากคนในสังคม ทำให้บางคนรับแรงกดดันไม่ไหว เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ศิลปินดาราเป็นเพียงคนธรรมดาที่สามารถรับความเครียดได้เหมือนกับคนปกติ แต่หากศิลปินดาราที่กังวลไม่กล้าปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต เพราะกลัวคนนำไปขยายความ จริงๆ แล้วก็มีสถานบริการเอกชนหลายแห่งที่ให้บริการทางด้านนี้ ก็สามารถนัดเวลานอกเวลาราชการ หรือในวันที่คนไม่เยอะได้ เพื่อคลายความกังวลใจได้

ในพระพุทธศาสนา ถึงแม้จะพูดเรื่องอานิสงส์ของการทำสมาธิว่าทำให้ผ่อนคลาย ทำให้อารมณ์ดี จิตใจแจ่มใส เบิกบาน ผิวพรรณวรรณผ่องใส อายุยืนก็ตาม แต่ก็ไม่มีผลการพิสูจน์ออกมาทางวิทยาศาสตร์เลย ต่อมาวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าผลของการฝึกสมาธิมีผลต่อร่างกายและจิตใจจริง ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคซึมเศร้ามากขึ้น และเมื่อวัดคลื่นสมองพบว่าสมาธิทำให้สมองผ่อนคลายและคลายเครียดลง

และเนื่องจากสมาธินี้เป็นเรื่องของธรรมชาติที่เป็นการปฏิบัติต่อจิตใจซึ่งบางส่วนสามารถวัดหรือพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจึงได้มีนักค้นคว้าและนักวิจัยหลายคนได้ทำการศึกษาค้นคว้าโดยวิธีที่เป็นวิทยาศาสตร์

การศึกษาสมาธิด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2503 เป็นต้นมา ผู้ที่ศึกษาเรื่องสมาธิกับวิทยาศาสตร์นี้ไว้มากคือ ดร.เฮอร์เบิร์ต เบนสัน (Herbert Benson M.D.) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางอายุรศาสตร์แห่งโรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ศึกษาเรื่องนี้อยู่กว่า 30 ปีท่านได้สร้างทีมงานและสถาบันวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับร่างกายและจิตใจ (Mind-Body medical institute) ในฮาร์วาร์ด สถาบันแห่งนี้ได้สร้างองค์ความรู้ทางด้านกายและจิตไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นที่ใช้อ้างอิงกันทั่วไปนับว่าเป็นผู้บุกเบิกความรู้ทางด้านนี้อย่างมาก

ดร.เบนสัน นอกจากเป็นนักวิทยาศาสตร์แล้ว ท่านยังมีความรู้ทางพระพุทธศาสนาอย่างดี ท่านได้เดินทางไปศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศธิเบตและอินเดีย โดยเฉพาะในเรื่องสมาธิและโยคะ

ช่วงแรก ดร. เบนสัน ได้นำอาสาสมัครที่ฝึกสมาธิแบบ ที.เอ็ม. (Trancendental Meditation, TM) โดยให้อาสาสมัครทำสมาธิ แล้ววัดความดันอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ คลื่นสมอง คลื่นหัวใจ เจาะเลือดดูกรดแลคติก ผลการวิจัยพบว่า ในคนที่จิตเป็นสมาธิ ความดันจะลดลง อัตราการหายใจลดลง หัวใจเต้นช้าลง คลื่นสมองช้าและเป็นระเบียบขึ้น

การเผาผลาญอาหารในร่างกายลดลง ความตึงตัวของกล้ามเนื้อลดลง เขาเรียกปรากฏการณ์ที่ค้นพบนี้ว่า ผลของความผ่อนคลาย (Relaxation Responses) การค้นพบครั้งนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของงานวิจัยที่ทำติดต่อกันมาเป็นเวลา 30 ปีและทำให้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ยอมรับเรื่องจิตใจมีผลต่อร่างกาย ดังนั้น การรักษาโรคซึมเศร้า ก็รักษาได้โดยการทำใจให้เป็นสมาธิ มีความผ่อนคลาย ซึ่งเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง

จะเห็นว่า ผลของความผ่อนคลาย ที่กล่าวมานี้จะตรงกันข้ามกับผลที่เกิดจากความเครียด กล่าวคือ ในเวลาที่เราเครียด ความดันจะสูงขึ้น การหายใจจะเร็วขึ้น ชีพจรจะเร็วขึ้น กล้ามเนื้อจะตึงตัวมากขึ้น อัตราการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายมากขึ้น ร่างกายใช้อ๊อกซิเจนมากขึ้น คลื่นสมองมีความถี่สูงขึ้น ที่สำคัญความเครียดจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคซึมเศร้า การทำให้เกิดความผ่อนคลาย(Relaxation Responses) ก็ทำให้โรคซึมเศร้าต่างๆ หายได้เช่นกัน   

Cr.สนุก,เล่าสู่กันฟัง ,Synergy | Facebook

29 ก.ค. 2558

หลอดไฟ LED ถนอมอาหาร


หลอดไฟ LED ถนอมอาหาร
หลอดไฟ LED ถนอมอาหาร


หลอดไฟแอลอีดี เป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆที่มีอยู่ในตลาดทั้ง หมด และการประหยัดเงินค่าไฟฟ้าจากการใช้หลอดไฟ LED ตั้งแต่ 15-75% แล้วแต่ชนิดของหลอดเดิม แถมไม่มีแสง UV ปล่อยความร้อนน้อย และแสงจากหลอดไฟ LED ไม่กระพริบ

การใช้หลอดไฟ LED มีประโยชน์พอสมควร ลองมาดูครับว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วทำไมมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ จึงนำมาใช้รักษาอาหาร ฆ่าเชื้อโรคแทนสารเคมี ช่วยให้คุณค่าของผักผลไม้ และ อาหารมีคุณค่า ปราศจากสารเคมี ต่าง ๆ

คณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย แห่งชาติสิงคโปร์ ได้เปิดเผยว่า ได้ค้นพบแสงสีน้ำเงินของหลอดไฟแอลอีดีมีสรรพคุณเป็นยาต้านแบคทีเรียอย่าง ชะงัด สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคที่มากับอาหาร และนำไปใช้ในการถนอมอาหาร แถมยังสามารถตั้งเวลาให้หลอดไฟอัตโนมัติได้ตามเวลาที่ต้องการ ส่งความสดของอาหารได้ตามความต้องการของลูกค้า

แสง สีน้ำเงินของหลอดไฟแอลอีดีจะออกฤทธิ์ได้เต็มที่ หากอยู่ภายใต้อุณหภูมิระหว่าง 4 ถึง 15 องศาเซลเซียส และมีฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อย การค้นพบนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ใช้หลอดไฟแอลอีดีแทนสารเคมีในการรักษาอาหารได้ พวกอาหารสด อย่างเช่นผลไม้สดและเนื้อสัตว์ที่พร้อมที่จะบริโภค จะสามารถรักษาโดยใช้แสงไฟอันนี้ ในอุณหภูมิที่เย็นโดยไม่ต้องใช้สารเคมีอย่างที่ใช้กันอยู่อย่างปกติ

หัวหน้านักวิจัยกล่าวสรุปว่า ผลการศึกษาของเรา ส่อว่าอาจจะใช้แสงไฟจากหลอดแอลอีดีในการเก็บรักษาอาหารเป็นเหมือนไฟอัตโนมัติถนอม อาหารตามเวลาทีต้องการ ภายใต้อุณหภูมิอันเย็นได้ โดยไม่ต้องง้อสารเคมีเลย แต่ยังจะต้องมีการค้นคว้าต่อไปว่ามันจะทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่  ส่วนประโยชน์ของหลอดไฟแอลอีดี ยังมีประโยชน์อีกเยอะ มาดูกันว่า เขามองประโยชน์อย่างไรบ้าง

ประโยชน์จากการใช้หลอดไฟ LED

1. ไม่มีแสง UV
หลอด ไฟประเภท LED ที่เป็นที่นิยมใช้ในยุโรปและประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหมด เพราะไม่มีแสง UV ปลดปล่อยออกจากแสงใดๆเลยแม้แต่น้อย เนื่องด้วย UV จะมีผลกระทบต่อสินค้าที่โดนแสงอย่างต่อเนื่องยาวนาน

2. ปล่อยความร้อนน้อยลงกว่าหลอดไฟแบบเดิม
เนื่อง ด้วยการเปิดหลอดนีออนเพื่อแสงสว่างนั้น คุณต้องการแค่ “แสงสว่าง” เป็นสำคัญ ไม่ได้ต้องการความร้อนแต่อย่างใด ความร้อนเหล่านี้ เกิดขึ้นอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเทคโนโลยีแบบเดิมๆของหลอดไฟ ที่อาจจะปล่อยความร้อนออกมากับคลื่น แต่หลอดไฟ LED ปล่อยความร้อนน้อยลงกว่าหลอดไฟแบบเดิมหลายเท่า

3. LED ทนต่อการสั่นสะเทือนมากกว่า
หลอด ไฟประเภท LED จะมีความสามารถในการทนต่อการสั่นสะเทือนได้มากกว่า เช่น ลิฟต์ ที่ติดตั้งในอาคาร จะติดไฟประเภท LED เพราะลิฟต์ นั้นจะมีอาการสั่นและเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ลดโอกาสการเสียของหลอดไฟได้มากขึ้น ทำให้ไม่ต้องมีพนักงานเข้าไปเปลี่ยนหลอดไฟถี่เท่าเดิม

4. แสงจากหลอดไฟ LED ไม่กระพริบ
หลอด ไฟฟูออเรสเซ้นต์แบบเดิมนั้นจะมีการกระพริบของแสงที่ความถี่ของการกระพริบ 50 Hz.  คนงานและพนักงานประมาณ 10-30% มีปฏิกิริยากับการกระพริบของแสงเหล่านี้ โดยอาการที่เกิดเช่น อาการปวดหัว ปวดตา เมื่อมองชิ้นงานภายใต้แสงนีออนต่อเนื่องหลายชั่วโมง   หลอดไฟ LED ไม่มีการกระพริบของแสง  แสงที่กระทบเข้าตาของพนักงานเหล่านั้นเป็นแสงที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น และเหมาะสมมากขึ้นในการทำงานที่ต่อเนื่อง


5. ประสิทธิภาพของแสงที่เหมาะสมกับรูปแบบโคม
เนื่อง จาก LED จะมีทิศทางการส่องสว่างแบบเป็นท่อ ไม่ได้กระจายออกทุกทิศทาง ทำให้สามารถออกแบบตัวหลอดให้เหมาะสมกับโคม โดยไม่ปล่อยแสงไปในทิศทางที่ไม่ต้องการได้ ทำให้เกิดการประหยัดไฟฟ้าได้

Cr.ไทยรัฐ,เล่าสู่กันฟัง ,Asia21st

ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible

 
ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible
ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible


Mission: Impossible เป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์สายลับที่สร้างติดต่อกันมา5 ภาคแล้ว และเป็นหนึ่งในแอ็คชั่นสายลับสุดคลาสสิคที่แฟนหนังทั่วโลกจดจำได้มากที่สุด โดยในแต่ละภาคประสบความสำเร็จและมีฉากระดับตำนานที่เป็นจุดขายจนเป็นที่จดจำ อีธาน ฮันท์ รับบทโดย ทอม ครูซ จะต้องห้อยโหน โจนทะยานไปกับฉากเสี่ยงตายหลายรูปแบบ ซึ่งนั่นกลายเป็นเสน่ห์ของ Mission: Impossible  ที่ แตกต่างจากหนังเรื่องอื่น เพราะส่วนใหญ่ ทอม ครูซ จะลงทุนเล่นเองโดยไม่ใช้สตั๊นท์แมนเพื่อความสมจริง วันนี้มาดูฉากเบื้องหลังภาคที่ผ่านมา จะพาทุกคนย้อนรำลึกไปกับ 4 ฉากในตำนานและอีก 1 ฉากเสี่ยงตายของทอม ครูซ จากหนังแฟรนไชส์สุดระห่ำนี้

