10 ก.ย. 2559

สมาร์ทโฟน ทำได้มากกว่า โทรศัพท์


ยุคสมัยตอนนี้มันก็เปลี่ยนไปกว่าแต่ก่อนมาก เมื่อก่อนมือถือทำได้แค่ รับสาย โทรเข้า โทรออก ส่งข้อความ แต่สมัยนี้มือถือ ถูกเรียกว่าสมาร์ทโฟนไปแล้ว เพราะทำอะไรได้หลายอย่าง จนบางทีก็นึกไม่ถึงเลยก็ว่าได้ และวันนี้ MacThai ได้นำ 1ุ6 สิ่งที่เราไม่คิดว่าสมาร์ทโฟนจะสามารถทำได้นอกจากการทำหน้าที่เป็นแค่ โทรศัพท์

1) โปรเจคเตอร์
สมาร์ท โฟนสมัยนี้สามารถใช้เป็น Mini Projector เอาไว้ดูหนังหรือพรีเซ็นต์งาน โดยไม่ต้องซื้อเครื่องโปรเจคเตอร์ใหญ่ ๆ อีกต่อไป ตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy Beam ที่เป็นโปรเจคเตอร์ในตัวเลย และสำหรับไอโฟนก็มีเช่นกันแต่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมมาต่อเพิ่ม

2) หมวกกันน็อค
หมวก กันน็อคที่ว่านี้จะมีเซ็นเซอร์จาก ICEdot’s Crash ซึ่งจะฝั่งสมาร์ทโฟนเข้าไปในหมวก เพื่อตรวจจับแรกกระแทก เมื่อมีอุบัติเหตุ ก็จะแจ้งเตือนพร้อมแนบตำแหน่งจาก GPS ให้คนที่ต้องการเรารู้ เหมาะกับนักกีฬาผาดโผน

3) รีโมท คอนโทรล
รีโมทของ iPhly นี้จะเป็นเคสไว้ใช้กับไอโฟนซึ่งจะทำให้ไอโฟนของคุณเป็นรีโมททีวี แอร์ หรือจะเป็นรีโมทบังคับเครื่องบินของเล่นต่าง ๆ

4) กล้องวงจรปิดสำหรับหนูน้อย
กล้องวงจร ปิดสำหรับดูเด็กทารก ก็มีมากมายหลายยี่ห้อในตลาด ซึ่งมันสามารถจะดูลูกน้อยของคุณได้ตลอดเวลาผ่าน กล้อง IP Camera ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนผ่านสมาร์ทโฟนของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถคุยกับลูก หรือสั่งให้กล้องหมุนไปรอบ ๆ แบบระยะไกลได้

5) Fitness Tracker
ขณะ นี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง และนี่เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะจดบันทึกพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการออกกำลัง กายของเรา ซึ่ง Fitness Tracker สมัยนี้สามารถ วัดชีพจร วัดความเครียด หรือแม้กระทั่งวัดปริมาณแสง UV (UV Meter)ได้

6) ที่ล็อคประตูบ้าน
Lockitron เป็นบริษัทที่ผลิตที่ล็อคประตูอัจฉริยะ (Digital Door Lock) ซึ่งมันสามารถเปิดล็อคกลอนประตูไฟฟ้าผ่านสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องใช้กุญแจ แจ้งเตือนไปที่สมาร์ทโฟนเมื่อมีคนมาเคาะประตู เป็นต้น

7) สัตว์เลี้ยงแสนรู้
สมาร์ท โฟนเดี๋ยวนี้สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงแก้เหงาได้ด้วย โดยจะนำสมาร์ทโฟนฝังเข้าไปในตุ๊กตา ทำให้ตุ๊กตานั้นเหมือนมีชีวิตขึ้นมา สามารถพูดคุยได้ ร้องเพลงได้ หรือตุ๊กตาที่เคยเห็นอาจจะเป็น เฟอร์บี้ ที่เคยฮิต ๆ กัน

8) บัตรเครดิตและบัตรสมนาคุณต่าง ๆ
ปัจจุบันโลก มันเปลี่ยนไป สมัยนี้ไม่มีใครเค้าพกบัตรเป็นสิบ ๆ ใบในกระเป๋าสตางค์กันแล้ว เดี๋ยวนี้มีเพียงแค่สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็สามารถเป็นเครื่องรูดบัตร แลกแต้มได้แล้ว และบริการเก็บบัตรต่าง ๆ ไว้ในไอโฟนของแอปเปิลนั่นก็คือ Passbook

9) ตัวติดตามเอาไว้หาของหาย
ตัว นี้จะเป็นเซ็นเซอร์เล็ก ๆ เท่าเหรียญ หรือเป็นบัตร เอาไว้ห้อยติดกับพวงกุญแจ ใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์ หรือว่าจะให้ลูก ๆ พกติดตัวก็ได้ โดยเราจะสามารถหาของเหล่านี้ได้จากสมาร์ทโฟน เพียงแค่กด เซ็นเซอร์ตัวนี้ก็จะมีเสียงร้องออกมาให้เราได้ยิน

10) รีโมทควบคุมรถ
รถ ยนต์สมัยใหม่ ๆ จะสามารถสั่งงานจากสมาร์ทโฟนได้ทันที เช่น เปิดล็อค ปิดประตู บีบแตร แจ้งเตือนเมื่อยางแบน เครื่องยนต์เสียตรงไหน มันก็จะส่งข้อมูลพร้อมพิกัด ให้ศูนย์ซ่อมรถมาซ่อมให้เรา ขณะที่เราจอดเสียอยู่กลางทาง

11) เครื่องรูดบัตรเครดิต
Square เป็นบริษัทที่ทำเครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็กไว้ใช้กับสมาร์ทโฟน ไอโฟน ไอแพต เมื่อเราเปิดร้านขายของ เราไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องรูดบัตรขนาดใหญ่ ๆ อีกแล้ว มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็สามารถรูดบัตรได้แล้ว

12) เซ็นเซอร์วัดสภาพแวดล้อม
นี่เป็นเซ็นเซอร์วัดสภาพแวดล้อมของ Sensordrone ซึ่งสามารถวัดคุณภาพอากาศ แก๊สรั่ว อุณหภูมิ ความชื้นของอากาศและส่งไปที่สมาร์ทโฟนได้

13) เครื่องให้อาหารสัตว์
เครื่องให้อาหารสัตว์เดี๋ยวนี้สามารถตั้งเวลาให้อาหารสัตว์เลี้ยงของคุณผ่านสมาร์ทโฟนได้แล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ไหนก็ตาม

14) สวิตซ์เปิด-ปิดไฟ
หลอดไฟในปัจจุบันมี Wi-Fi ในตัวซึ่งทำให้สามารถเป็นไฟอัตโนมัติ เปิด-ปิด หรือเปลี่ยนสีไฟ ได้จากสมาร์ทโฟนของเรา

15) รีโมทกล้องถ่ายรูป
ปัจจุบัน กล้องถ่ายรูปก็มี Wi-Fi หรือ NFC ในการเชื่อมต่อกับมือถือของเรา ไว้ส่งรูปเข้าสมาร์ทโฟนและแชร์รูปผ่านโซเชียลมีเดียร์ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเป็นรีโมท สายลั่นชัตเตอร์ และระบุตำแหน่งเพื่อใส่ไปใน EXIF ของภาพ

16) เครื่องตั้งเวลาปิด-เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องตั้ง เวลาปิด-เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ Thermostat จะเป็นตัวตัดกระแสไฟฟ้าในเวลาที่เรากำหนด เช่นตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์ หรือตั้งอุณหภูมิของแอร์ให้เข้ากับอากาศภายนอก เพื่อทำให้ประหยัดไฟได้สูงสุด

