7 ก.ค. 2558

เชอรี่ สามโคก : "ฉันแค่แก้ผ้า คุณด่าชาติที่แล้วยันชาติหน้า"

เชอรี่ สามโคก

 
 

 
 

ที่โพสต์ในทำนองน้อยใจบนเฟสบุ๊คเกี่ยวกับที่ประเทศไทยไม่ยอมรับเรื่องพวกนี้ แต่เมื่อมีดาราเอวีจากญี่ปุ่นมา ประเทศไทยกลับยอมรับและต้อนรับพวกเขา มีความคิดเห็นอย่างไร ?

จริงๆตอนที่โพสต์มันเป็นตัวอักษร คนก็ตีความในเรื่องนี้ไปกว้าง หลายแง่หลายมุม เชอรี่โพสต์ว่าทำไมเขามาถึงยอมรับเขา ทำไมไม่ยอมรับฉัน หรือว่าจะต้องไปญี่ปุ่น มันเป็นอารมณ์กัดจิกเล็กๆน้อยๆไม่ได้ดราม่าขนาดนั้น เพราะผ่านเรื่องอะไรมาเยอะแยะแล้ว เราพอจะเข้าใจภาพรวมของสังคมแล้ว แต่ก็อย่างที่ได้บอกไปเรื่องของจารีตประเพณีของสังคมไทยมันเกิดความสับสน เพราะมันไม่มีกรอบเขียนแน่ชัดเหมือนกฎหมาย


มันขึ้นอยุ่กับแต่ละตัวบุคคลด้วย ซ้ำว่าจะยึดธรรมเนียมประเพณีหรือว่าขีดเส้นใต้คำว่าความเป็นไทยไว้ตรงไหนมัน ก็เลยเกิดความสับสนว่า  ไหนคือมวลรวมของสังคมคนที่ชอบมาคอมเม้นท์ใน อินเตอร์เน็ตบอกว่าสังคมเรามีวัฒนธรรมอันดีงามเรื่องของการแก้ผ้าการถ่าย หนังอาร์เป็นเรื่องที่ต่ำทรามและทำลายวัฒนธรรมไทยอย่างสิ้นเชิงสังคมรับไม่ ได้

แม้กระทั่งงานที่เขาไปมันเป็นงานเกี่ยวกับรถจะมีค่ายรถเยอะมากมา ที่สถานที่อันใหญ่เขาเรียกว่าเป็นงานแสดงรถครั้งใหญ่ซึ่ง"เมื่อก่อนเราก็เคย เป็นพริตตี้เราเคยไปสมัครถ้าเป็นงานใหญ่ๆอย่างนี้กับบริษัทค่ายรถใหญ่ๆในใบ สมัครจะเขียนไว้เลยว่าคุณสมบัติข้อหนึ่งที่กำชับคือต้องไม่มีภาพโป๊ไม่มี ภาพอนาจารไม่เคยเล่นหนังที่วาบหวิวมาก่อนนี่คือทั้งพริตตี้และเอ็มซี"คนไทย ห้ามตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย

เรารู้ว่าเป็นการตลาดแต่คุณสามารถให้ พื้นที่กับนักแสดงเอวีของญี่ปุ่นได้อย่างมีเกียรติได้รับการต้อนรับที่ดี สื่อทำข่าวกันเยอะคนก็ไปกันเยอะเขาได้รับการเชิดหน้าชูตาให้เกียรติ 

มัน ไม่เป็นไรหรอกกับการให้เกียรติคนที่เขามา"แต่ถ้าให้เกียรติคนที่เขาเล่นเอวี ต่างประเทศเขามาเมืองไทยเราต้องให้เกียรติเมืองไทยสยามเมืองยิ้มคุณต้องให้ เกียรติคนด้วยกันเองด้วย"มันเหมือนเขาเข้ามาทำงานในประเทศเราเขาเป็นใครก็ ตามเขาเป็นนางเอกเอวีมาทำได้และได้รับเกียรติแล้วทำไมคนที่อยู่ในประเทศไทย ที่อาจจะทำงานแนวเซ็กซี่ถ่ายแบบเต้นโคโยตี้กลางคืนนางแบบนู้ดถ้าตราบใดก็ตาม ที่เขาทำงานแล้วมันยังถูกกฏหมายอยู่เขาก็สมควรได้รับการให้เกียรติถ้าคุณให้ เกียรติคนต่างชาติได้ 