1. Mission: Impossible
อีธานฮันท์ หัวหน้าหน่วย Mission Impossible Force (IMF) ถูกป้ายความผิดว่าอยู่เบื้องหลังฉากฆาตกรรมลูกน้องของตัวเอง เขาจึงต้องพิสูจน์ความบริสุทธื์ด้วยการเข้าไปล้วงข้อมูลในกองบัญชาการของ CIA เพื่อนำข้อมูลลับที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา  ฉากลุ้นระทึกที่ทำเอาคนดูต้องลุ้นเกร็งจนเหงื่อตกก็คือฉากที่อีธาน ห้อยตัวลงมาเอาข้อมูลโหลดใส่แผ่นดิสก์ ซึ่งหากเท้าหรือสิ่งแปลกปลอม แตะพื้นแม้แต่นิดเดียวสัญญาณเตือนภัยจะส่ง เสียงดัง โดยระหว่างนั้นเหงื่อของอีธานก็จะหยดลงพื้นพอดีด้วย งานนี้เล่นเอาคนดูลุ้นตามไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible


2. Mission: Impossible II
อีธาน ฮันต์ ถูกตามตัวให้มาปฏิบัติภารกิจทำลายเชื้อไวรัสจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่วางแผนจะแพร่เชื้อและขายยาต้านไวรัสในราคาที่สูง อีธานจึงต้องเข้ามายับยั้งแผนร้ายนี้ ซึ่งผู้ก่อการร้ายก็คือ ฌอน แอมโบรส  อดีตสายลับใน IMF เอง โดยฉากขายของภาคนี้มาตั้งแต่เปิดเรื่องเมื่อทอม ครูซ เสี่ยงตายด้วยการปีนหน้าผาสูง แบบไม่ใช่สลิงห้อยโหนแต่อย่างใด มุมกล้องเผยให้เห็นความเวิ้งว้างเบื้องล่าง ยิ่งทำให้คนดูเสียววาบไปกันใหญ่ ความระทึกของฉากนี้อยู่ตรงที่การกระโดดของอีธาน ที่เผลอรูดไปกับหน้าผาก่อนจะใช้มือจับขอบหน้าผาไว้ได้ จนปีนมาสู่ยอดบนสุด 

ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible


3. Mission: Impossible III
อีธานลาออกจากการทำงานเป็นสายลับเพื่อไป ใช้ชีวิตรักตามปกติ แต่แล้วก็ดันโดนตามตัวด่วนให้มาปฏิบัติภารกิจที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะลูก น้องของเขาถูกจับตัวไป การกลับมารับบทสายลับจึงเริ่มต้นอีกครั้ง โดยฉากที่น่าจดจำของภาคนี้คงจะหนีไม่พ้นฉากการแอ็คชั่นบนสะพาน เมื่อขีปนาวุธยิงถล่มทำให้การจราจรบนเกิดโกลาหล สะพานพังในขณะที่รถของอีธานพลิกคว่ำ บนฟ้ายังมีเฮลิคอปเตอร์สาดกระสุนลงมาอีก ความโดดเด่นของฉากนี้อยู่ที่การจัดเต็มเอฟเฟ็กต์ระเบิดจัดหนัก ทั้งเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์  

ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible


4. Mission: Impossible – Ghost Protocol
อีธาน ฮันต์ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากคุกในมอสโก ของรัสเซีย ภารกิจในครั้งนี้คือการไปค้นหาเอกสารลับที่อยู่ใน พระราชวังเครมลิน แต่ก็โดนบุกโจมตี ฮันต์หลบหนีไป ในขณะที่รัสเซียเริ่มประกาศสงครามกับสหรัฐ โดยทางสหรัฐได้เริ่มปฏิบัติการไร้เงา ฉากระทึกที่หลายคนชื่นชอบในภาคนี้คือฉากที่อีธาน ปีนตึกสูงในดูไบ โดยใช้เพียงถุงมือเหนียวหนึบ ซึ่งฉากนี้ครูซลงทุนเล่นด้วยเอง สร้างความระทึกมากๆ เพราะมุมกล้องถ่ายให้เห็นความสูงของตัวอาคาร ในขณะที่ข้างนอกเกิดพายุทะเลทรายกำลังพัดเข้ามาด้วย งานนี้ความระทึกจึงไม่ได้อยู่ที่ความสูงเท่านั้น เพราะว่าเจ้าถุงมือสุดไฮเทคเกิดพลังงานหมดด้วย งานนี้จึงทำให้อีธานต้องปีนตึกด้วยมือเปล่า เห็นแล้วเสียวสุดๆ 

ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible


5.Mission: Impossible – Rogue Nation
เมื่อหน่วย IMF กำลังถูกยุบ แถมอีธาน ฮันต์ก็พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากองค์กรลับที่ชื่อว่า Syndicate  ปฏิบัติการแอ็คชั่นจึงกลับมาเริ่มอีกครั้ง ในภาคนี้มีฉากเสี่ยงตายที่ทำเอาหลายคนอึ้งมากๆ ซึ่งเป็นฉากที่ทอม ครูซ เกาะเครื่องบิน โดยไม่ใช้สตั๊นท์แมน ซึ่งถือว่าอันตรายมากเพราะเครื่องบิน เหาะจริง เหินฟ้าจริง ในขณะที่ร่างของครูซมีเพียบสลิงเส้นเดียวเกาะติดร่างเอาไว้ และความแรงที่เกิดจากความเร็วของเครื่องบินก็เสี่ยงที่จะทำให้เขาตกลงมาได้ ซึ่งเราจะได้ชมฉากนี้เต็มๆ 29 ก.ค.นี้ รอบ หลัง 3 ทุ่ม เป็นต้นไป


ฉากเสี่ยงตาย Mission: Impossible


Cr.เมเจอร์,ข้อมูลอัพเดท ,เล่าสู่กันฟัง  





ทอม ครูซ : Mission Impossible

 
Mission: Impossible
Mission: Impossible
ทอม ครูซ คือนักแสดงที่คนทั่วโลกชื่นชม ผู้สร้างผลกระทบให้กับวงการภาพยนตร์จนประเมินค่าไม่ได้ ด้วยการสร้างสรรค์ตัวละครที่อยู่ในความทรงจำมากที่สุดตลอดกาลในภาพยนตร์ที่ เป็นตำนานอย่าง“Top Gun,” “Jerry Maguire,” “Risky Business,” “Minority Report,” “Interview with the Vampire,” “A Few Good Men,” “The Firm,” “Rain Man,” “Collateral,” “The Last Samurai, “ “Edge of Tomorrow” และ “The Color of Money”

ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ เขาได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในทุกแง่มุมของงานสร้างภาพยนตร์ ความสามารถที่หลากหลายของครูซ ปรากฎให้เห็นในภาพยนตร์และบทบาทที่เขาเลือกแสดง เขามีผลงานภาพยนตร์ 39 เรื่อง และหลายเรื่องที่เขาทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างรวมถึง Mission: Impossible 

เขา ยังได้ร่วมงานกับผู้กำกับเก่งๆ มากมาย ซึ่งรวมถึง ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า, ริดลี่ย์ สก็อตต์, โทนี่ สก็อตต์, มาร์ติน สกอร์เซซี่, แบร์รี่ เลอวินสัน, โอลิเวอร์ สโตน, รอน ฮาวเวิร์ด, ร็อบ ไรเนอร์, ซิดนี่ย์ พอลแล็ค, นีล จอร์แดน, ไบรอัน เดอ พัลม่า, คาเมรอน โครว์, สแตนลี่ย์ คูบริค, พอล โธมัส แอนเดอร์สัน, เอ๊ด ซวิค, สตีเว่น สปีลเบิร์ก, ไมเคิล มานน์, เจเจ อับรามส์, โรเบิร์ต เร็ดฟอร์ด, แบร็ด เบิร์ด, ดั๊ก ไลแมน และคริส แม็คควอร์รี่

ครูซประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะนักแสดง ผู้อำนวยการสร้าง และยังเป็นคนใจบุญสุนทานนับแต่อยู่ในวงการมานานกว่าสามทศวรรษ เขาเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 3 ครั้ง และได้รับรางวัลลูกโลกทองคำถึง 3 รางวัล ผลงานภาพยนตร์ที่เขาแสดงเอาไว้ทำรายได้จากทั่วโลกไปมากกว่า 8 พันล้านดอลล่าร์ ถือเป็นความสำเร็จที่ไม่มีใครทัดเทียม ภาพยนตร์ของครูซ 18 เรื่อง สามารถทำรายได้ในอเมริกาได้มากกว่า 100 ล้าน และมี 21 เรื่องที่สามารถทำรายได้จากทั่วโลกไปมากกว่า 200 ล้าน

Mission: Impossible - Ghost Protocol” เปิดตัวฉายในเดือนธันวาคม ปี 2011 และทำรายได้ไปเกือบ 700 ล้าน จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดสำหรับครูซ เมื่อรวมรายได้ทั้งหมดจากการเปิดตัวฉายของภาพยนตร์ชุด " Mission: Impossible " สูงมากกว่า 2 พันล้าน นับแต่ที่ครูซเริ่มคิดหาไอเดียในการสร้างภาพยนตร์ และเริ่มต้นทำงานอำนวยการสร้าง และยังรับบทนำเป็น อีธาน ฮันท์ 

"Mission: Impossible Rogue Nation" ภาคที่ 5 ของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าโรงฉายทั่วโลกในซัมเมอร์นี้ ปัจจุบัน ครูซอยู่ระหว่างดำเนินงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง Mena โดยเขาได้ร่วมงานกับ ดั๊ก ไลแมน อีกครั้ง หลังจากนั้น เขาจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Nowhere to Run” ซึ่งสร้างจากนิยาย แจ็ค รีชเชอร์ ตอนล่าสุด ซึ่งจะทำให้เขาได้กลับมาร่วมงานกับ เอ๊ด ซวิค อีกครั้ง

ผลงานในระยะหลังๆ ของครูซ ยังรวมถึงภาพยนตร์อย่าง “Edge of Tomorrow” ซึ่งเปิดตัวฉายโดยได้รับคำชมไปทั่ว, “Oblivion” และภาพยนตร์ทริลเลอร์สุดเขย่าขวัญเรื่อง “Jack Reacher” ซึ่งทำรายได้จากทั่วโลกไป 218 ล้าน และยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำกำไรสูงสุดในปี 2012 ก่อนหน้านั้น 

 ผลงานภาพยนตร์ของครูซ ยังได้แก่การร่วมแสดงในภาพยนตร์ตลกสุดฮิตของ เบน สติลเลอร์ เรื่อง “Tropic Thunder” ซึ่งเขารับบทเป็นเจ้าพ่อวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เลส กรอสส์แมน บทบาทที่ครูซสร้างขึ้นมาเองนี้ ทำให้เขาได้รับคำชมจากทั้งนักวิจารณ์และคนดู รวมไปถึงยังทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำรางวัลที่ 7 ด้วย

ครูซเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ออสการ์ สาขาดารานำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “Born on the Fourth of July” และ “Jerry Maguire” นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาดาราสมทบชายยอดเยี่ยมจาก ภาพยนตร์เรื่อง “Magnolia” 

เขายังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ 3 รางวัล ในสาขาดารานำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง “Born on the Fourth of July” จาก “Jerry Maguire” และสาขาดาราสมทบชายอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “Magnolia” และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงจากภาพยนตร์เรื่อง “Risky Business,” “A Few Good Men” และ “The Last Samurai”


