16 ก.ค. 2558

"ครูน้อย" สู้ ๆๆ เปิดบ้านครูน้อยต่อไป



เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ทางสถานสงเคราะห์บ้านครูน้อย ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า จะปิดทำการสถานสงเคราะห์เป็นการถาวร ภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ เนื่องจากปัญหาหนี้สินที่สะสมมานาน จากการกู้เงินนอกระบบ และปัญหางบค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการไม่เพียงพอ อีกทั้งครูน้อยในวัย 73 ปี ก็มีสุขภาพย่ำแย่

นางนวลน้อย กล่าวว่า ทุกวันนี้มีภาระค่าใช้จ่ายให้เด็ก ๆ ในความดูแลไปโรงเรียน รวม 3,500 บาท จ่ายเงินค่าพนักงานในบ้านครูน้อย 8 คน คนละ 250 บาทต่อวัน ยังไม่รวมค่าอาหารการกิน ซึ่งเฉลี่ยแล้วต้องใช้เงินวันละ 6,500 บาท ต้องบอกว่า ความช่วยเหลือของท่าน รอง ผบ.ตร. เมื่อปี 2533 นั้น ถือเป็นพระคุณต่อบ้านครูน้อยมาก 

แต่ก็ยังมีคนโจมตีหาว่า ครูน้อยเอาเงินไปซื้อรถป้ายแดง ไปซื้อที่ดิน ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ทุกวันนี้มีแต่หนี้ที่กู้ยืมมาอุปการะเด็ก ๆ ลูก ๆ ตนต้องเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองกับธนาคารเพื่อใช้หนี้ให้ ขณะผ่อนจ่ายไปจนเหลือราว ๆ 2,000,000 บาท ยอมรับทีแรกจะประกาศขายบ้านในราคา 6,500,000 บาท เพื่อนำเงินมาชดใช้เจ้าหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ และจะหยุดรับอุปการะเด็ก เนื่องจากแบกรับภาระไม่ไหว ประกอบกับลูก ๆ ก็ขอร้องให้หยุดและกลับมาดูแลตัวเองก่อน 

แต่ตอนนี้ตนคงต้องตัดสินใจใหม่เพื่อให้เด็ก ๆ ทั้ง 65 คน ได้รับการดูแลต่อไปการช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.พงศพัศ ที่เดินทางมาหนนี้ หากปลดหนี้ได้หมดตนก็ยอมรับปากว่าจะไม่กู้หนี้สินนอกระบบมาอีก ทั้งที่จริงแล้วตนก็เกรงใจเจ้าหนี้ เนื่องจากแต่ละรายทราบปัญหาดีและส่วนใหญ่ก็ทนไม่ได้ต้องให้ความช่วยเหลือมา เพราะตนติดต่อไปขอร้องหยิบยืมเงินมาเลี้ยงเด็ก ๆ ที่ผ่านมา ตนต้องโกหกลูก ๆ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร 

แต่ลูก ๆ ก็รับรู้มาตลอดว่าแม่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาทำแบบนี้ โดยเขียนจดหมายมาขอร้องให้หยุด แต่มันหยุดไม่ได้ หากสิ้นเดือนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กยากจนบ้านครูน้อย ไม่ปิดตัวลง ตนก็คิดไว้แล้วว่า จะรับอุปการะเด็ก ๆ ได้อีกไม่เกิน 3 ปี เพราะร่างกายก็เริ่มไม่ไหว 

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า บ้านครูน้อย เป็นสถานสงเคราะห์ในตำนาน ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2523 โดยตั้งใจจะดูแลเด็กที่มีปัญหาในชุมชน ซึ่งบ้านครูน้อยเคยมีปัญหามาแล้วหลายครั้ง แต่ก็สามารถผ่านพ้นมรสุมเหล่านั้นมาได้ แต่ในตอนนี้ ถือเป็นมรสุมลูกใหม่ โดยครูน้อยตั้งใจจะปกป้องเด็กๆ และสถานสงเคราะห์โดยการปิดทำการลง และต้องการขายบ้านเพื่อใช้หนี้สินที่มีอยู่

"หลังจากผมได้พูดคุยกับ ผบ.ตร.โดยเล่าปัญหาทั้งหมดให้ฟังท่านฝากความเห็นใจและส่งผมมาพูดคุยและแก้ ปัญหาในวันนี้โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ปัญหาการแกไขปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งเป็น หนี้สินที่เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวโดยได้ไปหยิบยืมเงินมาจากเจ้าหนี้ถึง 10-20 ราย และขาดส่งดอกเบี้ยเป็นเวลานาน ทำให้หนี้สินพอกพูน ซึ่งตัวเลขหนี้สินทั้งหมด ผมจะขอรายละเอียดกับครูน้อย และตั้งใจว่าจะเคลียร์หนี้สินให้ครูน้อยอีกครั้ง เพื่อรักษาเจตนารมณ์ที่ดีต่อไป" พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวและว่า แต่ทางครูน้อยต้องสัญญาว่า ครั้งนี้จะเป็นการกู้หนี้นอกระบบครั้งสุดท้าย ได้เงินเท่าไหร่ ต้องให้เด็กทั้งหมด จัดการใช้เงินทุกบาทอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้รายจ่ายสูงกว่ารายรับ"

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือปลดหนี้ในครั้งนี้ จะไม่เปิดบัญชีระดมทุนจากประชาชนเหมือนครั้งปี 2553 แต่คาดว่าจะเรี่ยไรเงินจากฝั่งตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และผู้มีจิตศรัทธาที่จะช่วยเหลือ บ้านครูน้อยโดยตรง เนื่องจากตัวเลขหนี้นอกระบบในครั้งนี้มีประมาณล้านกว่าบาท

Cr.ประชาชาติธุรกิจ, เล่าสู่กันฟัง ,Synergy | Facebook