มีหลายๆคอมเม้นท์บอกว่าไป อิจฉาเขาทำไมเราไม่ได้เท่าเขาหรอกเพราะว่าในอุตสาหกรรมเอวีในญี่ปุ่นเขาทำ เป็นอุตสาหกรรมที่ถูกต้องตามกฏหมายแต่นี่หนังอาร์ก็ถูกต้องตามกฏหมาย แต่วัฒนธรรมเขากับวัฒนธรรมเรามันไม่เหมือนกัน ถามว่าวัฒนธรรมอะไร วัฒนธรรมการให้เกียรติคนใช่หรือไม่ ? เชอรี่เองก็มีคนใกล้ชิดทำงานอยู่ประเทศญี่ปุ่น จริงๆแล้วเท่าที่รู้มา เขาก็ไม่ได้มองว่านางเอกเอวีคือพระเจ้า คือนางฟ้า คืออาชีพที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่มันก็มีอยู่จริงเพราะประเทศญี่ปุ่นสังคมเขาเครียด เอวีเป็นทางหนึ่งที่จะได้ปลดปล่อยความเครียดจากการทำงาน เพราะฉะนั้นสิ่งที่พิเศษสำหรับเอวีญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนฝรั่งและไม่เหมือนกับไทยด้วยก็คือจินตนาการที่มันล้ำลึกที่บางทีเราคิดไม่ถึ 

เพศสัมพันธ์คือที่ไหนก็ได้สำหรับญี่ปุ่นเท่าที่จินตนาการเขาจะคิด ไปถึงไปลึกไปไกลถึงไหนต่อไหนคนที่มีจินตนาการได้ขนาดนั้นมันต้องมีความ เครียดความกดดันอะไรบางอย่างและต้องการที่จะปลดปล่อยเอวีเป็นการปลดปล่อย อย่างหนึ่งของสังคมญี่ปุ่นมันเลยถูกกฎหมายและทำเป็นอุตสาหกรรมแต่ ธรรมเนียมของญี่ปุ่นและจารีตของญี่ปุ่นในสมัยดั้งเดิมผู้หญิงก็ต้องเรียบ ร้อยเหมือนคนไทยนั่นแหละแต่ในเมื่อมันถูกกำหนดมาแล้วมันมีตรงนี้อยู่เราก็ ต้องให้เกียรติเพราะมันคืออาชีพหนึ่งแต่ก็เคยถามคนรู้จักที่อยู่ญี่ปุ่นเขา ก็บอกว่าไม่ได้ใฝ่ฝันอยากได้นางเอกเอวีมาทำภรรยาถ้าเอามาเป็นภรรยาจะไม่ยอม รับแต่ถ้ามองว่าเขาเป็นคนที่ทำอาชีพหนึ่งที่สมควรได้รับเกียรตินั้นถูกต้อง 

กลับ มาที่บ้านเรางานที่ถูกกฏหมายในทางเซ็กซี่ของบ้านเราไม่ว่าจะเป็นหนังอาร์ ถ่ายแบบหรือว่าเต้นตามคลับต่างๆถ้ามันถูกกฎหมายมันไม่สมควรได้รับเกียรติ หรือ?"ถ้าคุณให้เกียรติคนต่างชาติที่เขาเล่นหนังโป๊ได้แล้วทำไมคุณให้ เกียรติคนไทยที่แค่ถ่ายนู้ดแค่เล่นหนังอีโรติไม่ได้"มันก็คงต้องมีคำถามกับ สังคมว่าวัฒนธรรมการให้เกียรติของเราเป็นอย่างไร
เชอรี่ สามโคก

มองวงการหนังอีโรติก หนังเรทอาร์ ภาพนู้ดต่างๆในเมืองไทยในยุคนี้เป็นอย่างไร?