เปิดจอง Windows 10

 
เปิดจอง Windows 10
เปิดจอง Windows 10

เมื่อเร็วๆนี้ ในเว็บไซต์หลักของ Windows 10 ได้มีการเผยแพร่ฟีเจอร์อีกตัวหนึ่งนั้นคือ การจัดการคลังภาพถ่ายของเรา "Photos app" โดยเราสามารถจัดระเบียบภาพถ่ายของเราได้เหมือนในสมาร์ทโฟนกันเลย เหมาะสำหรับใครที่ใช้โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสมากๆ 

และยังมีการชูฟีเจอร์ด้านความบันเทิงอื่นๆอีกมากมาย เพื่อกระตุ้นชักชวนให้ทุกๆคนหันมาอัพเกรดตัว Windows 10 นี้ให้ได้ เรียกได้ว่างานนี้ทาง Microsoft ทุ่มเทให้กับตัวระบบปฏิบัติการตัวนี้อยู่แบบหมดหน้าตักจริงๆ แม้ว่าตอนนี้่ยังมีคนกังวลอยู่ว่า "หากอัพไปแล้วจะส่งผลเสียอะไรบ้างไหม ?" ก็ตาม

จากที่ได้การปล่อยตัว Windows 10 รุ่นทดสอบตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนมาถึงตัวทดสอบรุ่นสุดท้ายในชื่อรุ่นว่า Windows 10 build 10240 ซึ่ง หลังจากนั้น ก็ไม่มีรุ่นทดสอบตัวอื่นออกมาอีกเลย จากนั้นเมื่อมีคนไปโหลดตัว build รุ่นนี้มาใช้ ผลปรากฏว่า แทบไม่มีผลเสียอะไรเกิดขึ้นเลย แถมยังเสถียรกว่ารุ่นทดสอบที่ผ่านมาอีกด้วย 

ทำให้มีการนิยามรุ่นทดสอบตัวนี้ว่าเป็นรุ่น RTM กันเลย (รุ่นส่งให้โรงงานไปผลิต) ดังนั้นจึงเดาได้ว่า ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ตัวนี้ มีความสมบูรณ์พร้อมให้ทุกคนไปโหลดใช้งานแบบฟรีๆแล้ว โดยวันพรุ่งนี้คือวันติดสิน !! แต่ก่อนหน้านั้น เราลองมาดูโฆษณา "สิบเหตุผลควรอัพเกรด Windows 10″ ที่มีการชูฟีเจอร์ใหม่ทั้ง 10 ในแต่ละข้อกันก่อนครับ






สนุก ไปกับคุณลักษณะใหม่อันน่าทึ่งและประสบการณ์ที่คุ้นเคย คุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ Windows 10 ให้คุณอัปเดตข้อมูลต่างๆ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยคุณลักษณะการรักษาความปลอดภัยในตัว เราออกแบบให้การอัปเกรดมีความรวดเร็วและง่ายดาย และไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปเพราะเอกสารและไฟล์ของคุณจะคงไว้เหมือนเดิม

Cr.Sanook,ข้อมูลอัพเดท ,e-news

27 ก.ค. 2558

งดเหล้าครบพรรษา

 
งดเหล้าครบพรรษา
งดเหล้าครบพรรษา
 
เชิญชวน ให้คนร่วมงดดื่มสุราและกระตุ้นให้ชุมชนและครอบครัวช่วยสนับสนุน ด้วยการชื่นชมให้กำลังใจผู้ตั้งใจงดเหล้า สามารถงดเหล้าได้ครบพรรษามากยิ่งขึ้น โดยมีนักแสดงชื่อดัง “เต๋า-สมชาย เข็มกลัด” ที่งดเหล้าช่วงเข้าพรรษาสำเร็จมาแล้วถึง 6 พรรษา มาร่วมรณรงค์ให้เหล่านักดื่มสุราทั่วประเทศ ได้เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์จากการลดละเลิกการดื่มสุรา โดยได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์งดเหล้าเข้าพรรษา ในงานเสวนนา “รวมพลังคนไทย หัวใจไร้แอลกอฮอล์” 
 
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) จัดแคมเปญรณรงค์ งดเหล้าเข้าพรรษามาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 10 ปี ใน ปี 2558 นี้ สสส.ได้จัดแคมเปญรณรงค์ตอกย้ำให้ประชาชน “งดเหล้าครบพรรษา” โดยมีการจัดทำแคมเปญหลัก “เป็นคนใหม่ได้ในพรรษาเดียว”
 
พร้อมร่วมขึ้นเวทีเสวนากับ “น.พ.สมาน ฟูตระกูล”, “ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี” และ “ผศ.ดร.บุญอยู่ ขอพรประเสริฐ” ในงานวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ณ ลานซิตี้วอล์ค ชั้น 6 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน 
 
 
เต๋า สมชาย บอกความรู้สึกอย่างภาคภูมิใจที่ได้มาร่วมในโครงการนี้ว่า “การงดเหล้าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ยิ่งมีการรณรงค์ด้วยยิ่งเป็นเรื่องน่าประทับใจอย่างยิ่ง ผมว่าสิ่งที่ทำมันดีทั้งกับตัวเองและครอบครัว ดีกับทุกอย่างเลยครับ รวมถึงยังทำให้เรามีสติ คือเมื่อสติมาสตางค์ก็อยู่ครบ เมื่อขาดสติสตางค์ก็หายไป วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่แค่คิดว่าจะงด จะเลิก ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีแล้วครับ 
 
ลองคิดที่จะทำก่อน ทำได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากัน ไม่ต้องรออะไรเริ่มกันพรรษานี้เลย งดเหล้าแค่ 3 เดือนไม่ใช่เรื่องยากครับ มันอยู่ที่ใจ ถ้าคุณมีใจรับรองว่าคุณทำได้ทุกอย่าง ถ้าทำได้แล้วอีกหน่อยก็พัฒนาเป็น 4 เดือน ปีหนึ่ง หรือตลอดชีวิต แต่ตอนนี้ง่ายๆ ก่อนแค่เข้าพรรษา ผมเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ” 

Cr.บ้านเมือง,e-news ,Asia21st

วันอาสาฬหบูชา เที่ยวงานฟรี

 
วันอาสาฬหบูชา เที่ยวงานฟรี
วันอาสาฬหบูชา เที่ยวงานฟรี

เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ
เนื่องในวันอาสาฬหบูชา 30 กรกฎาคม 2558 เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าฟรี ในช่วงเย็นของวันอาสาฬหบูชา ตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 20.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนเข้าร่วมในพิธีสวดมนต์และเวียนเทียนรอบพระ ธาตุบังพวน เมืองโบราณ ถวายเป็นพุทธบูชา อันจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัวสืบไป โดยมีบริการรถรางรับ-ส่ง ไปยังบริเวณพระธาตุบังพวน 

เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมฟรี ในเย็นวันอาสาฬหบูชา 30 ก.ค. 58 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 20.00 น. เพื่อร่วมพิธีสวดมนต์และเวียนเทียนรอบพระธาตุบังพวน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยมีบริการรถรางรับ-ส่ง ไปยังบริเวณพระธาตุบังพวน เมืองโบราณ

สำหรับรายละเอียดกิจกรรมเวียนเทียนเมืองโบราณมีดังนี้
       • เวลา 16.00 น. เปิดเข้าชมฟรี มีรถรางบริการรับ-ส่งมายังบริเวณพระธาตุบังพวน
       • เวลา 18.00 น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา
       • เวลา 18.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ สวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรและ สวดพระปริตร ร่วมถวายเทียนจำนำพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน แด่พระสงฆ์
       • เวลา 19.00-20.00 น. ร่วมเวียนเทียน รอบพระธาตุบังพวน ที่ได้ประดิษฐานพระพุทธเจ้า 28 พระองค์
      
       ทั้งนี้ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-323-4094-9 หรือ Facebook fanpage: เมืองโบราณ สมุทรปราการ
 

ขสมก จัดรถไหว้พระ 9 วัด ฟรี
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ประกาศแจ้ง เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษานี้ ขสมก. ได้จัดเดินรถไหว้พระ 9 วัด รอบเกาะรัตนโกสินทร์ในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สนใจนั่งรถกราบไหว้พระในวันสำคัญเช่นนี้

ทั้งนี้ ได้มีการจัดให้บริการรถจำนวน 20 คัน จะเริ่มวิ่งให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. โดยจุดรับส่งผู้ใช้บริการจะตั้งอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพหรืออู่ หมอชิต 2 และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร




  

26 ก.ค. 2558

'เจมส์จิ' ฝากถึง 'พลอยชมพู'

'เจมส์จิ' ฝากถึง 'พลอยชมพู'
'เจมส์จิ' ฝากถึง 'พลอยชมพู'

น่ารัก-อยากติดตาม..หลัง "เจมส์ จิรายุ" พระเอกช่อง3 แจงลงรูปคู่ "พลอยชมพู" ดาวรุ่งช่อง ONE

ซุปตาร์วิกน้อยสี อย่าง "เจมส์" จิรายุ ตั้งศรีสุข คิดอะไรหรือเปล่ากับ "พลอยชมพู" ญานนีน ภารวี ไวเกล หลังลงรูปคู่ในอินสตาแกรมโชว์ลายเซ็นของนักร้องและดาราเด็กปั้นช่อง ONE

เจมส์ จิรายุ แจงลงรูปคู่พลอยชมพูเพราะทำงานด้วยกันและช่างภาพถ่ายรูปคู่ให้เลยขอลายเซ็น รับชื่นชอบผลงานอีกฝ่าย ชมน่ารักแต่ไม่มีลุ้นพัฒนาแฟน ย้ำยังโสดมีคนคุยบ้างแต่ไม่ได้จีบหรือคุยกับใครเป็นพิเศษ สเปกชอบผู้หญิงจิตใจดี-น่ารัก

ทำเอาบรรดาขาเม้าท์แอบสงสัยไม่น้อยเมื่อพระเอกหนุ่มฮอต เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข ลงรูปคู่พร้อมลายเซ็นของนักร้องสาววัยใสที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียล พลอยชมพู ญานนีน ภารวี ไวเกล ในอินสตาแกรม ทั้งที่ปกติเจ้าตัวจะไม่ค่อยลงรูปคู่กับสาวๆ สักเท่าไร ไม่รู้ว่างานนี้หนุ่มเจมส์หลงเสน่ห์แอบปลื้มสาวน้อยคนนี้อยู่รึเปล่า ได้เจอเจ้าตัวมาร่วมงานเปิดตัวโยเกิร์ต “เมจิ บัลแกเรีย โกลเด้น ฮันนี่” ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน เลยได้โอกาสสอบถามถึงประเด็นนี้

เรื่องดังกล่าว "ซุปตาร์เจมส์จิ" แจงสื่อในงานเปิดตัวโยเกิร์ต “เมจิ บัลแกเรีย โกลเด้น ฮันนี่” ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ว่าเหตุผลที่ลงภาพ "พลอยชมพู" ในอินสตาแกรมว่า เป็นเรื่องทำงานกับน้อง ไม่มีอะไร พอดีไปถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารด้วยกัน เห็นน้องน่ารักดี และประทับใจร้องเพลงเก่งและมีโอกาสดูละครน้องเขาด้วย

"ติดตามผลงานเขาอยู่ แต่ไม่มีอะไรแน่นอน ถามว่ามีลุ้นไหมคงไม่น่าลุ้นได้เท่าไรครับ”  ส่วนตัวเราเป็นแฟนคลับเขาด้วยรึเปล่า? “ก็ติดตามผลงานเขาอยู่ครับ แต่ไม่มีอะไรแน่นอนครับ ถามว่ามีลุ้นไหมคงไม่น่าลุ้นได้เท่าไรครับ” กลัวแฟนคลับจะแอนตี้เขาไหม? “ก็คงไม่ครับ แค่ลงรูปคู่เองครับ” แต่ก็มีคนมาคอมเมนต์ว่าน่ารักเยอะมาก? “ครับ ก็น้องน่ารักครับ” คนจับตามองเพราะเราไม่ค่อยลงรูปคู่ผู้หญิง? “คือผมมีโอกาสว่างๆ ก็ลงครับ ผมเขินก็ไม่กล้าลงรูปเท่าไรครับ”

คนนี้ถูกสเปกไหม? “ไม่ครับ แค่ติดตามผลงานเฉยๆ ครับ” ยืนยันว่าโสด? “ก็โสดปกติครับ มีแต่คนทำงานแหละครับ อยู่กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ครับ” มีคนคุยบ้างไหม? “ก็ไม่เชิงคุยจีบๆ คุยธรรมดาปกติทั่วไปครับ” วางสเปกไว้เยอะไหม? “ไม่ได้วางสเปกไว้เยอะครับ” สเปกส่วนตัวเป็นแนวไหน? “คือไม่ได้สเปกรูปร่างภายนอกขนาดนั้น ผมชอบผู้หญิงจิตใจดี น่ารักครับ”.

