อ้อน เกวลิน พิธีวิวาห์อลังการ |
เล่าถึงเส้นความรักครั้งนี้?
อ้อน: รู้จักกับพี่นิคมในบริษัทที่ทำธุรกิจด้วยกัน เราเป็นพี่น้องมา 6 ปีได้ เราเจอกันก็สวัสดีกันทักทายกัน ด้วยความที่พี่เขาเป็นคนเหนือ แม่อ้อน ก็เป็นคนเหนือ เจอกันก็จะกอดทักทาย เขาสนิทกับแม่อ้อนมาก เขาเหมือนพี่ชายที่คอยปรึกษามาตลอด เราไม่คิดว่าเขาจีบ คิดแต่เป็นพี่ชาย เราตัดสินใจเป็นแฟนกัน 2 ปีกว่า เหตุเกิดจากเราไปทานข้าวกัน แล้วเจอเขา..เลยนั่งทักทายและแลกไลน์กัน นั่นคือจุดเริ่มต้น เขาชอบอ่านหนังสือ แต่เราไม่ชอบ เขาเล่าให้เราฟังจนเราอยากอ่าน เราก็เริ่มคุยกันเรื่อยๆ มา พอมีวันหนึ่งเขาหายไป เราก็เฝ้ามองดูไลน์ทำไมเขาไม่ไลน์มาหา เราทนความคิดถึงไม่ไหว เลยคุยกับเขาก่อน เป็นวันแรกที่คุยตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงตีห้าค่ะ
นิคม: ไม่ได้คิดว่าเขาจีบหรอก เขาถ่ายรูปแต่งภาพมา เราก็งงไม่เห็นต้องแต่งเลย เพราะยังไงเราก็ชอบ (ยิ้ม)
อ้อน: วันนั้นที่คุยถึงตีห้า เขาก็บอกชอบเรา
นิคม: หลังจากวันนั้นมาโลกก็สว่างขึ้น (ยิ้ม)
อ้อน: "พี่ชอบอ้อนนะ" เขาพูดแบบนี้ เขาไม่ได้ขอเป็นแฟน แต่เรารู้สึกดีให้กันแล้ว
ความประทับใจที่มีต่อกัน?
นิคม: เขาเป็นคู่ชีวิตที่ขยันทำมาหากิน ต่อสู้เป็นคนกตัญญู เป็นผู้ให้ ผมรู้สึกอยู่กับเขาแล้วปลอดภัย ไว้ใจได้ ได้เป็นตัวของตัวเอง
อ้อน: เราสบายใจที่อยู่กับเขา ด้วยความที่เราโตมากกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน เพราะทำงานมาแต่เด็ก มีความรับผิดชอบมาก ต้องดูแลครอบครัว เลยค่อนข้างซีเรียส แต่พอมาเจอเขา ทำให้เราสบายใจ เจอเรื่องหนักๆ มาก็โล่ง เขาเป็นจิ๊กซอว์ที่เติมเต็มให้อีกตัวค่ะ
เล่าถึงบรรยากาศการขอแต่งงาน?
อ้อน: การคุกเข่าขอผู้หญิงแต่งงานเป็นความฝันของผู้หญิงทุกคน แต่อ้อนไม่ได้รับ (หัวเราะ) เราคุยกันถึงเรื่องลูกไปแล่ว เราจดทะเบียนก่อนจัดงานนะคะ เราจดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมปีที่แล้วค่ะ
ทำไมถึงเลือกจดทะเบียนเงียบๆ?
อ้อน: ต้องถามเขาค่ะ เพราะเขาพูดถึงเรื่องจดทะเบียนมาตลอด พูดมากกว่าขอแต่งงานอีก
นิคม: ผมเป็นผู้ชาย อยากมีครอบครัวเร็วๆ อยากมีลูก พอได้ฤกษ์ก็พาเขาไปจดเลย
แพลนเรื่องลูก?