และนี่เป็น 16 สิ่งที่สมาร์ทโฟนทำได้แล้วในปัจจุบัน แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ โดยส่วนใหญ่แล้วเทคโนโลยีจะเข้าไปในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น อนาคตเราจะเห็น ทีวี ตู้เย็น รถ แอร์ พัดลมต่อ Wi-Fi และเชื่อมต่อกับมือถือของเราเพื่อสั่งงานด้วยเสียง และนี่เป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Internet of Things” (IoT)

ซึ่งแอ ปเปิลก็ได้รุกตลาด IoT นี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยใช้ชื่อว่า HomeKit คือสร้างเครื่องมือให้นักพัฒนาได้ใช้ไอโฟนควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านได้

Cr. MacThai,Synergy | Facebook

กล้องวีดีโอ




กล้องวีดีโอ GoPro เป็นกล้องที่เหมาะ สำหรับงานการถ่ายทำภาพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะ มีขนาดเล็กถึงเล็กมาก สามารถนำไปติดตั้งด้านหน้าของรถแข่ง บนหมวกของนักแข่งรถ รวมทั้งติดตั้งบนเครื่องบินได้อย่างง่ายและสะดวกมากรองรับการ view ผ่านอุปกรณ์โมบายด้วย App ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับ App เป็น IP Camera ก็ได้ สามารถเชื่อมต่อ facebook twitter youtube หรือ อีเมล์ก็ได้   ใครอยากลองและสนใจก็ลองสอบถามราคาพิเศษได้จากร้านกล้อง แต่คงต้องเป็นร้านพิเศษสักนิด ราคาส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับหลักหมื่นขึ้นไป


GoPro เตรียมเปิดตัวโดรนของตัวเอง พร้อมอุปกรณ์เสริมติดตั้งกล้องได้ถึง 6 ตัว ใช้ถ่ายรอบด้านและแบบ VR (Virtual Reality หรือ เสมือนจริง) รองรับการใช้งานแบบ กล้อง IP Camera ได้อย่างลงตัว พร้อมเปิดตัวโดรนแบบ 4 ใบพัด พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมที่สามารถติดตั้งกล้อง GoPro ได้ถึง 6 ตัวสำหรับการถ่ายแบบ VR


กล้อง GoPro หลังจากที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และถูกนำไปประกอบติดตั้งเพื่อใช้งานกับโดรน (Drone) เป็นเหตุให้ GoPro คิดจะพัฒนาโดรนของตัวเองออกมาซะเลย  ล่าสุด CEO ของ GoPro อย่าง Nick Woodman กล่าวเองว่าบริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างโดรนของตัวเอง ซึ่งเป็นโดรน (Drone)แบบ 4 ใบพัด หรือ quadrocopter


ปกติก่อนที่ทาง GoPro จะคิดพัฒนาโดรนของตัวเอง กล้อง GoPro นั้นสามารถติดตั้งกับโดรนยี่ห้ออื่นๆได้ ทาง GoPro เองจึงคิดว่า จะดีกว่ามั้ย ถ้า GoPro มีโดรนเป็นของตัวเอง คาดว่าโดรนของ GoPro เองจะมาประมาณปีหน้า แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องราคา หรือสเปคของโดรน


นอกจากโดรน (Drone)แล้ว GoPro กำลังพัฒนาอุปกรณ์เสริมที่สามารถติดตั้งกล้อง GoPro ได้ถึง 6 ตัวเลย ทำให้สามารถถ่ายรูปภาพนิ่ง หรือ วิดีโอได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา หรือจะใช้ถ่ายแบบ VR (Virtual Reality หรือ เสมือนจริง) ซึ่งทาง Nick Woodman นำมาปรับใช้กับตัวต้นแบบรุ่นแรกๆ คาดว่า final product จะยังไม่มาจนกว่าจะครึ่งปีหลังของปี 2015 นี้


Cr.แบไต๋ไอที

9 ก.ย. 2559

สถานีเรดาร์ โซล่าเซลล์


พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานจากธรรมชาติ ที่ได้มาจากดวงอาทิตย์ ไม่มีมลพิษครับ เป็นพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพสูง สามารถนำมาใช้อย่างไม่หมดสิ้นตามความต้องการของเรา จะนำมาเพื่อผลิตไฟฟ้าหรือทำความร้อน โคมไฟโซล่าเซลล์ (Solar Cell)ให้แสงสว่าง และแม้กระทั่งทำความเย็นก็ยังได้

ใน ปัจจุบันถูกนำมาใช้แพร่หลายทั่วโลกเลยทีเดียวครับ  สำหรับประเทศไทยเรานั้นก็ได้มีการประยุกต์ใช้ทั้งหน่วยงานเอกชน ประชาชน แม้นแต่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทน เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell) นั่นเองครับ

ศูนย์ป้องกันทางอากาศ สถานีเรดาร์ (Radar) ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานีรายงานดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดสูงที่สุด ของประเทศไทยด้วยระดับ 2,568 เมตร จากระดับน้ำทะเล และต้องปฏิบัติภารกิจตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบันกองทัพอากาศได้เร่ง รัดจัดการให้มีการใช้พลังงานทดแทน ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนพื้นที่ 60 ตารางเมตร บนหลังคาอาคารแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยพร้อมเก็บสำรองพลังงานไว้ใน แบตเตอรี่เพื่อทดสอบความพร้อมในการจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบด้วยขนาด 800 kW ประมาณเดือนสิงหาคมนี้

สถานีเรดาร์ (Radar)ดอยอินทนนท์จะเปิดการผลิตและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้า โดยแผงโซลาร์เซลล์ สำหรับเป็นพลังงานทดแทนได้ทันทีที่ผลการทดสอบแล้วเสร็จเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานยิ่งขึ้น

เนื่องจากตลอด หลายปีที่ผ่านมาสถานีเรดาร์ (Radar)แห่งนี้ต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากสายส่งจากตัวเมืองเชียงใหม่มาสู่เส้น ทางขึ้นดอยที่สูงชันในสภาพป่าที่สมบูรณ์ บางครั้งจึงเกิดปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้องเพราะต้นไม้ถูกฟ้าผ่ามีกิ่งก้านหัก พาดสายไฟแรงสูงทำให้ต้องใช้ไฟสำรองจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเป็น เชื้อเพลิงระหว่างการซ่อมสายไฟ

พลังงานแสงอาทิตย์ยังจะช่วยลดภาระค่า ใช้จ่ายและความยุ่งยากให้กองทัพอากาศในการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปเก็บสำรอง ไว้ เช่นเดียวกับสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคมและสถานีเรดาร์ (Radar)บนภูกระดึง ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้า จึงต้องอาศัยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพียงสถานเดียว ซึ่งนอกจากจะมีภาระค่าใช้จ่ายสูงมากแล้ว ยังยุ่งยากเพราะไม่มีเส้นทางอื่นใดในการขนส่งนอกจากทางอากาศเท่านั้น เพื่อให้ภารกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวันหยุด

โครงการ ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อใช้งานในสถานีถ่ายทอดโทรคมนาคมในส่วนที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงรวม 4 แห่ง และระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์สำหรับใช้งานระบบเรดาร์ (Radar)กองทัพอากาศรวม 15 หน่วย ซึ่งถือว่ามีส่วนช่วยเสริมเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้กับหน่วยงานความ มั่นคงของชาติเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังมีหน่วยราชการอื่นนำพลังงาน แสงอาทิตย์ ที่ใช้แผงโซลาร์เซลล์มาเป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ เป็นโครงการติดตั้งเสาไฟพร้อมโคมส่องสว่างแบบ โคมไฟโซล่าเซลล์ (Solar Cell) กับโครงการพัฒนาระบบแสงสว่างด้วยชุดโคมส่องสว่างแบบแอลอีดี (LED) ซึ่ง ศอ.บต. เป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ที่เป็นหน่วยงานความมั่นคงที่ได้จัดทำดำเนินการแล้วเสร็จครบทั้งหมดแล้ว เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