อย่างไรก็ตาม แค่ปล่อยมุกลงภาพคู่ก็เรียกเรตติ้ง "ข่าวเมาท์" ปลุกกระแส "ดาวเด่น" กับ "ดาวรุ่ง" วิน-วินกันทั้งสองฝ่าย ว่ามั้ย.."หนุ่มเจมส์จิ-สาวพลอยชมพู"

Cr.กรุงเทพธุรกิจ,เล่าสู่กันฟัง ,Synergy | Facebook

25 ก.ค. 2558

โรงแรมหุ่นยนต์


 โรงแรมหุ่นยนต์

หุ่นยนต์อนาคต(Humanoid Robot)ใช้จริงแล้วที่ญี่ปุ่น  โรงแรมญี่ปุ่นใช้ “หุ่นยนต์” ต้อนรับแขกแล้ว  โรงแรมใหม่ในประเทศญี่ปุ่น แถวเมืองนางาซากิ ชื่อว่าโรงแรม เฮนน์นา (Hen-na Hotel) เปิดตัวในวันที่ 17 กรกฏาคม ที่จะถึงนี้นั้น มีความแปลกกว่าโรงแรมในที่อื่น คือใช้หุ่นยนต์ที่มีหน้าตาและท่าทางคล้ายมนุษย์หญิงสาวอย่างหุ่นยนต์  ”Actroid”  ถึง 10 ตัว

หุ่นยนต์ในโรงแรม สามารถจดจำใบหน้าของลูกค้า แขกที่เข้ามาพักแค่กดปุ่มเช็กอินอัตโนมัติ จะมีกล้องจิ๋วคล้าย กล้องปากกา ตรงส่วนนั้นจะจดจำใบหน้าของแขกเอาไว้เพื่อ ใช้เวลาเข้าห้องผ่าน กลอนไฟฟ้าดิ จิทัล (Digital Door Lock) โดยไม่ต้องใช้กุญแจไขให้ยุ่งยาก และสั่งปลดล็อคประตูโดยกลอนไฟฟ้าดิจิทัล ตั้งควบคุมไฟ ควบคุณอุณภูมิภายในห้องโดยอัตโนมัติด้วย  ไฮเทคจริงๆ

แนวความคิดนี้ ได้รับแรงบันดาลใจาก  ผู้บริหารระดับสูงของซีอีโอของบริษัทนำเที่ยวต้นทุนต่ำ เอชไอเอส ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแนวคิดโรงแรมหุ่นยนต์(Humanoid Robot)นี้ โดยเผยว่า แม้หุ่นยนต์ จะมาใช้งานแทนที่มนุษย์ไม่ได้เสียทั้งหมด แต่ถ้าดูในแง่ของความเป็นมิตรและความสุภาพแล้ว หุ่นยนต์น่าจะถูกนำมาใช้เป็นพนักงานต้อนรับในโรงแรมได้

โรงแรมยังใช้ หุ่นยนต์(Humanoid Robot) ที่คอยช่วยขนสัมภาระ 4 ตัว และหุ่นยนต์ทำความสะอาดถึง 3 ตัว  ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนั้น สามารถคุยกับผู้ที่จะพักโรงแรมนี้ ได้ถึง 4 ภาษาด้วยกัน คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลีใต้  แค่เอากระเป๋าไปวางไว้บนหุ่นยนต์ กดปุ่มเลขที่ห้อง แล้วกดปุ่มสตาร์ต หุ่นยนต์จะพากระเป๋าไปส่งต่อให้กับหุ่นยนต์อีกตัว เพื่อเอากระเป๋าไปเก็บไว้ในล็อกเกอร์ รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน

ภายใน ห้องจะมีการติดตั้งผนัง เรดิเอชัน พาเนล (Radiation Panels) เป็นผนังที่จะคอยปรับอุณหภูมิภายในห้องแบบอัตโนมัติ โดยใช้วิธีตรวจจับความร้อนจากร่างกายแขกที่มาพัก ในห้องจะเห็นหุ่นยนต์ดอกทิวลิปตั้งอยู่ด้วย ไว้คอยดูแลเรื่องการปรับความสว่างของไฟ หรือระบบแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งยังมีหน้าจอแจ้งราคาห้องไว้ด้วย

ซีอีโอคนดังกล่าว ระบุว่า โรงแรมแห่งนี้เป็นแบบต้นทุนต่ำคิดว่า น่าจะได้รับความนิยมเหมือนสายการบินต้นทุนต่ำเช่นกัน ไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในโรงแรมได้มาจากพลังงานแสงอาทิตย์นำมาใช้ภายในโรงแรม หลายส่วน เช่น โคมไฟโซล่าเซลล์ เครื่องทำน้ำอุ่น หม้อต้มน้ำ ฯลฯ  จึงตัดลดต้นทุนลงไปได้มาก ส่วนค่าห้องเริ่มต้นที่คืนละ 7,000 เยน หรือประมาณ 2,000 บาท แต่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว ราคาห้องจะใช้วิธีประมูล ใครประมูลได้ราคาสูงสุดก็ได้เข้าพัก


Cr.Spring News

"3G " สังคมก้มหน้า


 "3G " สังคมก้มหน้า

"3G "  จุดเปลี่ยนสังคมก้มหน้า

สังคม เมืองและสังคมชนบท จุดเปลี่ยนจากเดิมไปสู่ โซเชียวบนมือถือหรือสังคมก้มหน้า ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ หรือเฉพาะจังหวัดใหญ่ ๆ อีกต่อไปที่การใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ในประเทศไทยต่างเห็นประโยชน์ของการใช้สมาร์ทดี ไวซ์ (Smart Device) หลากหลายรูปแบบ และมีความต้องการซื้อสูง ไม่ว่าจะเป็นไวไฟพกพา ( Pocket WiFi ) เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์เข้าถึงอินเทอร์เน็ต

ประมูล 3G จุดเปลี่ยน

โทรศัพท์ มือถือระบบ 3G เกิดขึ้นในปี 2555 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เพราะราคาการใช้โมบายอินเทอร์เน็ตถูกลง ประกอบกับสมาร์ทดีไวซ์ (Smart Device)ขยับราคาลงมามาก จนในสิ้นปี 2556 ที่โครงข่ายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือเพิ่มเป็น 93.1 ล้านเลขหมาย และมีผู้ใช้งาน 3G มากถึง 55.5 ล้านเลขหมาย

ล่าสุดในสิ้นปี 2557 มีปัจจัยบวกเข้ามาทั้งจากราคาแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ราคาเพียง 29 บาท/วัน และสมาร์ทดีไวซ์ (Smart Device) มีราคาเหลือ 1,000-2,000 บาท ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยไปไกลถึง 96 ล้านเลขหมาย และมีคนใช้งาน 3G มากกว่า 77 ล้านเลขหมาย

สังคมก้มหน้าจาก ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดผู้ใช้ 3G โตเร็ว คือเกิดการบอกต่อประโยชน์จากผู้ใช้คนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง ตัวอย่าง เช่น ลูกสอนแม่ให้ใช้ไลน์ (Line)เพื่อติดต่อสื่อสาร หรือใช้ยูทูบ (Youtube) รับสื่อบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ พอใช้จริงก็เกิดประโยชน์อย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายโทรศัพท์มือถือจากเดือนละ 500 บาท เหลือเพียง 200-300 บาท  เพราะพวกเขาเชื่อมต่อผ่าน ไวไฟพกพา (Pocket WiFi)ใช้ร่วมกันในบ้าน  เมือออกนอกบ้านก็มีไวไฟฟรีตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อใช้ไลน์ (Line)ในการโทรหากัน ส่วนเรื่องยูทูบ (Youtube)ก็ทำให้ดูหนังหรือฟังเพลงเมื่อไรก็ได้ จากเดิมที่ต้องเฝ้าดูรายการต่าง ๆผ่านโทรทัศน์เท่านั้น

พฤติกรรมภูธรสังคมก้มหน้า

"เอ็ม อินเตอร์แอคชั่น" ได้สำรวจผู้ที่ใช้สมาร์ทดีไวซ์น้อยกว่า 12 เดือน จำนวน 100 ตัวอย่าง ในภาคเหนือ, กลาง, ตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่าการใช้โมบายอินเทอร์เน็ตกระจายอยู่ในทุกระดับรายได้ โดยเหตุผลที่ขยับเข้ามาใช้งาน จากเครื่อข่ายมือถือ 3G ครอบคลุมพื้นที่ สามารถรับข่าวสารได้รวดเร็วกว่าสื่อปกติ

แม้นไม่มีโทรศัพท์บ้านก็สามารถใช้ระบบ 3G รองรับการเชื่อมต่อผ่าน ไวไฟพกพา (Pocket WiFi) ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นการกดติดตามแฟนเพจบนเฟซบุ๊ก (Facebook), สามารถติดต่อสื่อสารกับคนในครอบครัวผ่านไลน์ (Line) โซเซียลมีเดียอื่น ๆ และประยุกต์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กกับลักษณะงาน เช่น สร้างกลุ่มเพื่อติดต่อระหว่างคนในองค์กร

เมื่อเจาะไปที่การค้าขาย สินค้าผู้ใช้ในเฟซบุ๊ก (Facebook),อินสตาแกรม (Instagram) และไลน์ (Line)ในการซื้อขายสินค้า ใช้ตู้เอทีเอ็มเป็นช่องทางชำระผ่านการโอนเงิน ตั้งแต่ราคาสินค้า 500-2,000 บาทเท่านั้น ไม่มีการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ  หรือไลน์ (Line)ช็อปเหมือนในหัวเมืองใหญ่ เพราะยังมองว่าขั้นตอนในการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซค่อนข้างยุ่งยาก และการพูดคุยกับผู้ขายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก่อนโอนเงินจากบัญชีธนาคารผ่านเอทีเอ็มนั้นง่าย และสะดวกมากกว่า แล้วการรับสินค้าง่ายดายจาก EMS ส่งตรงถึงบ้าน

ฟรีไวไฟ (Free WiFi) จุดพลุโมบายเน็ต

เมื่อ ผู้บริโภคใช้ชีวิตอยู่บนหน้าจอเกือบตลอดเวลา สังคมก้มหน้าทำให้สื่อดั้งเดิมเช่น หนังสือพิมพ์ และคลื่นวิทยุ แทบไม่มีการใช้งานในต่างจังหวัด เพราะสามารถเสพสื่อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เร็วกว่าสื่อเดิม รวมถึงฟังเพลงผ่านยูทูบ (Youtube)แบบไม่มีโฆษณา และมีเสียง ดีเจ.คั่นเหมือนในวิทยุ ทำให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่ยากขึ้น ที่สำคัญการขยายตัวของ "ฟรีไวไฟ (Free WiFi)" ตามร้านอาหารและร้านตัดผม ทำให้ผู้ใช้ในต่างจังหวัดใช้สมาร์ทดีไวซ์เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์เหล่านี้ได้ เช่นกัน ซึ่งร้านค้าเหล่านี้ก็อาศัย "ฟรีไวไฟ (Free WiFi)" ปล่อยสัญญาณไวไฟผ่านไวไฟพกพา (Pocket WiFi) เป็นตัวดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้าน