ก่อน อื่นต้องบอกว่าเชอรี่ไม่ได้เล่นหนังแผ่นหนังอีโรติกที่เป็นเรทอาร์มานานเป็น ปีแล้วพอเราก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วเราก็พูดได้เพียงบางส่วนวงการตอนนี้ก็ เหมือนกับเดิมๆที่เคยมีมาแต่ถ้าในส่วนสังคมก็มีเรื่องของการกล้าที่จะโพสรูป โป๊มากขึ้นบางคนก็ทำหนังอีโรติกส่วนตัวกันเองอาจจะมีอะไรกับแฟนแล้วก็ถ่าย แล้วก็โพสต์ให้ดูโดยเฉพาะวัยรุ่นกล้าที่ทำกันมากขึ้นถ้าพูดถึงอุตสาหกรรม หนังแผ่นเชอรี่มองว่ามันค่อนข้างที่จะนิ่งแล้วก็ไม่รู้ว่าจะตายหรือเปล่า เพราะว่าหนึ่งด้วยงบประมาณในการทำเท่าที่รู้มาจะมีเจ้าใหญ่ที่เป็นนายทุนก็ เจ๊งแล้วหนึ่งเจ้าแล้วก็เหมือนหนังมันก็น้อยลงโปรดักชั่นอะไรมันก็ไม่ได้ พัฒนาขึ้นอาจจะด้วยหนังแนวนี้มันก็ไม่ได้ถูกยอมรับเท่าไหร่แล้วก็ก้ำกึ่ง อย่างเช่นหนังอีโรติกในเมืองไทยที่ถูกกฎหมายมันได้แค่เรทอาร์ 

คน สมัยนี้สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตหรือพวกหนังโป๊กันได้ง่ายขึ้นถ้าเขาจะมาดู หนังเรทอาร์ของไทยที่มันก็เหมือนไม่สุดยังเหมือนกั๊กๆอยู่ดีเขาก็คงไปเข้า อินเตอร์เน็ตไปโหลดหรือว่าไปดูออนไลน์มันก็จะเป็นหนังโป๊ที่สุดไปเลยหรือว่า โปรดักชั่นของหนังอาร์ก็ไม่ดีพอที่จะเป็นหนังใหญ่หรือเรื่องราวก็เดากันได้ ง่ายเนื้อเรื่องมันไม่ได้ละเอียดมากเพราะฉะนั้นมันอยู่ตรงกลางก้ำกึ่งก็เลย ไม่รูว่าทิศทางมันไปไหน"ถ้ายังไม่มาใครมาพัฒนาให้มันมีรูปแบบที่น่าประทับ ใจ"เชอรี่ว่ามันก็จะค่อยๆดร็อปลงแล้วก็จะตายไปในที่สุด


คิดยังไงบ้างที่มีคนมองว่าคนทำงานแบบนี้ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องไม่ดี?

คำถามแรกคือ "มันก็ไม่ใช่เรื่องดี" เรื่องทางเพศเรื่องยั่วยุให้เกิดอารมณ์ทางเพศตามหลักศาสนาพุทธก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่มันก็มีอาชีพนี้อยู่ การทำแบบนี้มันก็มีอยู่แล้ว เรามองว่ามันไม่ใช่เรื่องไม่ดีมันเป็นเรื่องปกติ อีกคำถามหนึ่งคือแล้วคนที่ทำอาชีพนี้ต้องเป็นคนที่ไม่ดีมั้ยถึงมาทำแบบนี้ได้ ต้องเป็นคนไม่ดีหรือเปล่าถึงจะถ่ายนู้ดได้ ถ้าเป็นผู้หญิงที่เขาใช้คำแรงๆทางอินเตอร์เน็ตโพสต์กัน ต้องแรด ถึงจะมาเล่นหนังแนวอีโรติกได้ ไม่อย่างนั้นผู้หญิงดีๆที่ไหนใครเขาจะกล้าแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่น ใครก็ไม่รู้ สำหรับเชอรี่มองว่านั่นไม่เกี่ยว นั่นเป็นร่างกายของเราที่ทำงานอยู่ เป็นนักแสดง นักแสดงคือการสวมบทบาทเป็นคนอื่นตามบทที่เราได้รับมา แล้วมันก็เป็นการทำงานของเรา แก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นต้องเป็นคนไม่ดีเท่านั้นถึงสามารถทำได้ แล้วคนที่เขาทำงานล่ะ ถ้าทำงานแล้วต้องเป็นคนไม่ดี แล้วทำไมหรอ ? ต้องไปขอคนอื่นกินถึงจะเป็นคนดีหรอ ? 