โดยที่โครงการในชุดเดียวกันนี้ คือโครงการส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์แบบ รถเคลื่อนที่ ในฐานปฏิบัติการที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ กอ.รมน. ก็ได้เริ่มการผลิตรถพ่วงเคลื่อนที่ต้นแบบ กำลังอยู่ระหว่างการประกอบและติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ โดยคาดหมายว่าจะแล้วเสร็จสามารถส่งมอบแก่หน่วยงานความมั่นคงแห่งนี้ประมาณ ปลายปี 2558 นี้

ประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์
1.พลังงานที่ไม่มีวันหมด เป็นพลังงานจากธรรมชาติ ที่ได้มาจากดวงอาทิตย์
2.พลังงานที่สะอาด พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากโซล่าเซลล์ (Solar Cell)นั้นไม่เกิดมลพิษทางอากาศ
3.ผลิตไฟฟ้าได้ทั่วทุกมุมโลก ขอแค่เพียงมีแสงจากดวงอาทิตย์เท่านั้น
4.แหล่งผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ไหน ก็สามารถนำมาใช้งานได้ที่นั่นเลย ถ้าแสงอาทิตย์ไปถึง
4.สร้างไฟฟ้าได้ทุกขนาด เพิ่มกำลังได้ตามจำนวนแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell)

Cr.ไทยรัฐ

8 ก.ย. 2559

แบตสํารอง iphone


Power Bank หรือ แบตเตอรี่สำรอง จึงกลายเป็นแก็ดเจ็ต(Gadget)ที่หลายคนพกติดตัวไว้เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาแบ ตมือถือหมดกลางทาง ในความเป็นจริงแล้วเราไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟมากขนาดนั้น เอาแค่ซัก 2-3 เท่าของแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนก็เกินพอแล้ว(โดยส่วนใหญ่แบตเตอรี่สมาร์ทโฟนจะ อยู่ที่ 2000-3000 mAH) เพราะยิ่งจุไฟได้มากเท่าไหร่ตัวเครื่อง Power Bank ก็จะยิ่งใหญ่และหนักกระเป๋ามากขึ้นเท่านั้น

ใครที่รักความสะดวกพก พา การเลือกใช้พลังงานน้อยๆก็น่าสนใจ จากประสบการณ์การใช้งานจริง 3000 mAH ก็ยืดอายุสมาร์ทโฟนให้แบตเต็มได้อีก 1 รอบพอดี ถ้าไม่จำเป็นต้องชาร์จหลายเครื่องหรือต้องชาร์จหลายวัน เลือกตัวเล็กหน่อยก็ได้ครับ

หนึ่งในโครงการจาก Kickstarter กับ CoBattery เคสและแบตเตอรี่สำรอง(Power Bank) สำหรับ iPhone 5, 5S และ 6 ซึ่งมีจุดที่การสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำรองด้านหลังได้รวดเร็ว ดึงออกแล้วสลับกับแบตเตอรี่สำรองอีกก้อนก่อนจะนำก้อนเดิมไปใส่แท่น ที่ชาร์ตแบตสํารอง iphone เพื่อชาร์จไฟ โดยใน1 ก้อนจะสามารถชาร์จโทรศัพท์ได้ประมาณ 2.5 รอบ


สำ หรับเคสของ CoBattery ใช้พลาสติกกันกระแทกเป็นวัสดุในการผลิต ป้องกัน iPhone ได้แม้จะร่วงหรือตกกระทบรุนแรง มีน้ำหนักเบา เมื่อชั่งรวมกับแบตเตอรี่สำรอง ( Power Bank )แล้วจะหนักเพียง 73 กรัม


นอก จากนี้เจ้าของโครงการอ้างว่าหากใช้งาน CoBattery อยู่ตลอดจะช่วยรักษาและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ของ iPhone ให้ยาวนานขึ้นมากกว่าเดิมมากเนื่องจากไม่ต้องชาร์จกับไฟบ้านโดยตรง

อย่างไรก็ดี CoBattery ยังอยู่ในระหว่างการระดุมทุนเท่านั้นและไม่มีการวางจำหน่าย คาดว่ามีราคาประมาณ 60 ดอลลาร์ (2,020 บาท)


Cr.ที่นี่มีเดีย

7 ก.ย. 2559

Poke ball ล่า Pokemon Go


ใครที่เล่นเกม Pokemon Go มาสักพักจนเจอโปเกม่อน (Pokemon Go) CP 500+ จะเริ่มรู้สึกว่าการจับโปเกม่อน (Pokemon Go)มันเริ่มลำบากมากขึ้น ตอนต้นเกมเพียงแค่เราโยนบอลให้โดนเฉยๆ ก็จับได้ง่ายๆ แล้ว เหล่าเทรนเนอร์ถูกใจ“Poke ball” ของจริงใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนล่าโปเกม่อน (Pokemon Go)แถมพ่วงพาวเวอร์แบงก์กันแบตเตอรี่หมด

วันนี้ถือเป็น Gadget ที่เหล่าเทรนเนอร์ ต้องกรีดร้อง สำหรับ “Poke ball” ของจริงใช้ล่าโปเกม่อน (Pokemon Go)ที่ไม่ได้มีแต่ในเกม โดยจะทำหน้าที่เป็นคอนโทรลเลอร์สำหรับจับโปเกม่อน (Pokemon Go)ในเกม “Pokemon Go” โดยจะมาพร้อมกับ Bluetooth ในตัว สำหรับใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน   โปเกม่อน (Pokemon Go)แต่ละชนิดจะมีอัตราความสำเร็จในการจับแตกต่างกัน โดยจะคิดเป็นค่าพื้นฐาน เช่น ฟุชิกิบานะ (Venusaur) มีโอกาสจับสำเร็จพื้นฐานอยู่ที่ 4% ซึ่งจะนำไปคำนวณเพิ่มเติมจากปัจจัยอื่นๆ ในภายหลัง นอกจากนี้เลเวลของเทรนเนอร์เองก็มีผลกับการจับโปเกม่อน (Pokemon Go)ด้วย หากเรากับโปเกม่อน (Pokemon Go)ที่เจอมีเลเวลต่างกันมาก ก็จะยิ่งจับยากยิ่งขึ้น

โปเกม่อน (Pokemon Go)บางตัวแม้จะจับไม่ยาก แต่ก็มีอัตราหนีสูง ทำให้เรามีโอกาสโยนบอลแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น เช่น เคซี (Abra) ที่มีอัตราการหนี 99% เมื่อเจอกับโปเกม่อน (Pokemon Go)แบบนี้ ให้เราโยน Berries และใช้ลูกบอลระดับสูงสุดที่มีในการจับเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จให้สูงที่สุด หรือหากใครมั่นใจว่าปา Curved Ball ไม่พลาด ก็ปาได้เลย

นอกจากนี้“Poke ball”  ยังมีเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว ที่เหล่าเทรนเนอร์สามารถโยนได้จริง เพียงแค่ทำท่าให้ดูเหมือนจะโยนลูกบอลออกไปเท่านั้น ลูกบอลที่อยู่ในเกมก็จะถูกโยนออกไปด้วยเช่นกัน ถือเป็นการเพิ่มความสมจริงในการเล่นให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ภายใน Poke Ball ยังมีแบตเตอรี่สำรอง ที่ทำให้สามารถใช้เป็นที่ชาร์จแบตเตอรี่ขณะออกตามล่าหาโปเกม่อน (Pokemon Go)ได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ราคาอยู่ที่ 55 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,900 บาท


Cr.ข่าว TNN24,Synergy | Facebook

Solar Charger บางสุดในโลก


Solar Cell Charger” ที่ชาร์จเก็บไฟด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่บางเฉียบที่สุดในโลก !!!