คนในต่างจังหวัดมองเรื่อง ค่าใช้จ่ายต้องมาก่อนดังนั้นอะไรที่ฟรีพวกเขาก็จะมองก่อน ซึ่งเมื่อเทียบความคุ้มค่าระหว่างสมาร์ทโฟนราคาหลักพันกับโทรทัศน์ และวิทยุที่รวมราคาก็พอ ๆ กัน เขาก็เลือกสมาร์ทโฟนก่อน เพราะซื้อครั้งเดียวทำได้ทุกอย่าง  ทำให้คนต่างจังหวัดอ่านหนังสือพิมพ์น้อยลง และแทบไม่ฟังวิทยุ ส่วนบริการที่กำลังบูมคือเรื่องดิจิทัลต่าง ๆ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งจึงมีความสำคัญมากขึ้น


Cr.ประชาชาติธุรกิจ

24 ก.ค. 2558

นวัตกรรมใหม่ไทยคม


นวัตกรรมใหม่ไทยคม

บมจ.ไทยคม จัดงาน "Thaicom Innovation Day" ปีที่ 3 เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ค้ารวมถึงนักเรียนนักศึกษา ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาชมความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมของบริษัท โดยรวบรวมโซลูชั่นบริการด้านบรอดแบนด์และบรอดแคสต์(Broadcast & Broadband) ที่กำลังพัฒนาและเปิดให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว อาทิ โซลูชั่น สมาร์ทโฮม(Smart Home) สมาร์ทคอนโดและโฮเทล(Smart Condo & Hotel)

สมาร์ท ดีไวซ์ (Smart Device) ที่จะนำมาแสดง มีการให้บริการทีวีดิจิตอล อินเตอร์แอคทีพ ทั้งไฮบริดแคสต์(Hybridcast) และ วีดิโอ ทู ดาต้า(VDO To Data) ที่จะช่วยให้ผู้ชมรายการโทรทัศน์สามารถสั่งซื้อขายสินค้าที่ปรากฏหน้าจอได้ ทันทีผ่านทางออนไลน์

นวัตกรรมสมาร์ทโฮม(Smart Home) ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านผ่านสมาร์ทโฟน(Smartphone)  ทั้งเปิด- ปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ รวมถึงติดซิปอาร์เอฟไอดี (RFID)  หรือเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สายระยะสั้น ติดไว้ที่ซองอาหารหรือขวดน้ำในตู้เย็น เพื่อนำไปแตะหน้าแท็บเล็ต (Tablet)ของตู้เย็นสำหรับตรวจสอบของคงเหลือและคุณค่าทางโภชนาการ ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบ

สิ่งเหล่านี้นำมาจัดแสดงในงาน “ไทยคมอินโนเวชั่นเดย์ 2015” ปีนี้ชูนวัตกรรมบรอดคาสต์(Broadcast) และบรอดแบนด์(Broadband) ภายใต้คอนเซ็ปต์ เข้าถึง คมชัด สัมผัสได้ใกล้ตัวคุณ เน้นบริการที่จะเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น

นอกจาก นี้ยังเพิ่มในส่วนการรับชมรายการโทรทัศน์มัลติสกรีน สามารถรับชมได้ทุกหน้าจอ ทั้งจากโทรทัศน์สมาร์ทโฟน(Smartphone)  หรือแท็บเล็ต (Tablet) ผ่านการเชื่อมต่อสัญญาณบรอดแบนด์(Broadband) ทั้งบริการ ตัวรับสัญญาณ WiFi ผ่านดาวเทียมบนเครื่องบินของนกแอร์  รวมถึงทางเรือเฟอร์รี่ทั้ง 6 ลำที่ประเทศญี่ปุ่น  และกำลังพัฒนาให้สามารถให้บริการได้บนรถทัวร์ต่อเชื่อมผ่าน USB WiFi ซึ่งมีความเร็วในการดาวน์โหลดอยู่ที่ 50 เมกะบิตต่อวินาที

รวม ทั้งเทคโนโลยีด้านการโฆษณาดิจิตอลต่างๆ ทั้งป้ายโฆษณาดิจิตอล การรับชมสถานที่ท่องเที่ยวผ่านภาพพาโนรามา360องศา ซึ่งจะทำให้การโฆษณาต่างๆมีความน่าสนใจมากขึ้น

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยคม กล่าวว่า
ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีอิทธิพลกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและถูกปรับเปลี่ยนให้ เข้ามาตอบสนองความต้องการ รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจขึ้นมากมาย ในช่วง 2–3 ปีนี้

ไทยคมจึงได้ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากการเป็นผู้ให้บริการดาว เทียม ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านโทรคมนาคมและบรอดแคสต์(Broadcast) กลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นครบวงจร รวมเทคโนโลยีทั้งด้านบรอดแคสต์และบรอดแบนด์(Broadcast & Broadband)ไว้ด้วยกัน กลายเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแพลตฟอร์มดาวเทียม ตอบสนองความต้องการของทุกภาคอุตสาหกรรม

ปัจจุบันรายได้ของไทยคมอยู่ อันดับที่ 8 ของโลกในแง่ของบริษัทให้บริการดาวเทียม และการที่ไทยคมเสริมด้วยนวัตกรรมต่างๆ จะทำให้เหนือกว่าบริษัทดาวเทียมอื่นๆ แม้จะมีจำนวนดาวเทียมไม่เท่าที่อื่น โดยจะเน้นสร้างพันธมิตรในส่วนนี้และมองว่าจะเป็นแนวโน้มที่ดีของไทยคม. พร้อมตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมีรายได้ในส่วนนี้ถึงร้อยละ 20 จากรายได้ทั้งหมด

Cr.ไทยรัฐ

Solar Charger บางสุดในโลก


Solar Charger บางสุดในโลก

Solar Cell Charger” ที่ชาร์จเก็บไฟด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่บางเฉียบที่สุดในโลก !!!

เชื่อ ว่าหลายคนคงเคยจะได้ยินเรื่องของพลังงานโซล่าเซลล์ (Solar Cell)กันมาบ้างแล้ว แต่ยังไงมันก็ยังเป็นเรื่องที่ไกลตัวคนธรรมดาอย่างเราอยู่ดี เพราะด้วยการติดตั้งและบริษัทที่เชี่ยวชาญในการทำนั้นยังมีไม่มาก แต่วันนี้มีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าใกล้กับพลังงาน Solar Cell ได้ง่ายมากขึ้นสิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้มีชื่อว่า “Solar Paper”  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการระดมทุนจากเว็บไซต์ start-up ชื่อดังอย่าง Kickstarter

“Solar Paper” คือที่ชาร์จแบตเตอรี่สำรอง พลังงานโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ที่บางที่สุดในโลก โดยเจ้า Solar Paper สามารถใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน (Smartphone) โน๊ตบุ๊ค หรือแม้กระทั่งกล้องบางประเภท ขนาดของมันก็พอๆกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ๆประมาณ iPhone 6 Plus หรือ Samsung Galaxy Note 4 แต่จะมีความหนาแค่เพียง 1.5 มิลลิเมตรเท่านั้น

ที่ชาร์จแบตพวกอุปกรณ์สมาร์ทโฟน (Smartphone) หรือที่หลายๆคนอาจจะเรียกมันว่าแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่ทำมาจากโซล่าเซลล์นั้น น่าสนใจไม่ใช่น้อย แต่หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่า มันจะหนักมั้ย? หรือมันจะใหญ่เทอะทะไปมั้ย?  เพราะคิดว่าแผงโซล่าเซลล์ต้องใหญ่ๆ ถึงจะเก็บไฟได้เยอะๆ

เมื่อแบตของ Solar paper หมดลงคุณก็สามารถชาร์จแบตฯ ให้กับมันได้ด้วยการนำ Solar Paper วางไว้กลางแดด ถึงแม้ว่าแหล่งพลังงานของ  Solar Paper จะมาจากแสงอาทิตย์แต่มันก็สามารถให้พลังงานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ไม่ต่างจากปลั๊กไฟที่บ้านเลย

หากอยากจะเพิ่มปริมาณความจุพลังงาน แสงอาทิตย์ให้กับ Solar Paper ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการเพิ่มแผ่น Solar Paper ต่อกันไปเรื่อย ๆ ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดถือเป็นการเก็บสำรองไฟฟ้า Solar Collector ที่มีประโยชน์ ถ้าจะใช้งานก็แค่เปิดแผงออกมา แล้วก็เสียบเข้ากับอุปกรณ์ของคุณเพื่อเริ่มการชาร์จไฟ และไม่ว่าจะชาร์จกับแดดกลางแจ้ง หรือแม้แต่ชาร์จกับไฟในห้อง ก็ใช้ได้

นอก จากจะช่วยประหยัดค่าไฟที่บ้านคุณแล้ว Solar Paper ยังช่วยประหยัดพลังงาน และไม่สร้างมลพิษให้กับโลกอีกด้วย ล่าสุด เจ้า Solar Cell Charger ราคาอยู่ที่ 69 ดอลล่าร์ (ประมาณ 2,350 บาท) ซึ่งตัวเดียวน่าจะเพียงพอที่จะชาร์จไฟให้กับโทรศัพท์ แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) หรืออุปกรณ์เล็กๆที่กินไฟไม่มาก ส่วนแท็ปเล็ต หรือ กล้องถ่ายรูป อาจต้องใช้ประมาณ 3 – 4 แผงเลย ถ้าจะชาร์จไฟให้เต็ม ซึ่งสามารถซื้อแยกได้ แล้วเอามาติดกันแบบแม่เหล็กได้


Cr.Marketeer

สถานีเรดาร์โซล่าเซลล์


สถานีเรดาร์โซล่าเซลล์

พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานจากธรรมชาติ ที่ได้มาจากดวงอาทิตย์ ไม่มีมลพิษครับ เป็นพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพสูง สามารถนำมาใช้อย่างไม่หมดสิ้นตามความต้องการของเรา จะนำมาเพื่อผลิตไฟฟ้าหรือทำความร้อน โคมไฟโซล่าเซลล์ (Solar Cell)ให้แสงสว่าง และแม้กระทั่งทำความเย็นก็ยังได้

ใน ปัจจุบันถูกนำมาใช้แพร่หลายทั่วโลกเลยทีเดียวครับ  สำหรับประเทศไทยเรานั้นก็ได้มีการประยุกต์ใช้ทั้งหน่วยงานเอกชน ประชาชน แม้นแต่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทน เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell) นั่นเองครับ

ศูนย์ป้องกันทางอากาศ สถานีเรดาร์ (Radar) ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีรายงานดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดสูงที่สุด ของประเทศไทยด้วยระดับ 2,568 เมตร จากระดับน้ำทะเล และต้องปฏิบัติภารกิจตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบันกองทัพอากาศได้เร่ง รัดจัดการให้มีการใช้พลังงานทดแทน ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนพื้นที่ 60 ตารางเมตร บนหลังคาอาคารแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยพร้อมเก็บสำรองพลังงานไว้ใน แบตเตอรี่เพื่อทดสอบความพร้อมในการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบด้วยขนาด 800 kW ประมาณเดือนสิงหาคมนี้

สถานีเรดาร์ (Radar)ดอยอินทนนท์จะเปิดการผลิตและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้า โดยแผงโซลาร์เซลล์ สำหรับเป็นพลังงานทดแทนได้ทันทีที่ผลการทดสอบแล้วเสร็จเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานยิ่งขึ้น