เรารู้สึกว่าสังคมจะตัดสินคนโดยไร้วิจารณญาณไปหน่อย สิ่งนั้นที่เราทำอยู่ไม่ว่าจะเป็นแนวเซ็กซี่ เล่นหนังเรทอาร์ หนังอีโรติกต่างๆ เชอรี่มองว่าถ้าถูกกฎหมาย แล้วมันจะเป็นอะไร เช่น ถ่ายหนังสือแนวนู้ด ศิลปะลงหนังสือ แต่ก็ไม่ได้จะเอาศิลปะมาอ้างกับทุกอย่างที่ทำ บางอย่างเราก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นศิลปะ มันก็เป็นงานของเราชิ้นหนึ่งแล้วมันก็ถูกกฎหมาย หนังอาร์ก็ถูกกฎหมาย ในประเทศเราหนังอาร์ทุกเรื่องที่เชอรี่เล่นมีการรับรองจากกระทรวงที่เขา เกี่ยวข้องแล้วก็ขายอย่างถูกกฎหมายแต่ที่คนมองว่ามันผิดกฎหมายเพราะว่ามีการ เอาไปลงในอินเตอร์เน็ตแล้วคนก็โหลดบิตกันไปหรือขายที่ที่เขาขายเทปผีซีดี เถื่อนกันแบบนั้นเยอะๆพูดง่ายๆคือของแท้หายากกว่าของปลอม คนก็เลยมองว่านี่มันคือสิ่งผิดกฎหมายหรือเปล่ามันไม่ผิดกฎหมายหรอกค่ะแต่มันก็คงไม่ถูกจารีตประเพณีที่ดีงามของคนไทยเท่าไหร่ 

คำถามของเชอรี่ก็คือสังคมไทยตีความคำว่าจารีตประเพณีขนบธรรมเนียมอะไรต่างๆของไทยว่าเป็นอย่างไร? 

จารีต ของคนไทยบางอย่างก็ยึดถือบางอย่างก็อะลุ่มอล่วยบางอย่างก็ละทิ้งแล้วไม่เป็น อะไรตามยุคสมัยมันก็เลยเกิดคำถามขึ้นว่าแล้วสมัยนี้การทำงานในเรื่องของแนว เซ็กซี่ถ่ายบีกินี่ทำลายจารีตประเพณีมั้ยหรือถ่ายนู้ดแต่ปิดอวัยวะปิดหน้าอก ปิดด้านล่างเอาไว้แต่ส่วนอื่นถอดหมดเลยอันนี้ผิดจารีตประเพณีมั้ยเล่นหนังอี โรติกแต่ไม่ได้ทำจริงไม่ว่าจะเป็นหนังใหญ่ก็มีฉากที่แก้ผ้าหนังแผ่นแน่นอน ว่าต้องมีฉากแก้ผ้าหรือแม้ตอนนี้ละครก็ต้องมีฉากวาบหวิวพัฒนาเพิ่มขึ้นมา แล้วตรงนี้มันผิดจารีตหรือเปล่าในเมื่อจารีตประเพณีไม่ได้มีกรอบอย่างชัดเจน บางทีก็ทำให้คนที่ทำงานหรือคนในสังคมเกิดความสับสนได้" 

เวลา เชอรี่มีกรณีอะไรแต่หลังๆเชอรี่จะไม่ค่อยแรงมากเท่าไหร่แต่โพสต์งานไปมันก็ จะเป็นข่าวรูปเราแค่ถ่ายบีกินี่ซึ่งเราคิดว่ามันซอฟต์แล้วแต่พอเราโพสต์ไป แล้วเป็นข่าวคนก็มาให้ความเห็นว่ามันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชนร้ายแรง มากเลยกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไรคอมเม้นท์ไปต่างๆนานาที่เหมือนกับว่าเราทำลาย ประเทศชาติลงไปแล้วด้วยมือของเราเองเราก็เลยมองว่ารูปแบบนี้ชุดแบบนี้มันมี อยุ่ในดาราคนอื่นที่วางแผงตามหนังสือด้วยถ้าเป็นดารารุ่นใหญ่เขาก็จะบอกสวย เซ็กซี่ชุดเดียวกันถ้าเราไม่ได้มองว่าคนที่ถ่ายเป็นใครชุดเดียวกันแบบเดียว กันโพสต์เดียวกันแต่ทำไมคนหนึ่งได้รับการชมว่าสวยเซ็กซี่ดีมากแต่อีกคนได้ รับคำว่า"ทำลายสังคมคนอย่างเธอไม่ควรจะทำอย่างนั้นอย่างนี้"เราเลยว่าถ้ามอง ที่เบื้องหน้าในลักษณะการทำงานมันก็คงจะรับได้แต่เขาคงรับไม่ได้ก็เพราะเป็น เราที่เคยมีอดีตอย่างไรๆมา

เชอรี่ สามโคก

ตลอดช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าวงการ เราถูกปฏิบัติจากประชาชนคนทั่วไปอย่างไรบ้างเกี่ยวกับในแง่การใช้ชีวิต ?