เชื่อ ว่าหลายคนคงเคยจะได้ยินเรื่องของพลังงานโซล่าเซลล์ (Solar Cell)กันมาบ้างแล้ว แต่ยังไงมันก็ยังเป็นเรื่องที่ไกลตัวคนธรรมดาอย่างเราอยู่ดี เพราะด้วยการติดตั้งและบริษัทที่เชี่ยวชาญในการทำนั้นยังมีไม่มาก แต่วันนี้มีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งที่จะทำให้เราเข้าใกล้กับพลังงาน Solar Cell ได้ง่ายมากขึ้นสิ่งประดิษฐ์ที่ว่านี้มีชื่อว่า “Solar Paper”  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการระดมทุนจากเว็บไซต์ start-up ชื่อดังอย่าง Kickstarter

“Solar Paper” คือที่ชาร์จแบตเตอรี่สำรอง พลังงาน โซล่าเซลล์ (Solar Cell) ที่บางที่สุดในโลก โดยเจ้า Solar Paper สามารถใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน (Smartphone) โน๊ตบุ๊ค หรือแม้กระทั่งกล้องบางประเภท ขนาดของมันก็พอๆกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ๆประมาณ iPhone 6 Plus หรือ Samsung Galaxy Note 4 แต่จะมีความหนาแค่เพียง 1.5 มิลลิเมตรเท่านั้น

ที่ ชาร์จแบตพวกอุปกรณ์สมาร์ทโฟน (Smartphone) หรือที่หลายๆคนอาจจะเรียกมันว่าแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่ทำมาจากโซล่าเซลล์นั้น น่าสนใจไม่ใช่น้อย แต่หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่า มันจะหนักมั้ย? หรือมันจะใหญ่เทอะทะไปมั้ย?  เพราะคิดว่าแผงโซล่าเซลล์ต้องใหญ่ๆ ถึงจะเก็บไฟได้เยอะๆ

เมื่อแบตของ Solar paper หมดลงคุณก็สามารถชาร์จแบตฯ ให้กับมันได้ด้วยการนำ Solar Paper วางไว้กลางแดด ถึงแม้ว่าแหล่งพลังงานของ  Solar Paper จะมาจากแสงอาทิตย์แต่มันก็สามารถให้พลังงานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ไม่ต่างจากปลั๊กไฟที่บ้านเลย

หากอยากจะเพิ่มปริมาณความจุพลังงาน แสงอาทิตย์ให้กับ Solar Paper ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการเพิ่มแผ่น Solar Paper ต่อกันไปเรื่อย ๆ ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดถือเป็นการเก็บสำรองไฟฟ้า Solar Collector ที่มีประโยชน์ ถ้าจะใช้งานก็แค่เปิดแผงออกมา แล้วก็เสียบเข้ากับอุปกรณ์ของคุณเพื่อเริ่มการชาร์จไฟ และไม่ว่าจะชาร์จกับแดดกลางแจ้ง หรือแม้แต่ชาร์จกับไฟในห้อง ก็ใช้ได้

นอก จากจะช่วยประหยัดค่าไฟที่บ้านคุณแล้ว Solar Paper ยังช่วยประหยัดพลังงาน และไม่สร้างมลพิษให้กับโลกอีกด้วย ล่าสุด เจ้า Solar Cell Charger ราคาอยู่ที่ 69 ดอลล่าร์ (ประมาณ 2,350 บาท) ซึ่งตัวเดียวน่าจะเพียงพอที่จะชาร์จไฟให้กับโทรศัพท์ แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) หรืออุปกรณ์เล็กๆที่กินไฟไม่มาก ส่วนแท็ปเล็ต หรือ กล้องถ่ายรูป อาจต้องใช้ประมาณ 3 – 4 แผงเลย ถ้าจะชาร์จไฟให้เต็ม ซึ่งสามารถซื้อแยกได้ แล้วเอามาติดกันแบบแม่เหล็กได้


Cr.Marketeer

6 ก.ย. 2559

ตลาดแท็บเล็ต (tablet) ปี 2016


ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว iPad ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาบนโลกออนไลน์ไปอย่างถาวร มันช่วยอำนวยความสะดวกในการรับชมสื่อบันเทิงและการสร้างสรรค์เนื้อหาอย่างไม่รู้จบ มันฆ่า Flash ตายทั้งเป็น มันทำลายเน็ตบุ๊กจนไม่เหลือซาก มันตีตลาดโน้ตบุ๊กจนถอยร่นไม่เป็นท่า ทุกฝ่ายต่างยกย่องว่ามันคือสุดยอดนวัตกรรมปฏิวัติโลก และเป็นผลงานโบว์แดงชิ้นสุดท้ายจากมันสมองของ Steve Jobs ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจผู้ผลิตพัฒนาแท็บเล็ตลักษณะเดียวกันตามออกมามากมาย

หันกลับมาดูที่ตลาดแท็บเล็ต (tablet)กันบ้าง ไม่เพียงแต่ Apple เท่านั้นที่ประสบปัญหายอดขายแท็บเล็ตลดลง แต่ผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Samsung ก็ประสบปัญหาเดียวกัน โดยรายงานล่าสุดพบว่า ยอดขายแท็บเล็ตของบริษัทลดลงกว่าร้อยละ 18.4 ในไตรมาสล่าสุด นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคิดว่า สาเหตุที่ยอดขายแท็บเล็ตแบรนด์ใหญ่ๆ ลดลงเป็นเพราะการเข้ามาตีตลาดของแท็บเล็ตราคาถูกจากประเทศจีน

นอกจากการเข้ามาตีตลาดของแบรนด์จีนแล้ว ความนิยมของสมาร์ทโฟน(smartphone)จอใหญ่ อาทิ iPhone 6 Plus และ Samsung Galaxy Note ก็มีส่วนทำให้ยอดขายของแท็บเล็ตลดลงเช่นกัน โดยรายงานจาก IDC ระบุว่า ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ยอดขายสมาร์ทโฟน(smartphone)จอใหญ่ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายแท็บเล็ตกลับเพิ่มขึ้นน้อยมาก หรือไม่เพิ่มเลย เพราะทุกวันนี้ฟังก์ชั่น ของสมาร์ทโฟน(smartphone)กับแท็บเล็ตต่างเหมือนกันแทบทุกกระเบียดนิ้ว ผู้บริโภคคงหาเหตุผลที่จะซื้อแท็บเล็ตมาใช้ได้ยากในเมื่อสมาร์ทโฟน(smartphone)ที่อยู่ในมือสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนกัน ประเด็นนี้สอดคล้องกับรายงานของเว็บฯ ข่าวไอที Gigwire.com ที่ระบุว่า อัตราการใช้งาน iPad ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ iPhone 6/6 Plus เปิดตัว โดยผลการสำรวจดังกล่าว