เนื่องจากตลอด หลายปีที่ผ่านมาสถานีเรดาร์ (Radar)แห่งนี้ต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากสายส่งจากตัวเมืองเชียงใหม่มาสู่เส้น ทางขึ้นดอยที่สูงชันในสภาพป่าที่สมบูรณ์ บางครั้งจึงเกิดปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้องเพราะต้นไม้ถูกฟ้าผ่ามีกิ่งก้านหัก พาดสายไฟแรงสูงทำให้ต้องใช้ไฟสำรองจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเป็น เชื้อเพลิงระหว่างการซ่อมสายไฟ

พลังงานแสงอาทิตย์ยังจะช่วยลดภาระค่า ใช้จ่ายและความยุ่งยากให้กองทัพอากาศในการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปเก็บสำรอง ไว้ เช่นเดียวกับสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคมและสถานีเรดาร์ (Radar)บนภูกระดึง ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้า จึงต้องอาศัยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพียงสถานเดียว ซึ่งนอกจากจะมีภาระค่าใช้จ่ายสูงมากแล้ว ยังยุ่งยากเพราะไม่มีเส้นทางอื่นใดในการขนส่งนอกจากทางอากาศเท่านั้น เพื่อให้ภารกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหยุด

โครงการ ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อใช้งานในสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคมในส่วนที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงรวม 4 แห่ง และระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์สำหรับใช้งานระบบเรดาร์ (Radar)กองทัพอากาศรวม 15 หน่วย ซึ่งถือว่ามีส่วนช่วยเสริมเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้กับหน่วยงานความ มั่นคงของชาติเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีหน่วยราชการอื่นนำพลังงาน แสงอาทิตย์ ที่ใช้แผงโซลาร์เซลล์มาเป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ เป็นโครงการติดตั้งเสาไฟพร้อมโคมส่องสว่างแบบ โคมไฟโซล่าเซลล์ (Solar Cell) กับโครงการพัฒนาระบบแสงสว่างด้วยชุดโคมส่องสว่างแบบแอลอีดี (LED) ซึ่ง ศอ.บต. เป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ที่เป็นหน่วยงานความมั่นคงที่ได้จัดทำดำเนินการแล้วเสร็จครบทั้งหมดแล้ว เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

โดยที่โครงการในชุดเดียวกันนี้ คือโครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์แบบ รถเคลื่อนที่ ในฐานปฏิบัติการที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ กอ.รมน. ก็ได้เริ่มการผลิตรถพ่วงเคลื่อนที่ต้นแบบ กำลังอยู่ระหว่างการประกอบและติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ โดยคาดหมายว่าจะแล้วเสร็จสามารถส่งมอบแก่หน่วยงานความมั่นคงแห่งนี้ประมาณ ปลายปี 2558 นี้

ประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์
1.พลังงานที่ไม่มีวันหมด เป็นพลังงานจากธรรมชาติ ที่ได้มาจากดวงอาทิตย์
2.พลังงานที่สะอาด พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากโซล่าเซลล์ (Solar Cell)นั้นไม่เกิดมลพิษทางอากาศ
3.ผลิตไฟฟ้าได้ทั่วทุกมุมโลก ขอแค่เพียงมีแสงจากดวงอาทิตย์เท่านั้น
4.แหล่งผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ไหน ก็สามารถนำมาใช้งานได้ที่นั่นเลย ถ้าแสงอาทิตย์ไปถึง
4.สร้างไฟฟ้าได้ทุกขนาด เพิ่มกำลังได้ตามจำนวนแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell)

Cr.ไทยรัฐ

อาร์ เดอะสตาร์ & จียอน เลิกขาด


อาร์ เดอะสตาร์ & จียอน เลิกขาด
อาร์ เดอะสตาร์ & จียอน เลิกขาด
หลังจากข่าวรักง่อนแง่นจนสาวเกาหลีหัวใจไทย จียอน ลุกขึ้นมาลบภาพคู่หวานใจอย่าง อาร์-อาณัตพล ศิริชุมแสง ในอินสตาแกรมทิ้งเกลี้ยง โดนฝ่ายชายออกมาให้ข่าวว่าแค่งอนกันเพราะตนติดเที่ยว ตอนนี้กำลังง้ออยู่ แต่ล่าสุดหนังคนละม้วนเมื่อ จียอน ออกมาฉะแหลก อาร์ มีผู้หญิงอื่น! ประกาศเลิกขาดเพราะตาสว่างแล้ว โดย จียอน เปิดใจว่า

"เราเลิกกันมาได้ 1 เดือนแล้วค่ะ เพราะจับได้ว่าพี่อาร์มีผู้หญิงคนอื่นมีหลายคนด้วยทั้งในและนอกวงการ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เป็นคนชิลๆ พี่อาร์จะไปเที่ยวหรือติดเพื่อนก็ไม่เคยว่า แค่บอกก็ให้ไป โทรศัพท์ก็ไม่เคยเช็ก ไม่จุกจิกเคารพความเป็นส่วนตัวของเขา เรารู้ว่าเขาเป็นยังไงตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเป็นเพราะสาเหตุติดเที่ยวนี้คงเลิกกันไปนานแล้ว 

ก่อนหน้านี้มีคนมาบอกหลายรอบแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เชื่อคำพูดพี่อาร์อย่างเดียวเลย และครั้งแรกที่รู้ไม่มีหลักฐานก็ยังทำอะไรไม่ได้ แต่หลังจากที่จียอนกลับมาจากเกาหลีคราวนี้มีหลักฐานทั้งภาพนิ่งและภาพ เคลื่อนไหวเลย เราเป็นคนที่ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองจะไม่เชื่อเลย แต่พอเห็นยอมรับว่าโกรธมากแล้วก็หายไปประมาณ 2 อาทิตย์เพื่อที่จะทำใจ พี่อาร์ก็ไลน์มา โทรมาบ้าง เพื่อขอโทษ ขอโอกาส ขอคืนดี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาขอโทษเรื่องผู้หญิงแต่ก่อนหน้านี้เราไม่รู้

คือก่อนหน้าที่พี่อาร์จะออกมาให้สัมภาษณ์คือวันที่จียอนจับได้ว่าเขามี ผู้หญิงคนอื่นๆ เข้ามาอีกหลายคน ก็เลยบอกพี่อาร์ไปตรงๆ ว่าถ้าเจอพี่นักข่าวก็ให้บอกไปว่าความจริงคืออะไร แต่เขากลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่เลิกกันเพราะจียอนงอนที่เขาติดงาน ติดเพื่อน ติดเที่ยวไม่มีเวลาให้ จนทำจียอนดูเป็นผู้หญิงงี่เง่า เรื่องพวกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลิกกันของเราเลย เพราะเราทั้งคู่เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว 

เรื่องพวกนี้มันคุยกันได้ จียอนเองก็ทำงานตรงนี้เข้าใจได้ ซึ่งจียอนรู้สึกไม่เห็นด้วยที่เขาตอบแบบนั้นเลยโพสต์ไอจี ไม่เข้าใจว่ากล้าทำแต่ทำไมไม่กล้ายอมรับ เราต้องการแค่ความจริง ถ้าสมมติว่าจียอนทำอะไรผิดก็พร้อมที่จะเดินเข้าไปขอโทษเขา ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุย พี่อาร์มาง้อ จียอนก็ให้อภัย แต่สุดท้ายพี่อาร์ก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม และเขายอมรับเองว่าหยุดพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ จียอนก็ตัดสินใจว่าพอแล้ว แค่นี้ก็เจ็บมากแล้ว

แล้วเขาบอกว่าเดินหน้าง้อ แต่มันไม่มีการง้อเกิดขึ้นเลย ยอมรับว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว ทุกคนรอบข้างให้กำลังใจดีมาก จียอนกับพี่อาร์ก็ยังสามารถร่วมงานกันได้เหมือนเดิม เป็นเพื่อนกันก็ได้ แต่ถ้าให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมคงไม่แล้ว จบกันครั้งนี้ถือซะว่าเราใช้กรรมให้เขา เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักเขามาก ใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยคนเดียว ไม่ได้มีสังคมเยอะ ก็มีแค่พี่เขา 

เราทำได้ก็คือเชื่อใจพี่อาร์คนเดียว ส่วนยังรักเขาอยู่หรือเปล่าไม่ขอตอบดีกว่าค่ะ โชคดีแล้วที่พอหลังจากที่คุยกัน 3 วันเราก็ได้เห็นว่าเขาทำแบบเดิมอีก ขอเดินออกมาเพื่อก้าวไปข้างหน้า ตาสว่างแล้ว เชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะเจอคนที่ดี จริงใจ ไม่เจ้าชู้ เข้ามา ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนในชีวิตที่ทำให้เราแข็งแรงขึ้น สำหรับประเด็นข่าวที่บอกว่า เมย์ เป็นมือที่สาม อันนี้พอได้ยินข่าวมาบ้างแต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันคืออะไร ถามพี่อาร์เองดีกว่า"

Cr.ไทยรัฐ,e-news ,ข้อมูลอัพเดท

อุทยานราชภักดิ์หัวหิน พระอาทิตย์ทรงกลด


อุทยานราชภักดิ์หัวหิน พระอาทิตย์ทรงกลด
อุทยานราชภักดิ์หัวหิน พระอาทิตย์ทรงกลด

ฮือฮา เกิดปรากฎการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดบนท้องฟ้าเหนืออุทยานราชภักดิ์หัวหิน ขณะอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแห่งมหาราชประดิษฐานบนแท่นที่ ประทับ 

(วันที่ 24 กรกฎาคม 58) พ.อ.สุรินทร์ เศรษฐศิริ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญชิ้นส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ขึ้นประดิษฐานบนแท่นชั่วคราว เป็นองค์แรกภายใน อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน โดยใช้เครนขนาดใหญ่ ได้เกิดปรากฎการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือท้องฟ้า อ.หัวหิน ประมาณ 30 นาที ซึ่งสร้างความแปลกให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไปที่พบเห็นเป็นอย่าง มาก  

ด้าน พ.ต.ทพันษา อัมราพิทักษ์ สารวัตรตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 2 ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนย้ายพระบรมรูปสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จาก จ.ลพบุรี ระยะทาง 380 กิโลเมตร รถเทรเลอร์จะใช้ความเร็วเฉลี่ย 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามเส้นทางที่กำหนด คาดว่าจะเดินทางถึงอุทยานราชภักดิ์ ประมาณ 04.00 น.วันที่ 25 กรกฎาคม ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งเลื่อนการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด.
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กองทัพบกจัดสร้าง

"พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม" 


พร้อมจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์      โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์" ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ๗ พระองค์ ได้แก่

๑.พ่อขุนรามคำแหง (สมัยกรุงสุโขทัย)
๒.สมเด็จพระนเรศวร (สมัยกรุงศรีอยุธยา)
๓.สมเด็จพระนารายณ์ (สมัยกรุงศรีอยุธยา)
๔.สมเด็จพระเจ้าตากสิน (สมัยกรุงธนบุรี)
๕.พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
๖.พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
๗.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)
           ซึ่งทุกพระองค์ล้วนทรงสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ

พื้นที่และกรอบแนวคิดการจัดสร้าง          
กอง ทัพบก จะดำเนินการจัดสร้าง อุทยานราชภักดิ์ ภายในพื้นที่ของกองทัพบก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้พื้นที่ก่อสร้างรวมทั้งสิ้น ๒๒๒ ไร่เศษ ซึ่งองค์ประกอบภาพรวมของอุทยานราชภักดิ์ จะมีโครงสร้างหลักที่สำคัญ จำนวน ๓ ส่วนหลัก ประกอบด้วย
อุทยานราชภักดิ์หัวหิน พระอาทิตย์ทรงกลด
อุทยานราชภักดิ์หัวหิน พระอาทิตย์ทรงกลด
           ส่วนที่ ๑ : พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ แห่งสยาม จำนวน ๗ พระองค์ โดยพิจารณาเลิอกพระมหากษัตรย์แต่ละยุคสมัยตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ชึ่งพระนามแต่ละพระองค์เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ใช้พื้นที่ประมาณ ๕ ไร่ โดยรูปแบบของพระบรมราชานุสาวรีย์ จะจัดสร้างในลักษณะพระอิริยาบถทรงยืน ความสูงเฉลี่ยไม่เกิน ๑๓.๙ เมตร หล่อด้วยโลหะสำริดนอก
อุทยานราชภักดิ์หัวหิน พระอาทิตย์ทรงกลด
อุทยานราชภักดิ์หัวหิน พระอาทิตย์ทรงกลด
           ส่วนที่ ๒ : ลานอเนกประสงค์ มีเนื้อที่ประมาณ ๙๑ ไร่ ใช้สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพ และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ            ส่วนที่ ๓ : อาคารพิพิธภัณฑ์ หรือห้องจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ โดยการค้นคว้า รวบรวม และจัดทำพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจที่สำคัญของบูรพกษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยจะดำเนินการจัดสร้างบริเวณด้านล่างของฐานพระบรมราชานุสาวรีย์            พื้นที่ส่วนที่เหลือจำนวน ๑๒๖ ไร่ จะเป็นสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ และการจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวก 

23 ก.ค. 2558

ที่มา วันเข้าพรรษา 2558

ที่มา วันเข้าพรรษา 2558
ที่มา วันเข้าพรรษา 2558

ที่มาของวันเข้าพรรษา

ในเรื่องความเป็นมาของวันเข้าพรรษา ถ้าว่ากันตามประวัติย่อๆ คือ ในยุคต้นพุทธกาล ก็ยังไม่มีการเข้าพรรษา เพราะฉะนั้นตลอดทั้งปี เมื่อพระภิกษุมีความเห็นว่าท่านควรจะไปเทศน์ ไปสอนญาติโยมที่ไหนได้ ท่านพอมีเวลา ท่านก็จะไป หรือไม่ได้ไปเทศน์ไปสอนใคร ถ้าเห็นว่าที่ไหนมันเงียบ มันสงัดดี เหมาะในการที่จะไปบำเพ็ญภาวนา ทำสมาธิ(Meditation) ของท่าน ท่านก็จะไป ซึ่งแน่นอน ส่วนมากก็จะอยู่ในเขตที่เป็นป่าเป็นเขา ไกลๆออกไปจากตัวเมือง หรือว่าต้องผ่านไปในชนบทนั่นเอง
 
จากการที่ท่านต้องไปอย่างนี้ เนื่องจากในฤดูฝนที่เขาทำไร่ทำนากันอยู่นั้น บางครั้ง ข้าวกล้าของเขาก็เพิ่งหว่านลงไปในนา มันเพิ่งงอกออกมาใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุก็เดินผ่านไป นึกว่ามันเป็นดงหญ้า ก็เลยย่ำข้าวกล้าของเขาไป ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน เขาก็มาฟ้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระไปย่ำข้าวของเขาที่ปลูกเอาไว้ หว่านเอาไว้ นกกาฤดูฝนมันยังอยู่กับรังของมัน พระทำไมไม่รู้จักพักบ้าง

เพื่อตัดปัญหานี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เลยทรงกำหนดให้พระภิกษุ เมื่อเข้าพรรษา หรือเมื่อเข้าฤดูฝน ให้พระอยู่กับที่ คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำเดือน 8 จนกระทั่งขึ้น 15 ค่ำเดือน11 ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง ไม่ไปทำภาวนาที่ไหน ไม่ไปเทศน์โปรดใคร ถ้าใครต้องการให้โปรด ก็มาที่วัดก็แล้วกัน มาหาท่าน ไม่ใช่ท่านไปหาเขา กำหนดเป็นอย่างนี้ไป เพื่อตัดปัญหาไม่ให้ใครมาบ่นลูกของพระองค์ได้
 
แต่อีกมุมมองหนึ่ง พระองค์ทรงถือโอกาสที่เกิดเป็นปัญหานี้ ได้ทรงเปลี่ยนคำครหาให้กลายเป็นโอกาสดีของพระภิกษุว่า ถ้าอย่างนั้นพระภิกษุอยู่เป็นที่ในวัดวาอาราม เพื่อที่จะให้พระใหม่ได้รับการอบรมจากพระเก่าได้เต็มที่ เพราะว่าจริงๆ แล้ว ในการอบรมถ่ายทอดศีลธรรม ถ่ายทอดธรรมวินัยให้แก่กันและกันนั้น ถ้าทำอย่างต่อเนื่อง ทำเป็นที่เป็นทางต่อเนื่องกันทุกวันทุกวัน อย่างนี้จะเป็นการดี การศึกษาธรรมะอย่างต่อเนื่องมีผลดี
เพราะฉะนั้น พระองค์ก็เลยทรงกำหนดขึ้นมาว่า ให้พระภิกษุอยู่กับที่ในช่วงเข้าพรรษาอยู่ในวัด แล้วพระใหม่ก็ศึกษาหรือรับการถ่ายทอดธรรมะจากพระเก่า ส่วนพระเก่าก็ทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์ด้วย คือ สอนพระใหม่
 

เท่านั้นยังไม่พอ พระเก่าก็วางแผน กำหนดแผนการเลยว่าเมื่อออกพรรษาแล้ว ควรจะเดินทางไปโปรดที่ไหน นั่นก็อย่างหนึ่ง อีกทั้งปรับปรุงหลักสูตรวิธีการเทศน์การสอน การอบรมให้เหมาะกับท้องถิ่น ให้เหมาะกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป เป็นต้น
ความสำคัญของวันเข้าพรรษา

 

     
สำหรับชาวพุทธทั้งหลาย แต่โบราณ พอวันเข้าพรรษาก็ อธิษฐานพรรษากันเหมือนกัน อธิษฐานอย่างไร อธิษฐานอย่างนี้ พรรษานี้ สามเดือนนี้ ที่รู้ว่าอะไรเป็นนิสัยที่ไม่ดีในตัวเองที่มีอยู่ ก็อธิษฐานเลย พรรษนี้ (เลือกมาอย่างน้อยหนึ่งข้อ) เราจะแก้ไขตัวเองให้ได้ เช่น บางคนเคยกินเหล้า เข้าพรรษาแล้วก็อธิษฐานว่า พรรษนี้เลิกเหล้า เลิกเหล้าให้เด็ดขาด บางคนเคยสูบบุหรี่ ก็อธิษฐานว่า อย่างน้อยพรรษานี้จะเลิกบุหรี่ให้เด็ดขาด เป็นต้น เขาก็มีการอธิษฐานกันในวันเข้าพรรษา พรรษานี้จะละความไม่ดีอะไรบ้าง ทั้งหยาบ ทั้งละเอียด ให้พยายามละกัน คือ ทำตามพระให้เต็มที่นั่นเองในระดับของประชาชน

 

    สิ่งใดที่เป็นความดี ก็พยายามที่จะทำให้ยิ่งๆขึ้นไป เช่น เมื่อก่อนนี้ ก่อนจะเข้าพรรษา ตักบาตรบ้าง ไม่ตักบาตรบ้าง วันไหนมีโอกาสก็ทำ วันไหนชักจะขี้เกียจก็ไม่ทำ เมื่อพรรษานี้ พระอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาดีแล้ว ตั้งใจเลยที่จะตักบาตรให้ได้ทุกเช้า เมื่อก่อนไม่ทุกเช้า แค่วันเสาร์ วันอาทิตย์หรือวันโกนวันพระ พรรษานี้พระอยู่พร้อมหน้า อธิษฐานเลย จะตักบาตรทุกเช้าตลอดสามเดือนนี้ที่เข้าพรรษา นี่ก็เป็นธรรมเนียมที่ปู่ย่าตาทวดทำกัน
นอกจากนี้ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ชาวพุทธก็มาทำบุญกันตามวัดต่าง ๆ ในวันเข้าพรรษาเป็นประเพณีอย่างหนึ่งของคนไทยที่นับถือพุทธศาสนาที่ได้ ปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน สำหรับในปี 2558 นี้ วันเข้าพรรษาจะตรงกับวันที่ 31 กรกฎาคม ยังจัดเป็นวันหยุดสำหรับข้าราชการและเอกชนเพื่อให้ชาวพุธได้มาร่วมทำบุญกัน ในวันสำคัญนี้ สำหรับใครที่ยังไม่มีโปรแกรมและยังไม่ทราบว่า “ทำบุญวันเข้าพรรษา 2558 ที่ไหนดี” วันนี้เรามีสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำกันค่ะ เริ่มจาก
 
ทำบุญเข้าพรรษาภาคกลาง

1. วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี สำหรับที่นี่จะมีประเพณีตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็น จำนวนมาก
2. แห่เทียนพรรษาทางน้ำ ลาดชะโด จังหวัดอยุธยา เป็นอีกประเพณีหนึ่งของทางภาคกลางที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นการแสดงให้เห็นวิถี ทางน้ำของคนไทยในสมัยโบราณ ที่ใช้แม่น้ำลำคลองเป็นที่สัญจร เพราะนอกจากจะมีการแห่เทียนทางน้ำแล้วที่นี่ยังมีการแสดงภาพวิถีชีวิตของชาว ลาดชะโด และการละเล่นพื้นบ้านกันอีกด้วย

ทำบุญเข้าพรรษาภาคเหนือ

วัดบุญยืนพระอารามหลวง เวียงสา จังหวัดน่าน ที่นี่จะมีประเพณีใส่บาตรเทียนที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นประเพณีที่อยู่คู่อำเภอเวียงสามาเป็นเวลานาน เริ่มจากที่สมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ชาวบ้านจึงนำเทียนมาถวายวัด เริ่มต้นเดิมที่จะมีแต่ที่วัดบุญยืนต่อมาได้ขยายไปจนทั่วอำเภอเวียงสา

ทำบุญเข้าพรรษาภาคอีสาน

ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับที่นี่จะมีขบวนแห่เทียนเข้าพรรษาที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ด้วยเทียนที่ถูกสลักเสลาเป็นรูปต่างๆ อย่างงดงาม สำหรับในปี 2558 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15 – 31 กรกฎาคม ณ บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และนอกจากขบวนแห่เทียนพรรษาที่งดงามแล้วภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีก หลายอย่าง เช่น งานทำบุญตักบาตร การแกะสลักเทียน การประกวดสาวงาม การจำหน่ายสินค้า และแสงสีเสียงในยามค่ำคืน

ทำบุญเข้าพรรษาภาคใต้

ประเพณีตักบาตรธูปเทียน ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันเข้าพรรษาประชาชนที่นับถือพุทธศาสนาจะมารวมตัวกันที่ลานวัดเพื่อทำการ ตักบาตร แต่สิ่งที่นำมาใส่บาตรจะเป็นดอกไม้ธูปเทียน โดยจะมีพระภิกษุจากวัดพระมหาธาตุฯ และวัดอื่นๆ มารับบิณฑบาตเป็นแถวยาว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมงานบุญสักการะพระบรมธาตุ พระพุทธสิงหิงค์ และเกจิอาจารย์ชื่อดังต่างๆ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมไปถึงงานบันเทิงรื่นเริงอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ

ประเพณีเข้าพรรษาจัดเป็นประเพณีที่สำคัญของชาวพุทธ และแต่ละภาคก็มีการจัดงานที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน เรามาร่วมทำบุญวันเข้าพรรษาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและเพื่อให้ประเพณีที่ ยังงดงามได้คงอยู่เป็นมรดกอันทรงคุณค่าของชาวไทยสืบไป
 
 
 
 
 