ช่วง แรกเป็นเรื่องของการมีภาพโป๊อนาจารซึ่งอันนั้นไม่ถูกกฎหมายเมืองไทยแรง เรทเอ็กซ์แต่ว่าไม่ได้ไปร่วมเพศกับใครไม่เคยถ่ายเอวีขนาดนั้นก็จะมีภาพพวก นั้นแล้วภาพพวกนั้นเป็นกระแสที่โดนด่าโดนวิพากษ์วิจารณ์ทำให้เป็นกรอบของ ชีวิตเชอรี่ว่ามันก็ยังติดอยู่กับเราไปจนตายตรงนั้นเราเคยให้สัมภาษณ์แล้ว ว่ามันไม่ใช่ความตั้งใจมันเป็นความผิดพลาดเป็นการตัดสินใจผิดของเราที่ไปรับ ทำตรงนั้น 

ช่วง ที่สองคือการมาเล่นหนังอีโรติกเรทอาร์หนังอีโรติกเป็นความตั้งใจเพราะเชอรี่ มองว่ามันเป็นอาชีพนักแสดงแล้วก็เป็นหนังช่วงที่สามคือช่วงที่เลิกเล่นหนัง อีโรติกแล้วมาทำงานด้านอื่นหรือถ้าเป็นสายเซ็กซี่ก็จะเบาลงกว่าเดิมมากเป็น ทั้งหมด3ช่วง

ใน ช่วงแรกที่เรามีภาพอนาจารออกมาแน่นอนว่าเราก็ได้รับการกระทำที่ไม่ดีเท่า ไหร่ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตผู้คนรอบข้างหรือแม้กระทั่งครอบครัวเราเอง เพื่อนเราตอนนั้นค่อนข้างหนักแต่เราก็โทษใครไม่ได้เพราะสิ่งที่เราทำมันผิด จริงๆมันเป็นการตัดสินใจที่ผิดคนก็ชอบบอกว่าเรียนมาก็สูงรูปร่างหน้าตาก็โอ เคถ้าไปเป็นนางเอกนี่ได้เลยนะทำไมต้องไปตัดสินใจอย่างนั้นเชอรี่ก็จะบอกว่า เชอรี่ไม่มีดราม่าให้ว่าแบบบ้านจนต้องช่วยเหลือใครต่อใครเชอรี่ไม่มีดราม่า แบบนั้นให้สังคมหรอกเพราะมันเป็นแค่การทำอะไรบางอย่างลงไปแล้วภายหลังคิดได้ ว่าทำแบบนั้นทำไมมันเป็นแค่การตัดสินใจชั่ววูบที่ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีก่อน เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเป็นแต่ว่าเรื่องตัดสินใจผิดพลาดนั้นมันจะใหญ่มากน้อย แค่ไหนมันจะมีเอ็ฟเฟคต์ต่อชีวิตแค่ไหนบางคนตัดสินใจผิดพลาดกระโดดตึกฆ่าตัว ตายนั่นคือจบชีวิตเลย บางคนตัดสินใจผิดพลาดแค่ขึ้นรถเมล์ผิดก็แค่ทำให้ไปทำงานสายในวันนั้น 

เชอ รี่ตัดสินใจผิดพลาดที่ไปถ่ายแบบโป๊ขนาดนั้นมันก็มีผลทำให้มีข้อจำกัดในการทำ งานของเชอรี่ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้านอื่นหรือการทำงานด้านบันเทิงก็ตามและ สิ่งที่ทุกคนปฏิบัติต่อเชอรี่แน่นอนเรามีภาพโป๊ภาพแรงคนก็ไม่ได้มองเราไปใน ทางบวกมากแต่มันก็ไม่ได้มีใครมาปฏิบัติกับเราแบบว่าเดินไปเดินมามีคนพุ่งมา จับหน้าอกเราเลยมันไม่ถึงขนาดนั้นก็จะเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์มากกว่าจากคน อื่นๆ 