ตลาดแท็บเล็ต (tablet)เป็นตลาดที่น่าเป็นห่วงมากกว่าตลาดอื่นมากที่สุด เพราะในปีนี้ IDC คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนยอดขาย 850,000 เครื่อง มีอัตราลดลงถึง 40% หรือมีมูลค่า 7,400 ล้านบาท ลดลง 37% จากปี 2558 มีจำนวน 1.4 ล้านเครื่อง มูลค่า 11,000 ล้านบาท  ตลาดแท็บเล็ต (tablet)เคยขึ้นสู่จุดพีคที่สุดเมื่อปี 2557 ที่มีจำนวนยอดขายถึง 3.15 ล้านเครื่อง แล้วก็ค่อยๆ ตกลงมาเรื่อยๆ ทุกปี ซึ่งปัญหาหลักที่ให้แท็บเล็ตค่อยๆ ลดความนิยมก็เพราะว่าเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถใช้ดูหนังฟังเพลงได้ และเทคโนโลยีก็ก้าวหน้า สมาร์ทโฟน(smartphone)สามารถทำได้ทุกอย่าง

ณัฐชนน บุญสอน นักวิเคราะห์ตลาดไคลเอนด์ดีไวซ์ ไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า “แท็บเล็ตเป็นเทรนด์ที่ตกเหมือนกันทั่วโลก เพราะด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากทั้งสมาร์ทโฟน(smartphone)และคอมพิวเตอร์พีซี ทำให้สามารถทำงานได้มากกว่าแท็บเล็ต และใช้งานสะดวกกว่า ทำให้หลายคนเลือกใช้ไม่สมาร์ทโฟน(smartphone) หรือไม่ก็คอมพิวเตอร์ไปเลยมากกว่า” และยิ่งในตอนนี้ก็มีเทรนด์ของโน้ตบุ๊กแบบถอดจอได้ หรือแบบไฮบริดก็สามารถใช้แทนแท็บเล็ตได้เช่นกัน ทำให้แท็บเล็ตถึงกับตกที่นั่งลำบาก ตลาดมีการติดลบอย่างต่อเนื่อง แต่เทรนด์ของแท็บเล็ตก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ 1.หน้าจอส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ 7 นิ้ว ไม่ใหญ่ ไม่เล็กไปกว่านี้ 2.ในสิ้นปีนี้แท็บเล็ตจะรองรับ 4G และไวไฟได้ และ 3.ตลาดมีการตกเหมือนกันทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย

Cr.ข่าว Positioning

ต้นแบบมือถือ 4จี ‘ควอลคอมม์’



ควอลคอมม์’ โชว์ต้นแบบมือถือ 4จี
การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อก้าวไปสู่ 4จี ของบริษัท ควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์อินคอร์ปอเรทเต็ด(Qualcomm) ผู้พัฒนาด้านเทคโนโลยีระบบ 3จี 4จี เทคโนโลยีด้านการสื่อสารไร้สายและหน่วยประมวลผล (ชิปเซ็ต)สเน็ปดราก้อนที่ใช้ในในอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ“


นายแมนทอช มัลโฮตร้า ประธานประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริษัท ควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์อินคอร์ปอเรทเต็ด(Qualcomm) กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวไกลทำให้วันนี้โทรศัพท์มือถือเป็นเหมือน คอมพิวเตอร์พกพา โดยปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ใช้หน่วยประมวลผลสเน็ปดราก้อนของควอลคอมม์ที่รองรับระบบ 3จี 4จี และใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แล้วกว่า 1 พันล้านชิ้น


ในปี พ.ศ. 2561 ทั่วโลกจะมีการเชื่อมต่อด้วยระบบ 3จีและ 4จี ผ่านอุปกรณ์สื่อสารมากถึง 5.2 พันล้านผู้ใช้งาน โดย 80% ของโทรศัพท์มือถือที่จำหน่ายทั่วโลกจะเป็นสมาร์ทโฟน (Smartphone)


ขณะ ที่คอนเท้นท์ที่มากับสมาร์ทโฟนกำลังพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับ อุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ ได้ เช่น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายในบ้าน ข้อมูลการดูแลสุขภาพ รถยนต์และอุปกรณ์พกพาอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ซึ่งนำไปสู่เรื่องของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ากับทุกสิ่งหรือที่เรียก ว่า อินเทอร์เน็ตออฟ เอเวอรี่ธิงส์ (Internet of Everything (IoE)” นายแมนทอชกล่าว


วันนี้หน่วยประมวลผลสเน็ปดราก้อนของควอลคอมม์มีอยู่ในอุปกรณ์สื่อสารทั้งระดับราคาสูงและราคาถูก ซึ่งความหลากหลายของเทคโนโลยีที่ควอลคอมม์พัฒนาจะทำให้ผู้บริโภคทุกระดับมีโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี นอกจากนี้ควอลคอมม์ยัง ออกแบบโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ผู้ผลิตรายเล็ก ๆ มาซื้อสิทธิ หรือไลเซ่นส์ (License) เพื่อนำไปผลิตและทำให้โทรศัพท์มือถือมีราคาถูก สามารถขายให้กับผู้มีรายได้น้อย  สามารถนำไปต่อยอดเป็น กล่องทีวีดิจิตอล กล่องแอนดรอย (Android TV Box) ซึ่งควอลคอมม์ใช้เงิน 20% ของรายได้ต่อปีในการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์


นายสุวิทย์ พฤกษ์วัฒนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำประเทศไทย บริษัท ควอลคอมม์ฯ กล่าวถึงทิศทางเทคโนโลยี 4จี ในประเทศไทยว่า จากตัวเลขพบว่า เดือน ธ.ค. 2557 ประทศไทยมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน 4จี อยู่ 14.1% โดยเดือน เม.ย. 2558 เพิ่มเป็น 18% และคาดว่าในเดือน ธ.ค. 2558 จะมีโทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน 4จี ในไทยมากถึง 30.7% จากการคาดการณ์ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในไทย 16-18 ล้านเครื่องในปี 2558


สำหรับปัจจัยการเติบโตของโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 4จี ในไทย เกิดจากผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ (Smartphone) เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ๆโดยช่วงกลางปีนี้จะเริ่มเห็นโทรศัพท์มือถือรองรับ 4จี ที่มีราคาถูกวางจำหน่าย “ควอลคอมม์(Qualcomm)ทำต้นแบบโทรศัพท์มือถือที่รองรับการใช้งาน 4จี โดยใช้หน่วยประมวลผลควอลคอมม์เอ็ม เอสเอ็ม 8909 หน้าจอ 4.5 นิ้ว กล้องหลัง 5 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 2 เมกะพิกเซลรองรับปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุด และใช้งานได้กับโครงข่าย 4จี แอลทีอี บนคลื่นความถี่ 2100/180 เมกะเฮิรตซ์ โดยราคาต้นทุนต่อเครื่องอยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 2,000 บาท” นายสุวิทย์ กล่าว


แม้ราคาโทรศัพท์มือถือเครื่องต้นแบบที่รองรับ 4จี จะมีราคา 2,000 บาท แต่เมื่อผู้ผลิตนำไปผลิตจะบวกกำไรเข้าไปด้วยดังนั้นราคาขายจึงขึ้นอยู่กับ ผู้ผลิตว่าจะกำหนดราคาอยู่ที่เท่าไหร่ ขณะนี้มีผู้ผลิตจากประเทศจีนมาซื้อสิทธิเพื่อไปผลิตแล้วคาดจะวางจำหน่ายใน เดือน มิ.ย. นี้หรือช่วงกลางปี ส่วนประเทศไทยหากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอปเรเตอร์) จะนำเข้ามาจำหน่ายโดยติดต่อผ่านผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจีนก็อาจได้เห็น โทรศัพท์มือถือที่รองรับ 4จีราคาถูก


การก้าวเข้าสู่เทคโนโลยี 4จี จะเร็วกว่าการเปลี่ยนผ่านจากช่วง 2จี สู่ 3จี และเรื่องของราคาก็จะถูกลงเร็วกว่า ส่วนการก้าวเข้าสู่ 4จี ของไทย จะคึกคักเกิดจากการประมูลคลื่นความถี่ 1800/900 เมกะเฮิรตซ์เพื่อรองรับการใช้งาน 4จี การจำหน่ายอุปกรณ์ที่รองรับ 4จี ในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ และการที่โอปเรเตอร์ช่วยกันผลักดันเรื่องของ 4จี และนำเทคโนโลยีเข้าถึงผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย ใครมีงบน้อยอดใจรออีกนิดเดี๋ยวโทร ศัพท์มือถือที่รองรับ 4จี ในราคาย่อมเยาก็มา.