อ้อน: แพลนมาตั้งนานแล้วค่ะ อู่เปิดพร้อมเสมอค่ะ คงมีเร็วๆ นี้ค่ะ เพราะเราทั้งคู่อายุเยอะแล้ว ยากเหมือนกันนะที่จะมี พอคุยแล้วพี่เขาไม่จบที่ 1 นะ
นิคม: ผมชอบฟุตบอลครับ อยากมีมากที่สุดเท่าที่จะมีได้
อ้อน: ถามเจ้าสาวบ้างไหมคะ (หัวเราะ) อ้อนอยากมีหญิงคนชายคนพอ แต่พี่เขาอยากได้ลูกชาย
หลังจดทะเบียนสมรสได้อยู่ด้วยกันไหม?
อ้อน: ไปมาหาสู่กันตลอดค่ะ แต่ยังไม่ได้ย้าย เพราะเราเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยกันตลอดเวลา
วางแผนไปฮันนีมูนที่ไหน?
อ้อน: ต้องบอกว่าเราฮันนีมูนทุกวันนะคะ (หัวเราะ) ด้วยความที่เราเป็นผู้บริหารในบริษัท ก็เดินทางไปด้วยกันตลอด เราไปทุกทริป เราก็หวานทุกทริป
ถามถึง อ้อน จะทำงานต่อไป หรือทิ้งทุกอย่างแล้วเป็นแม่บ้านเต็มตัว?
อ้อน: ยากมากค่ะ ที่จะเป็นแม่บ้าน เราชินกับการเดินทางนะ แต่ถ้ามีลูกก็คงต้องนัดมาคุยงานที่บ้าน ไม่หยุดค่ะ
นิคม: ตามใจเขาครับ ผมแค่คอยสนับสนุนเขา
เมื่อเช้ามีพิธีอะไรบ้าง?
อ้อน: มีหมั้นและรดน้ำสังฆ์ค่ะ เป็นพิธีแบบไทยค่ะ
ช่วงที่หายไปจากวงการ ไปทำอะไรบ้าง?
อ้อน: อยู่ในธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ ร่วม 5-6 ปีได้แล้ว ก็ยังมีละครและคอนเสิร์ตติดต่อมาตลอด แต่เราจัดสรรเวลาไม่ได้ก็เลยไม่รับ ถ้าถามว่าคิดถึงไหม ก็คิดถึงนะ แต่เราจะเล่นเพราะอยากเล่นมากกว่า ไม่ใช่เพราะเล่นตามหน้าที่
ขอถามถึงค่าสินสอดสักหน่อย?
อ้อน: แหวนกะรัตครึ่งค่ะ อ้อนเป็นคนเลือกเอง ขอแค่นี้พอ อ้อนไม่ได้อยากได้อะไรเยอะแยะ เพราะกระเป๋าเขาอยู่ในกระเป๋าอ้อนหมดแล้ว (หัวเราะ) อ้อนบอกเขาว่าอยากได้แหวนที่ใส่แล้วไม่ถอดเลย ก็เลยได้วงนี้กะทัดรัดดี เรือนหออยู่แถวๆ พระราม 9 ค่ะ และก็มีบ้านที่เชียงราย ราคาสิบล้าน ก็เป็นของอ้อนแล้ว
นิคม: ตั้งใจจะปลูกเรือนหอ 4 ภาคครับ ภาคละหลัง อันนี้พูดจริงๆ เราอยากสวีท เราหวานแบบนี้ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ อยากเสมอต้นเสมอปลายครับ
คำสัญญาที่มีต่อกัน?
นิคม: จะดูแลเขาตลอดไป อยากให้เขาเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดครับ
อ้อน: สิ่งที่ผ่านมา เขาน่าจะเห็นการกระทำของเรา ค่อนข้างประจักษ์แล้ว วันนี้เราได้เลือกเขา เขารู้แล้วว่าเรารักเขา เราจะอยู่ดูแลกัน ตั้งแต่เราจีบกันแรกๆ รูปที่ส่งให้กันก็จะสื่อความหมายเป็นรูปตายายที่นอนตายและจับมือไว้ เป็นรูปคนแก่ที่คอยดูแลกันค่ะ
Cr. , ,