ถ้า เป็นในช่วงแรกๆก็อาจจะรู้สึกเจ็บปวดเพราะว่ามีฟอร์เวิร์ดเมลล์ตอนนั้นเฟส บุ๊คหรืออินสตราแกรมยังไม่ป๊อปปูลาร์มากเท่าไหร่มีฟอร์เวิร์ดเมลล์ไฮไฟฟ์มา หาเราเพราะจะมีการแพร่กระจายของเรื่องนี้อย่างกว้างขวางแล้วที่มากที่สุดคือ คนรอบข้างเราได้รับผลกระทบด้วยก็เกือบจะมีอาการทางจิตตรงที่ออกไปไหนมาไหน ไม่ค่อยได้เพราะออกไปเจอคนเราจะคิดว่าคนนี้เป็นคนที่เคยด่าเราฟอร์เวิร์ดรูป เราหรือเปล่าเจอผู้คนก็จะมือไม้สั่นจะขังตัวเองไว้ในห้องคือไปไหนแค่ ใกล้ๆ1เดือน"แต่เราก็รู้สึกว่ามันทำอะไรไม่ได้มันเป็นไปแล้วรูปก็หลุดไปแล้ว มานั่งเสียใจให้ตายรูปมันก็ไม่ออกจากอินเตอร์เน็ตเราก็ต้องมีชีวิตต่อไป" อันนี้เป็นช่วงของที่มีเรทเอ็กซ์หลุด แต่ว่ายืนยันชัดเจนว่าเราไม่ได้เรทเอ็กซ์ถึงขั้นไปมีเพศสัมพันธ์กับใครมัน แค่เป็นภาพ

ช่วง ที่เล่นหนังอีโรติกอันนี้ก็จะได้รับฟีดแบ็คจากผู้คนหนึ่งคือตอนมาเล่นหนังอี โรติกคือเล่น"หม่ำออนสเตจ"แล้วมีชื่อว่า"เชอรรี่สามโคก"แล้วเพราะฉะนั้นคนก็ จะจำได้ว่านี่คือเชอรรี่สามโคกเชอรี่ที่เล่นน้ำตาลแดงก็ได้รับฟีดแบ็คคือ เหมือนมีชื่อเสียงขึ้นมามีงานซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นทางเซ็กซี่แต่ทุกครั้งที่ เป็นข่าวได้ไปพูดออกรายการให้สัมภาษณ์ต่างๆหลายความเห็นที่จะด่าทอแล้วก็ เหมารวมเอาว่าหนังที่เราเล่นกับภาพชุดที่เราเคยถ่ายมันคือเรื่องเดียวกัน แล้วก็ด่าเราสารพัดแต่ในคนที่ด่าเรามันก็จะมีทีคนที่ฟังเราจริงๆแล้วก็เข้า ใจเรา ให้กำลังใจเรา เชอรี่ก็รู้สึกดีใจที่มันจะมีคนส่วนนี้เกิดขึ้นมาในทุกๆวัน ในทุกๆครั้ง 

ถึงแม้ว่าคนที่พูดไม่ดีกับเรายังอยู่ก็ตามที มันไปถึงขั้นว่าตอนนั้นมีเรื่องยาลดความอ้วนที่เป็นชื่อเรา เราถูกกระทำ ยาลดความอ้วนที่เป็นอันตรายแล้วมีพริตตี้ทานแล้วเสียชีวิต โดยใช้ชื่อว่ายาลดความอ้วนเชอรี่สามโคก เอาชื่อเราไปใช้โดยที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับยานี้แล้วไปทำคนตาย ทางญาติเขาคิดว่าเป็นของเราหรือเปล่า เราก็ไปร้องเรียนให้ เพื่อให้มีการตรวจสอบยา แต่ผลสุดท้ายคนก็มาด่าเรา เราใช้ชื่อเชอรี่สามโคกคนเดียวในโลกหรอ เราไปจดลิขสิทธิ์ชื่อไว้หรือยังไง คิดว่าตัวเองดีเด่นมากหรือยังไง คนอื่นถึงต้องเอาชื่อไปใช้เขาก็ใช้อย่างนี้กันอยู่แล้ว เลยคิดว่าทำไมไปเข้าข้างเขา 