Cr.เดลินิวส์

3 ก.ย. 2559

สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch)


คอนเซ็ปต์นาฬิกาสมาร์ทวอทช์อัจฉริยะของเวลโลกราฟคือ อุปกรณ์เก็บข้อมูลสุขภาพของผู้สวมใส่ โดยออกแบบมาให้มีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งบ่งบอกได้ถึงความแข็งแรงของสุขภาพ ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลจากตัวเรือนหรือใช้งานคู่กับแอพ Wellograph ซึ่งดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอส แอนดรอยด์และวินโดวส์


เป็น ปีแห่งเครื่องประดับบนข้อมือที่สุดแสนอัจฉริยะอย่างแท้จริง โดยเฉพาะแวร์เอเบิลประเภทสมาร์ทฟิตเนสแทรคเกอร์ ซึ่งฟังก์ชันการติดตามผลการเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก ที่สุด เช่นเดียวกับ "เวลโลกราฟ” (Wellograph) แวร์เอเบิลดีไวซ์สัญชาติไทยที่ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ


"เป้า หมายในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เวลโลกราฟจะแบรนด์สินค้าสำหรับคอนซูเมอร์เทคโนโลยีสัญชาติไทยที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในตลาดโลก" คำประกาศของ สารสิน บุพพานนท์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เวลโลกราฟ จำกัด ที่ประสบความสำเร็จจากการขาย เครื่องสแกน หนังสือ “Bookdrive” ทั่วโลกมาแล้ว


ปั้นนวัตกรรมในตลาดโลก

“ข้อมูลสำคัญที่สุด คือข้อมูลเกี่ยวกับหัวใจของเรา ผมมองว่า สมาร์ทวอทช์ติดตัวไปกับเราได้ทุกที่ มันจะรู้ว่าเรามีกิจกรรมอะไรยังไงบ้าง แล้วมันก็จะเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพโดยตรง สมาร์ทวอทช์ข้อ มือเรือนนี้จึงถูกออกแบบมาให้มี Heart Rate Sensor เป็นคอร์เทคโนโลยีของเราที่บอกได้ว่า ผู้สวมใส่มีอัตราการเต้นของหัวใจเท่าไหร่ มีสุขภาพแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน มีความเครียดอยู่รึเปล่า ประเมินได้ว่าอายุสุขภาพที่แท้จริงเป็นเท่าไหร่ ทั้งหมดดูจากการเต้นของหัวใจได้เลย”


ปัจจุบันหน้าร้านของเวลโลก ราฟอยู่ในช็อปไอที และเป็นที่ตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่นและผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี เพราะตลาดเมืองไทยเปิดรับสินค้าเทคโนโลยีเร็ว สังเกตได้จากการเข้ามาของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ( wearable) ที่จะมีฟังก์ชันใหม่ๆ ออกมาดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ทั้งแบรนด์เนมดังๆ เป็นจำนวนมากมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท


เขาบอกว่า โอกาสธุรกิจคิดใหม่ของสมาร์ทวอทช์เพื่อ สุขภาพที่เริ่มขึ้นได้ อาศัยจุดแข็งการเป็นสินค้านวัตกรรมสัญชาติไทยที่มีคุณภาพระดับโลกทั้งใน เรื่องของเทคโนโลยีและดีไซน์ ซึ่งได้รับรางวัลจากเวทีในต่างประเทศมาแล้ว ขณะเดียวกันไลฟ์ไสตล์ผู้บริโภคยุคนี้ก็พร้อมจ่ายเพื่อซื้อความพิเศษกันมาก ขึ้น เหมือนเช่นที่ผ่านมาเกี่ยวกับสินค้า เครื่องสแกนแบบพกพา ที่สามารถทำยอดขายได้ดีในต่างประเทศ
"เรา มองเห็นเทรนด์เทคโนโลยีนี้มา 4-5 ปีที่แล้วว่า อุปกรณ์แวร์เอเบิลจะเข้ามามีบทบาทในอีก 10 ปีต่อจากนี้ในแง่ของการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญฟังก์ชันจะแอดวานซ์มากกว่านาฬิกาสมาร์ทวอทช์ทั่วไป ผมต้องการโฟกัสและพัฒนาการใช้ wearableในเรื่องสุขภาพโดยเฉพาะ"


ฟังก์ชันสุดล้ำหัวใจการพัฒนา

ไอ เดียของออกแบบเน้นมินิมอลดีไซน์ที่สวมใส่ได้ในทุกโอกาส ทีมงานออกแบบให้ตัวเรือนชั้นบนเป็นสแตนเลส ชั้นล่างเป็นอะลูมิเนียม หน้าจอแซฟไฟล์คริสตัลที่ป้องกันรอยขีดข่วน สามารถถอดเปลี่ยนสายได้สะดวกโดยเลือกได้ว่าจะใช้สายหนังในชีวิตประจำวัน หรือสายสปอร์ตเมื่อต้องการใส่ออกกำลังกาย แบตเตอรี่นาน 7 วัน


"แม้ จะยังใหม่และต้องใช้เวลาสื่อสารกับตลาด แต่การตีโจทย์ให้แตกตั้งแต่ต้น ทำให้เวลโลกราฟได้รับการตอบรับจากตลาดระดับหลักหมื่นเรือน หลังจากเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา" สารสินกล่าวและว่า สัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศ 20 % ต่างประเทศ 80% ซึ่งตลาดหลักเป็นอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ส่วนตลาดในประเทศอาจไม่หวือหวาส่วนหนึ่งจากสภาพเศรษฐกิจ ในอนาคตสัดส่วนในประเทศไทยอาจลดลงเหลือ 5% แต่จะขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้น


สารสิน วิเคราะห์ว่า 5-10 ปีต่อจากนี้ ดีไซน์สมาร์ทวอทช์จะ บางและเล็กแต่มีความสามารถมากขึ้น แบตเตอรีอยู่ได้นานขึ้น ฟังก์ชันต่างๆอจะเพิ่มขึ้น ส่วนคุณสมบัติการบอกเวลาจะกลายเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่ต้องมีแต่ไม่ใช้เป็น จุดขายเพราะสามารถดูเวลาในมือถือ แต่ที่หลายคนยังสวมใส่สมาร์ทวอทช์เนื่องจากรู้สึกถึงความเท่หรือบ่งบอกฐานะ บุคลิกภาพและรสนิยม เหมือนการต่อยอด เครื่อง Scanner มาเป็นแบบพกพากระทัดรัด สะดวกสบายกว่าแบบเดิม ๆ


"ผม มั่นใจว่า Heart Rate Sensor จะเป็นฟังก์ชันพื้นฐานในอุปกรณ์ wearable เหมือนกับฟังก์ชันกล้องถ่ายรูปที่ต้องมีในสมาร์ทโฟน ขณะที่เวลโลกราฟเองก็จะต้องมีไอเดียในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความล้ำหน้า ต้องโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อก้าวไปอีกขั้นหนึ่งของตลาด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามันจะเป็นในรูปไหนได้ในตอนนี้" วิศวกรนักคิดกล่าวทิ้งท้าย