โรคซึมเศร้า แก้ได้ไม่ใช้ยา

โรคซึมเศร้า แก้ได้ไม่ใช้ยา
โรคซึมเศร้า แก้ได้ไม่ใช้ยา
เหตุที่ “พล.อ.อ.ประหยัด ดิษยะศริน” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ การบินไทยฯ บิดา น.อ.วีระยุทธ ดิษยะศริน มีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าประกอบกับโรคชรนั้น โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้อย่างไร ? มีขั้นตอน และแนวทางอย่างไร ถ้าจะสู้กับโรคนี้ได้  ที่นี่มีคำตอบ สามารถทำให้หายจากโรคซึมเศร้าโดยไม่ใช้ยาอีกต่อไป 


เบื้องหลังความคิด
        คนมากมายไม่พอใจผลลัพธ์ในชีวิต เช่น ความรัก ความสัมพันธ์ การงาน การเงิน สุขภาพ น้ำหนักตัว ความสุขสงบใจ ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต การเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในชีวิตต้องเริ่มที่บริเวณ ต้นเหตุคือจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นส่วนที่เก็บ ประสบการณ์ ในอดีตทั้งหมดรวมมาเป็น ความเชื่อ ความเห็น อุปนิสัย พฤติกรรม ความเคยชิน กรอบในการมองโลก สิ่งที่เราให้ค่าว่าดี ไม่ดี ชอบ ไม่ชอบ อยากทำ ไม่อยากทำ ความเชื่อว่าทำได้สำเร็จ ไม่สำเร็จ

วงจรความคิด
        มนุษย์ แต่ละคนมีระบบในการรับข้อมูล ตีความ จากนั้นก็จัดเก็บลงในจิตใต้สำนึก ระบบการตีความหรือกรอบในการมองโลกของคนที่รู้สึกไม่ดี เมื่อรับข้อมูลใหม่เข้ามาก็จะตีความตามเครื่องกรองประสบการณ์ที่ชำรุด ทำให้ตีความประสบการณ์ซ้ำลงร่องเดิม ตอบสนองไปตามความเชื่อเดิม ทำให้ชีวิตไม่สามารถ หลุดออกมาจากผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจได้

ปราการป้องกันความเชื่อ
        การเปลี่ยนความเชื่อ อุปนิสัย ที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก ไม่สามารถ ใช้เพียงความต้องการเปลี่ยนความคิด เพราะความคิดออกมาจากตัวกรองประสบการณ์และ ความเชื่อ ที่ถูก ปกป้องโดย Critical factors

       Critical Factors กีดกันข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเชื่อเดิมของเรา เวลาที่จิตใต้สำนึกรับและฝังความเชื่อ เกิดในภาวะจิตใจต่างๆที่ Critical factors หยุดทำงานเช่น ผ่อนคลายจนจิตสำนึกหยุดคิด เหม่อลอย กลัว ตกใจ ดูโทรทัศน์ ฟังซีดี ขับรถเพลินๆ เช่น เวลาที่ลูกไม่คาดฝัน พ่อแม่ ดุลูกอย่างกระทันหัน วินาทีที่ลูกหยุดนิ่ง อึ้งอยู่ ขณะนั้นสิ่งที่พ่อ แม่ (ครู คนรัก เจ้านาย เพื่อน) พูดต่อมา จะไหลเข้าสู่จิตใต้สำนึกของลูกทันที

สภาวะพิเศษจากใจเราเอง
       จิตใต้สำนึกเราเป็นเหมือน เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ระหว่างใช้งาน อาจรับ ไวรัส ขยะ หรือ ใช้โปรแกรมซอฟแวร์ที่หมดอายุ ไม่เวิร์คอีกต่อไป การเปลี่ยนความเชื่อที่ไม่เป็นประโยชน์กับชีวิต ก็เหมือนการปรับปรุงโปรแกรมซอฟแวร์ที่เราใช้ ให้ใช้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้กับตัวเองและผู้อื่น ให้ชีวิตมีพลัง วิธีการที่ทำ คือ ใช้การผ่อนคลายทำให้สมองอยู่ในภาวะที่ทางวิชาการเรียกว่า Altered state หรือ heighten state of suggestibility แล้วให้ผู้เข้ารับ สามารถ เลือก ใส่ความเข้าใจ ลงไปในประสบการณ์ในอดีต เปลี่ยน มุมมองในการเลือกรับรู้โลก เลือกความรู้สึกที่มีต่อสิ่งต่างๆ

ฝังใจลงจิตใต้สำนึกเรานี้เอง
        เช่น คนหนึ่งเคยกินเบียร์ครั้งแรกแล้วอาเจียร ต้องทำความสะอาด นึกถึงการกินเบียร์ ดึงภาพ กลิ่น สัมผัส ของการทำความสะอาด อาเจียร จนไม่กินเบียร์อีก คนๆหนึ่งมีความรู้สึกต่อการมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัว คนที่รัก เคารพในทางลบ เพราะเคยมีประสบการณ์ ไม่ดีตอนเด็กๆ หรือจำความรู้สึก ถูกปฎิเสธ หรือล้มเหลวทางธุรกิจ หรือผิดหวังในความรัก ทำให้ไม่สามารถปรับสมองให้ คิด ทำพูด ที่ทำให้เกิด ความสำเร็จในเรื่องนั้นๆได้

หนีไม่พ้นเพราะอยู่ในใจเรานี่เอง
       เมื่อคนๆหนึ่งไม่สามารถขับเคลื่อนไปสู่ชีวิตที่ต้องการ เขาก็จะ หนีจากสิ่งที่ควรทำจริงๆในชีวิต ย้ายความสนใจไปยังสิ่งดึงดูดความสนใจอื่น (distraction) เช่น กินทั้งที่ไม่หิวจนอ้วนมาก ใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นหนี้ ทำงานเพื่อลืมความทุกข์จนเสียสุขภาพ มีแฟนเยอะแต่เหงามาก สูบบุหรี่ทั้งที่สุขภาพไม่ดี แม้กระทั่งไปอาสาทำเรื่องของคนอื่นหรือส่วนรวมเพื่อหลีกเลี่ยงไม่สะสาง เรื่องค้างคาของตนเอง
       หรือจิตใต้สำนึกสั่งให้เก็บความเจ็บป่วยหรือความทุกข์เรื้อรังไว้ เพื่อใช้เป็นที่ซ่อนตัวเพื่อจะได้ไม่ต้อง perform หรือ ส่งมอบผลงานในชีวิต และรับผิดชอบต่อครอบครัวและตนเอง

        หรือพัฒนาไปสู่รอยฝังในใจที่ลึกขึ้น จนมีอาการชัดเจนจนต้องรับยาประเภทระงับตามอาการหรือแค่เพียงกดอาการไว้จาก แพทย์ เช่น ซึมเศร้าย้ำคิดย้ำทำเพื่อให้รู้สึกปลอดภัยเวลาได้ทำอะไรซ้ำๆ เช่น ล้างมือ ปิดประตู เช็คกุญแจ ทำความสะอาด ทำร้ายตัวเอง

        หรือไม่มีความสุข อารมณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วรุนแรง จากความคิดเล็กๆพัฒนาไปสู่ความเคยชินที่จะคิดในรูปแบบที่เป็นโทษกับตัวเอง ซ้ำๆหลายคนเลือกทางแก้โดยใช้วิธีใช้ยากดประสาท ยาลดอาการซึมเศร้า เพื่อบรรเทาอาการ แต่ไม่ได้ดีขึ้นในระยะยาว เพราะไม่ได้เข้าไปจัดการที่ กระบวนการอัตโนมัติที่จิตใต้สำนึกเรียนรู้การคิดให้ตัวเองเป็นทุกข์จนชำนาญ

การฝึกจิตให้มีความสงบและเบิกบาน แก้โรคซึมเศร้าได้ผลที่ต้นเหตุ

เมื่อความคิด ความเชื่อและอารมณ์ที่แกว่งขึ้นลงทำให้จิตเราไม่เป็นกลาง เราจึงต้องอาศัยความสงบภายในเพื่อฝึกจิตใจตนเองให้ปล่อยวาง มีการให้อภัย ทำให้จิตใจเรารู้สึกเย็นสบาย สดใส เบิกบาน มีความเฉลียวฉลาด ซึ่งจะนำพาเราไปสู่ความสุขอันแท้จริงที่มีอยู่ภายใน เป็นความสุขที่ไม่มีเงื่อนไข 
การฝึกสมาธิมีหลายวิธี หลายแบบ หลายแนว วิธีการฝึกไม่ใช่สมาธิ สมาธิจริงๆคือการสังเกตดูจิตใจตนเองได้อย่างเป็นกลาง เราจะใช้ความสงบเป็นตัวดูจิต ใจตนเอง 

ความสงบจะไม่กระโดดเข้าไปอยู่ในความคิดหรือติดอยู่ในอารมณ์ เพียงแค่ดูใจเฉยๆแบบสบายๆ ไม่เครียดกับการสังเกต ฝึกให้จิตอยู่กับปัจจุบัน เพราะธรรมดาจิตจะไม่ชอบอยู่กับปัจจุบัน จิตจะคิดนั่นคิดนี่ เมื่อมีข้อมูลต่างๆมากระทบทางตา หู จมูก ลิ้นและกาย จิตก็จะปรุงแต่งอารมณ์โต้ตอบกับข้อมูล บุคคล สิ่งของหรือสถานการณ์ต่างๆ ทำให้มีความรู้สึกชอบ(ดีใจ) หรือไม่ชอบ(เสียใจ)กับสิ่งเหล่านั้น จิตจึงมีอาการแกว่งไปมา ขึ้นลง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา 

จิตจะพยายามเปรียบเทียบข้อมูลและสร้างอารมณ์พอใจหรือไม่พอใจกับสภาวะ จิตจะนึกถึงอดีตและคิดถึงเรื่องอนาคต สิ่งพวกนี้จึงทำให้ใจเราไม่อยู่กับปัจจุบันและขาดความเป็นกลางอยู่เสมอ ดังนั้นเราจึงหันมาฝึกใจตนเองให้มีความสงบ ไม่แกว่งไปมากับความคิดหรืออารมณ์ ทำให้เราได้สัมผัสกับความเป็นกลางของจิตในปัจจุบัน เป็นจิตใจที่มีอิสระและปล่อยวางความทุกข์ต่างๆออกไปได้อย่างง่ายดาย เพราะจิตไม่ไปเกาะเกี่ยวกับความคิดหรืออารมณ์ เพียงแต่สังเกตสิ่งพวกนี้จากความสงบที่เป็นกลาง
      
การฝึกสมาธิจะช่วยให้จิตเรามีความสงบและเป็นกลาง ทำให้เราปล่อยวางอารมณ์ในเชิงลบ ความเข้าใจผิดและได้สัมผัสกับความสุขอันแท้จริงที่มีอยู่ภายในตนเอง เป็นจิตใจที่แจ่มใส มีความชัดเจน ทำให้จิตรู้ว่าความทุกข์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในใจนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วปล่อยวางที่เหตุ โดยไม่มีการเพ่งโทษ 

ก่อนที่จิตเราจะเป็นกลางได้ เราต้องหาอะไรให้จิตเกาะเพื่อให้จิตสนใจในปัจจุบัน มิฉะนั้นจิตก็จะแกว่งไปตามความคิดหรืออารมณ์ เราจึงต้องเตือนตนเองและดึงจิตให้กลับมาอยู่ในปัจจุบันเพื่ออยู่ในความเป็น กลาง วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการดูลมหายใจของตนเอง ใช้ลมหายใจเป็นจุดกลาง เพื่อให้จิตสนใจกับความสงบ เย็น โล่ง โปร่งสบายในขณะนั้น 

หมั่นทำทุกครั้งที่เรารู้สึกหดหู หมดหวัง เสียใจ ท้อแท้ แล้วพอทำบ่อย ๆ เป็นนิสัย จิตนั้นก็จะปล่อยวางได้ แล้วคำว่า โรคซึมเศร้า จะไม่มีให้เราเห็นอีกเลย


Cr.จิตใต้สำนึก,เล่าสู่กันฟัง ,Synergy | Facebook