คือ 1.) เขาขายยานี้ก็ไม่ถูกกฎหมาย 2.) มีสารอันตรายทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เขาทำคนตาย คุณเข้าข้างเขา ฉันแค่แก้ผ้า คุณด่าฉันตั้งแต่ชาติที่แล้วยันชาติหน้า แล้วที่ออกมาเราไม่ได้ออกเพื่อฟ้องร้อง เราออกไปเพื่อกระตุ้นให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยดำเนินการ เพื่อจะได้ไม่มีคนอื่นที่ทานยานี้แล้วเป็นอันตรายอีกนี่ไม่ใช่การทำความดีหรอ แต่ก็ถูกด่าอีกอยู่ดี บางทีความเห็นของคนในสมัยนี้มันเป็นการพิมพ์ เราพยายามมองในแง่ดีว่าบางทีเขาอาจจะไม่ได้คิดอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าร่วมด่าเพื่อความเอ็นเตอร์เทนเพื่อความสุขสันต์ เพื่อระบายอารมณ์ อันนั้นเป็นช่วงที่เล่นหนังอีโรติก

ช่วงที่เลิกเล่นหนังอีโรติกไปได้แล้ว ถ่ายแบบภาพชุดที่มันโป๊มากมายนั่นก็ 10 ปีแล้ว หนังอีโรติกก็เลิกเล่นมาปีนึงแล้ว เราก้าวต่อมาแล้ว อะไรที่มันเป็นความผิดพลาดเราผิดไปครั้งเดียวเราก็ไม่ทำอีก เราเลิกเล่นหนังอีโรติกไปเพราะว่าเราไม่โอเคกับการทำงาน แต่เชอรี่ไม่ได้เป็นอะไรกับการแก้ผ้า ทุกวันนี้ต่อให้ไม่ได้เล่นหนังอีโรติกแล้วก็ยังมีการถ่ายแบบอยู่ เป็นพิธีกรบ้าง แต่ถ้ามีใครมาจ้างให้แก้ผ้าแล้วเรารู้สึกว่าคอนเซ็ปต์งานเราอยากทำเราก็ทำไม่ว่าสังคมจะปฏิบัติต่อเราอย่างไรก็ตาม

เชอรี่ สามโคก

มีมุมมองต่อละคร หรือตามอินเตอร์เน็ตที่มีภาพค่อนข้างโป๊ออกมาแล้วมีกระแสวิจารณ์เชิงลบ อย่างเช่นละครที่มีฉากตบจูบอย่างไร?

เชอ รี่มองว่ามันเป็นเรื่องหนึ่งของความสับสนทางสังคมเพราะว่าประเทศเราไม่ใช่ ประเทศปิดบางประเทศที่เขาเคร่งในเรื่องของกฎจารีตหรือกฎศาสนามากๆเขาก็ปิด ไม่ได้รับสื่ออะไรจากต่างประเทศเท่าไหร่หรือต่อให้รับก็ตามทีกฎของเขาเป็น เหมือนกฎมณเฑียรบาลที่อย่างบางศาสนาผู้หญิงก็ต้องโพกผ้าห้ามโป๊ห้ามเปลือย เขาเป็นกฎตายตัวที่ทุกคนต้องฝังอยู่ในจิตสำนึกแล้วว่าอย่างนี้คืออย่าประเทศ อื่นเขาทำได้แต่ประเทศเราห้ามทำ 

แต่ สำหรับประเทศไทยตั้งแต่สมัยไหนๆแล้วเรารับเอาวัฒนธรรมต่างชาติมารับแบบปรับ ใช้ไม่ได้เอามาทั้งรากบางอย่างที่เป็นวัฒนธรรมเขาเขามีรากแบบนั้นเขาถึงทำ แบบนั้นมันคือรากฐานของความคิดแต่เราเอามาทีละนิดทีละหน่อยโดยที่ไม่ได้เอา แนวคิดเขามาด้วยเอามาผสมปนเปกันในเมืองไทยมันเลยกลายเป็นว่าเดี๋ยวรับเดี๋ยว ไม่รับเหมือนอย่างในวงการบันเทิงหนังละครต่างๆหรือเป็นการ์ตูนก็ตามทีคุณดู แล้วคุณจะรู้สึกไม่เป็นอะไรพระเอก-นางเอกก็จะกอดจูบกันแต่พอมาอยู่ในละครไทย มันไม่ได้แล้วทำไมล่ะ 