Cr.กรุงเทพธุรกิจ

นวัตกรรมใหม่ ไทยคม


ที่ผ่านมานี้ บมจ.ไทยคม แสดงผลงานนวัตกรรมใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้คู่ค้ารวมถึงนักเรียนนักศึกษา ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาชมความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมของบริษัท โดยรวบรวมโซลูชั่นบริการด้านบรอดแบนด์และบรอดแคสต์(Broadcast & Broadband) ที่กำลังพัฒนาและเปิดให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว อาทิ โซลูชั่น สมาร์ทโฮม(Smart Home) สมาร์ทคอนโดและโฮเทล(Smart Condo & Hotel)

สมาร์ท ดีไวซ์ (Smart Device) ที่จะนำมาแสดง มีการให้บริการทีวีดิจิตอล อินเตอร์แอคทีพ ทั้งไฮบริดแคสต์(Hybridcast) และ วีดิโอ ทู ดาต้า(VDO To Data) ที่จะช่วยให้ผู้ชมรายการโทรทัศน์สามารถสั่งซื้อขายสินค้าที่ปรากฏหน้าจอได้ ทันทีผ่านทางออนไลน์

นวัตกรรมสมาร์ทโฮม(Smart Home) ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถควบคุมอุปกรณ์ในบ้านผ่านสมาร์ทโฟน(Smartphone)  ทั้งเปิด-ปิดไฟ หรือ ไฟอัตโนมัติ (Motion Sensor Light) เครื่องปรับอากาศ รวมถึงติดซิปอาร์เอฟไอดี (RFID)  หรือเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สายระยะสั้น ติดไว้ที่ซองอาหารหรือขวดน้ำในตู้เย็น เพื่อนำไปแตะหน้าแท็บเล็ต (Tablet)ของตู้เย็นสำหรับตรวจสอบของคงเหลือและคุณค่าทางโภชนาการ ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบ

สิ่งเหล่านี้นำมาจัดแสดงในงานไทยคมอินโนเวชั่นเดย์ ที่ผ่านมานี้ชูนวัตกรรมบรอดคาสต์(Broadcast) และบรอดแบนด์(Broadband) ภายใต้คอนเซ็ปต์ เข้าถึง คมชัด สัมผัสได้ใกล้ตัวคุณ เน้นบริการที่จะเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น

นอกจาก นี้ยังเพิ่มในส่วนการรับชมรายการโทรทัศน์มัลติสกรีน สามารถรับชมได้ทุกหน้าจอ ทั้งจากโทรทัศน์สมาร์ทโฟน(Smartphone)  หรือแท็บเล็ต (Tablet) ผ่านการเชื่อมต่อสัญญาณบรอดแบนด์(Broadband) ทั้งบริการ ตัวรับสัญญาณ WiFi ผ่านดาวเทียมบนเครื่องบินของนกแอร์  รวมถึงทางเรือเฟอร์รี่ทั้ง 6 ลำที่ประเทศญี่ปุ่น  และกำลังพัฒนาให้สามารถให้บริการได้บนรถทัวร์ต่อเชื่อมผ่าน USB WiFi ซึ่งมีความเร็วในการดาวน์โหลดอยู่ที่ 50 เมกะบิตต่อวินาที

รวม ทั้งเทคโนโลยีด้านการโฆษณาดิจิตอลต่างๆ ทั้งป้ายโฆษณาดิจิตอล การรับชมสถานที่ท่องเที่ยวผ่านภาพพาโนรามา360องศา ซึ่งจะทำให้การโฆษณาต่างๆมีความน่าสนใจมากขึ้น

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยคม กล่าวว่า
ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีอิทธิพลกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและถูกปรับเปลี่ยนให้ เข้ามาตอบสนองความต้องการ รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจขึ้นมากมาย ในช่วง 2–3 ปีนี้

ไทยคมจึงได้ปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากการเป็นผู้ให้บริการ ดาว เทียม ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านโทรคมนาคมและบรอดแคสต์(Broadcast) กลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นครบวงจร รวมเทคโนโลยีทั้งด้านบรอดแคสต์และบรอดแบนด์(Broadcast & Broadband)ไว้ด้วยกัน กลายเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแพลตฟอร์มดาวเทียม ตอบสนองความต้องการของทุกภาคอุตสาหกรรม

ปัจจุบันรายได้ของไทยคมอยู่ อันดับที่ 8 ของโลกในแง่ของบริษัทให้บริการดาวเทียม และการที่ไทยคมเสริมด้วยนวัตกรรมต่างๆ จะทำให้เหนือกว่าบริษัทดาวเทียมอื่นๆ แม้จะมีจำนวนดาวเทียมไม่เท่าที่อื่น โดยจะเน้นสร้างพันธมิตรในส่วนนี้และมองว่าจะเป็นแนวโน้มที่ดีของไทยคม. พร้อมตั้งเป้าภายใน 3 ปีจะมีรายได้ในส่วนนี้ถึงร้อยละ 20 จากรายได้ทั้งหมด

Cr.ไทยรัฐ,Synergy | Facebook

1 ก.ย. 2559

บัตรเครดิต ยุคดิจิตอล



บัตรเครดิตยุคดิจิตอล บน สมาร์ทโฟน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจริงๆ....!!!

สำหรับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคดิจิตอลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี บัตรเครดิตที่ เคยเป็นเรื่องทันสมัยตอนนี้ก็ดูเหมือนกำลังจะเป็นของล้าสมัยไปแล้ว เมื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน การใช้จ่าย รวมถึงการเข้าถึงบริการต่างๆสามารถใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ ทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต มือถือ ทั้งสมาร์ทโฟน และแอนดรอยด์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตต้องพยายามพัฒนาระบบปฏิบัติการรวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆให้ทันสมัย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือผู้บริโภคให้ได้

ธีรยุทธ์ สิริกุลวิริยะวาณิช ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง บริษัทบัตรเครดิตกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี บอกว่า การพัฒนาเว็บ แอพพลิเคชั่น (Web Application) ของบริษัทบัตรเครดิต หัวใจสำคัญก็คือ เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกผู้ถือบัตร ให้สามารถบริหารจัดการการเงินได้คล่องตัว

“ต้อง ยอมรับว่า เทคโนโลยีต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่บริษัทเคยทำระบบที่เรียกว่า Click KTC ให้ผู้ถือบัตรเรียกดูข้อมูลบัญชีของบัตรที่ถืออยู่ได้ทุกประเภท ทั้งรายการรูดบัตรเครดิต ดูคะแนนสะสม ดูโปรโมชั่นต่างๆ เพิ่มวงเงิน เพียงแค่คลิก (Click) ก็สามารถที่จะจัดการเรื่องทั้งหมดได้ โดยใช้แค่ Username และ Password”

ธีรยุทธ์ บอกว่า ที่ผ่านมามีการพัฒนาระบบที่เรียกว่า Virtual Credit Card หรือบัตรเครดิตเสมือนจริงคำว่าเสมือนจริงก็คือไม่มีตัวบัตรจริงๆ แต่มีผู้ถือบัตรที่สามารถทำธุรกรรมการเงินผ่าน เครื่องอ่านบัตร ไม่ว่าจะเป็นโอนเงิน ถอนเงิน หรือใช้จ่ายซื้อสินค้าบนออนไลน์ โดยสามารถสร้างบัตรของตัวเองที่เป็น Virtual Credit Card ได้ 1 ใบ เป็นโมเดลที่มีการให้บริการในต่างประเทศมานานแล้ว

