หลอดไฟ LED ถนอมอาหาร |
หลอดไฟแอลอีดี เป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆที่มีอยู่ในตลาดทั้ง หมด และการประหยัดเงินค่าไฟฟ้าจากการใช้หลอดไฟ LED ตั้งแต่ 15-75% แล้วแต่ชนิดของหลอดเดิม แถมไม่มีแสง UV ปล่อยความร้อนน้อย และแสงจากหลอดไฟ LED ไม่กระพริบ
การใช้หลอดไฟ LED มีประโยชน์พอสมควร ลองมาดูครับว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วทำไมมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ จึงนำมาใช้รักษาอาหาร ฆ่าเชื้อโรคแทนสารเคมี ช่วยให้คุณค่าของผักผลไม้ และ อาหารมีคุณค่า ปราศจากสารเคมี ต่าง ๆ
คณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย แห่งชาติสิงคโปร์ ได้เปิดเผยว่า ได้ค้นพบแสงสีน้ำเงินของหลอดไฟแอลอีดีมีสรรพคุณเป็นยาต้านแบคทีเรียอย่าง ชะงัด สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคที่มากับอาหาร และนำไปใช้ในการถนอมอาหาร แถมยังสามารถตั้งเวลาให้หลอดไฟอัตโนมัติได้ตามเวลาที่ต้องการ ส่งความสดของอาหารได้ตามความต้องการของลูกค้า
แสง สีน้ำเงินของหลอดไฟแอลอีดีจะออกฤทธิ์ได้เต็มที่ หากอยู่ภายใต้อุณหภูมิระหว่าง 4 ถึง 15 องศาเซลเซียส และมีฤทธิ์เป็นกรดเล็กน้อย การค้นพบนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ใช้หลอดไฟแอลอีดีแทนสารเคมีในการรักษาอาหารได้ พวกอาหารสด อย่างเช่นผลไม้สดและเนื้อสัตว์ที่พร้อมที่จะบริโภค จะสามารถรักษาโดยใช้แสงไฟอันนี้ ในอุณหภูมิที่เย็นโดยไม่ต้องใช้สารเคมีอย่างที่ใช้กันอยู่อย่างปกติ
หัวหน้านักวิจัยกล่าวสรุปว่า ผลการศึกษาของเรา ส่อว่าอาจจะใช้แสงไฟจากหลอดแอลอีดีในการเก็บรักษาอาหารเป็นเหมือนไฟอัตโนมัติถนอม อาหารตามเวลาทีต้องการ ภายใต้อุณหภูมิอันเย็นได้ โดยไม่ต้องง้อสารเคมีเลย แต่ยังจะต้องมีการค้นคว้าต่อไปว่ามันจะทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่ ส่วนประโยชน์ของหลอดไฟแอลอีดี ยังมีประโยชน์อีกเยอะ มาดูกันว่า เขามองประโยชน์อย่างไรบ้าง
ประโยชน์จากการใช้หลอดไฟ LED
1. ไม่มีแสง UV
หลอด ไฟประเภท LED ที่เป็นที่นิยมใช้ในยุโรปและประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหมด เพราะไม่มีแสง UV ปลดปล่อยออกจากแสงใดๆเลยแม้แต่น้อย เนื่องด้วย UV จะมีผลกระทบต่อสินค้าที่โดนแสงอย่างต่อเนื่องยาวนาน
2. ปล่อยความร้อนน้อยลงกว่าหลอดไฟแบบเดิม
เนื่อง ด้วยการเปิดหลอดนีออนเพื่อแสงสว่างนั้น คุณต้องการแค่ “แสงสว่าง” เป็นสำคัญ ไม่ได้ต้องการความร้อนแต่อย่างใด ความร้อนเหล่านี้ เกิดขึ้นอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเทคโนโลยีแบบเดิมๆของหลอดไฟ ที่อาจจะปล่อยความร้อนออกมากับคลื่น แต่หลอดไฟ LED ปล่อยความร้อนน้อยลงกว่าหลอดไฟแบบเดิมหลายเท่า
3. LED ทนต่อการสั่นสะเทือนมากกว่า
หลอด ไฟประเภท LED จะมีความสามารถในการทนต่อการสั่นสะเทือนได้มากกว่า เช่น ลิฟต์ ที่ติดตั้งในอาคาร จะติดไฟประเภท LED เพราะลิฟต์ นั้นจะมีอาการสั่นและเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ลดโอกาสการเสียของหลอดไฟได้มากขึ้น ทำให้ไม่ต้องมีพนักงานเข้าไปเปลี่ยนหลอดไฟถี่เท่าเดิม
4. แสงจากหลอดไฟ LED ไม่กระพริบ
หลอด ไฟฟูออเรสเซ้นต์แบบเดิมนั้นจะมีการกระพริบของแสงที่ความถี่ของการกระพริบ 50 Hz. คนงานและพนักงานประมาณ 10-30% มีปฏิกิริยากับการกระพริบของแสงเหล่านี้ โดยอาการที่เกิดเช่น อาการปวดหัว ปวดตา เมื่อมองชิ้นงานภายใต้แสงนีออนต่อเนื่องหลายชั่วโมง หลอดไฟ LED ไม่มีการกระพริบของแสง แสงที่กระทบเข้าตาของพนักงานเหล่านั้นเป็นแสงที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น และเหมาะสมมากขึ้นในการทำงานที่ต่อเนื่อง
5. ประสิทธิภาพของแสงที่เหมาะสมกับรูปแบบโคม
เนื่อง จาก LED จะมีทิศทางการส่องสว่างแบบเป็นท่อ ไม่ได้กระจายออกทุกทิศทาง ทำให้สามารถออกแบบตัวหลอดให้เหมาะสมกับโคม โดยไม่ปล่อยแสงไปในทิศทางที่ไม่ต้องการได้ ทำให้เกิดการประหยัดไฟฟ้าได้
Cr.ไทยรัฐ,เล่าสู่กันฟัง ,Asia21st