เชอร์ รี่มองว่ามันเป็นความสับสนหนึ่งแต่ก็ไม่ได้บอกว่าเราควรจะกอดจูบลูบคลำอะไร ออกไปให้หมดทุกที่ให้เรายอมรับกันได้เลยแต่คิดว่าให้มันพอประมาณดีกว่าให้ มันสมเหตุสมผลไม่ใช่เอาตรงนี้มาเป็นจุดขายของละครถ้ามันเป็นละครที่ออกฟรี ทีวีหรือเป็นสื่อที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้ ในโรงภาพยนตร์อย่างน้อยถ้ามันมีฉากอะไรที่มันแรงมากก็จะมีการจำกัดเรท จำกัดอายุไป แต่ถ้ามันเป็นทีวีมันก็คงต้องแคร์ทุกวัยในสังคม เพราะฉะนั้นเอาให้พอเหมาะพอดีสมเหตุสมผลกับเรื่องก็น่าจะโอเค

เชอรี่ สามโคก

คิดว่าควรหาทางออกอย่างไรเกี่ยวกับคนที่เขาเข้ามาอยู่วงการพวกนี้แล้วให้สามารถมีจุดยืนในสังคมไทยได้?

เชอ รี่คิดว่าทำอะไรไม่ได้กับคนอื่นเราทำให้คนอื่นคิดแบบเราไม่ได้อย่างที่ สัมภาษณ์วันนี้เราก็แค่นำเสนอว่าเราคิดแบบนี้ใครจะฟังเราอ่านบทสัมภาษณ์เรา อาจจะด่าอีกหรืออาจฉุกคิดขึ้นมาว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วยมันก็หลากหลายมากใน สังคมเพราะฉะนั้นเชอรี่มองว่าคนที่มาในเส้นทางเดียวกับเราคุณยอมรับตัวเอง ได้หรือไม่ 

สำหรับ ตัวเชอรี่ใครจะยอมรับเรื่องในอดีตของเชอรี่ไม่ได้แต่เชอรี่ยอมรับตัวเองได้ ถ้าคุณยอมรับเชอรี่ไม่ได้นั่นคือความทุกข์ของคุณ1.)เชอรี่ไม่ได้ทำอะไรผิด กฏหมายตำรวจจะมาจับเชอรี่ไม่ได้2.)เรื่องของการแสดงเรื่องของการทำงานมันก็ เป็นสิทธ์ของเชอรี่ที่จะเลือกทำเรื่องของสังคมคนมีชื่อเสียงต้องแคร์สังคม เรื่องของการทำความดีก็มีส่วนอื่นที่ทำแต่ว่าไม่ได้มาโปรโมทตรงนั้นเราก็ทำ ในส่วนที่เราทำได้แล้วก็ทำอยู่ 

สำหรับ คนที่เลือกมาในเส้นทางนี้ก็ต้องยอมรับว่าหนึ่งคุณทำให้ทุกคนชอบหรือว่าเข้า ใจไม่ได้เพราะฉะนั้นถ้าคุณแน่ใจแล้วตัดสินใจดีแล้วว่าจะทำมันจะต้องเกิด กระแสคนไม่ชอบคนต้องมาด่าหรือว่ามีคนเกรียนๆเข้ามาหรือบางทีผู้ชายหื่นๆโรค จิตมาพูดจาไม่ดีด้วยในสื่อออนๆไลน์ต่างๆนานามันเป็นสิ่งที่ต้องเจอต้องเจอ ข้อจำกัดทางสังคมเพราะว่าในบางอาชีพและหลายๆอาชีพของสังคมไทยยังจำกัดเรื่อง ภาพลักษณ์พวกโป๊เปลือยอนาจารอยู่โดยเฉพาะข้าราชการทั้งหลายถ้าคุณเลือกมาทาง นี้คุณทำไม่ได้แล้วคุณเลือกมาทางนี้มันมีความเสี่ยงมากๆที่คนจะตัดสินคุณไป ในทางลบก่อนแต่ถ้าคุณรู้สึกว่าต้องทำชอบจำเป็นหรืออะไรก็ตามก็ต้องรับให้ได้ กับสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นแล้วรับตัวเองให้ได้ 

เมื่อ ไหร่ก็ตามที่เสียใจต้องให้อภัยตัวเองก่อนแล้วเอามาเป็นบทเรียนว่าเรามีลิมิ ตอย่างไรแต่หากจะทำให้สังคมยอมรับเชอร์รี่ว่ามันยังอีกนานไม่รู้จะได้หรือ เปล่าด้วยซ้ำมันขึ้นอยู่กับความคิดคนแต่ละบุคคลซึ่งจริงๆเอาเป็นว่าถ้าเรา เป็นความบันเทิงให้ผู้คนได้เพื่อความสนุกสนานก็แล้วแต่เอาที่เราสบายใจดี กว่า