“ที่น่าสนใจขณะนี้ไม่ใช่เรื่องของการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น ปีที่แล้วในวงการธุรกิจการเงินและบัตรเครดิตมี การพูดถึงเรื่องของ อี-วอลเล็ต (e-Wallet) อย่างกว้างขวางมากขึ้นในต่างประเทศ ขณะนี้ ไปไกลถึงขนาดที่เงินในกระเป๋าเงินส่วนใหญ่ถูกโอนย้ายเข้าไปอยู่ในกระเป๋า เงิน ดิจิตอล หรือดิจิตอล วอลเล็ต (Digital Wallet) ที่เรา สามารถจะบริหารจัดการกระเป๋าเงินใบใหม่ในระบบออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม”

ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารเคที ซี ยังบอกด้วยว่า กระเป๋าเงินดิจิตอล ที่ว่านี้ มีการพัฒนามาจากการเปิดตัวของ แอปเปิล เปย์ (Apple Pay) เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดกระแสสั่นสะเทือนวงการเงินในโลกดิจิตอลไม่น้อย อาจถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกของการบุกเบิกเรื่อง ดิจิตอล วอลเล็ต หรือกระเป๋าเงินดิจิตอลก็ว่าได้ และแอปเปิลเองก็เตรียมพร้อมที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ด้วยโมเดลที่คล้ายกับในสหรัฐอเมริกา ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทั้งบริษัทบัตรเครดิตและผู้ที่ถือบัตรเครดิตต้องเตรียมพร้อม

“ผมมองว่าการพัฒนาของ อี-วอลเล็ต (e-Wallet) ที่จะกลายเป็นการใช้จ่ายรูปแบบใหม่ เมื่อนำมาผสมผสานกับบัตรเครดิต อนาคตเราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพกบัตรเครดิตหรือกลัวการปลอมแปลง แฮ็กข้อมูลในบัตรเครดิต หรืออะไรที่เป็นการโจรกรรมข้อมูลในบัตรเครดิตอีกต่อไป” ธีรยุทธ์บอก พร้อมกับอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นอีกว่า ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ว่านั้น ก็เพราะบัตรเครดิตจะย้ายมาอยู่บนโมบาย และโมบายกลายเป็นบัตรเครดิตที่สามารถไปแตะกับ เครื่องรูดบัตร ที่รับชำระบัตรเครดิตเพื่อชำระเงินได้ อันนี้เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจมาก

ผู้ ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารเคทีซี ยังบอกด้วยว่า แต่ระบบว่านี้ยังไม่แพร่หลายมากนักในเมืองไทย เนื่องจากร้านค้าต่างๆยังไม่มีเครื่องอ่านที่รองรับการใช้งานผ่านแพล็ตฟอร์ม นี้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นเทรนด์ที่มาเร็วมาก

นอกจากกระเป๋าเงินดิจิตอล (Digital Wallet) แล้ว ในอนาคตโลกการใช้จ่ายและการทำธุรกรรมทางการเงินของมนุษย์ออนไลน์จะก้าวไปสู่ ความเป็น ดิจิตอล เพอร์ส (Digital Purse) หรือ ดิจิตอล เพอร์เชส (Digital Purchases) ที่เป็นเสมือนการบริหารจัดการทาง การเงินบนดิจิตอล เมื่อถึงเวลานั้น ผู้บริโภคจะสามารถบริหารจัดการและทำธุรกรรมการเงินต่างๆทั้งโอนเงิน จ่ายเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการ ดูข้อมูลต่างๆด้านการเงินผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก

ฟังแล้วอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ อนาคตของมนุษย์ในโลกออนไลน์ จะไม่มีทั้งเงินสด บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต ฯลฯ มีแค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว...ก็เนรมิตทุกอย่างได้

Cr.ไทยรัฐ

"3G & 4G " สังคมก้มหน้า



"3G & 4G "  จุดเปลี่ยนสังคมก้มหน้า

สังคม เมืองและสังคมชนบท จุดเปลี่ยนจากเดิมไปสู่ โซเชียวบนมือถือหรือสังคมก้มหน้า ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ หรือเฉพาะจังหวัดใหญ่ ๆ อีกต่อไปที่การใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ในประเทศไทยต่างเห็นประโยชน์ของการใช้สมาร์ทดี ไวซ์ (Smart Device) หลากหลายรูปแบบ และมีความต้องการซื้อสูง ไม่ว่าจะเป็นไวไฟพกพา ( Pocket WiFi ) เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์เข้าถึงอินเทอร์เน็ต

ประมูล 3G & 4G จุดเปลี่ยน

โทรศัพท์ มือถือระบบ 3G 4G เกิดขึ้นในปี 2555 และ 2559 ตามลำดับทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เพราะราคาการใช้โมบายอินเทอร์เน็ตถูกลง ประกอบกับสมาร์ทดีไวซ์ (Smart Device)ขยับราคาลงมามาก จนในสิ้นปี 2556 ที่โครงข่ายครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ มีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือเพิ่มเป็น 93.1 ล้านเลขหมาย และมีผู้ใช้งาน 3G มากถึง 55.5 ล้านเลขหมาย

ล่าสุดในสิ้นปีที่ผ่านมา มีปัจจัยบวกเข้ามาทั้งจากราคาแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่ราคาเพียง 29 บาท/วัน และสมาร์ทดีไวซ์ (Smart Device) มีราคาเหลือ 1,000-2,000 บาท ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยไปไกลถึง 96 ล้านเลขหมาย และมีคนใช้งาน 3G มากกว่า 77 ล้านเลขหมาย และกำลังแข่งกันก้าวสู้ 4G ในอีกเร็ว ๆ นี้

สังคมก้มหน้าจาก ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดผู้ใช้ 3G และ 4G โตเร็ว คือเกิดการบอกต่อประโยชน์จากผู้ใช้คนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง ตัวอย่าง เช่น ลูกสอนแม่ให้ใช้ไลน์ (Line)เพื่อติดต่อสื่อสาร หรือใช้ยูทูบ (Youtube) รับสื่อบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ พอใช้จริงก็เกิดประโยชน์อย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายโทรศัพท์มือถือจากเดือนละ 500 บาท เหลือเพียง 200-300 บาท  เพราะพวกเขาเชื่อมต่อผ่าน ไวไฟพกพา (Pocket WiFi)ใช้ร่วมกันในบ้าน  เมือออกนอกบ้านก็มีไวไฟฟรีตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อใช้ไลน์ (Line)ในการโทรหากัน ส่วนเรื่องยูทูบ (Youtube)ก็ทำให้ดูหนังหรือฟังเพลงเมื่อไรก็ได้ จากเดิมที่ต้องเฝ้าดูรายการต่าง ๆผ่านโทรทัศน์เท่านั้น

พฤติกรรมภูธรสังคมก้มหน้า

"เอ็ม อินเตอร์แอคชั่น" ได้สำรวจผู้ที่ใช้สมาร์ทดีไวซ์น้อยกว่า 12 เดือน จำนวน 100 ตัวอย่าง ในภาคเหนือ, กลาง, ตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่าการใช้โมบายอินเทอร์เน็ตกระจายอยู่ในทุกระดับรายได้ โดยเหตุผลที่ขยับเข้ามาใช้งาน จากเครื่อข่ายมือถือ 3G ครอบคลุมพื้นที่ สามารถรับข่าวสารได้รวดเร็วกว่าสื่อปกติ

แม้นไม่มีโทรศัพท์บ้านก็สามารถใช้ระบบ 3G และ 4G รองรับการเชื่อมต่อผ่าน ไวไฟพกพา (Pocket WiFi) ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นการกดติดตามแฟนเพจบนเฟซบุ๊ก (Facebook), สามารถติดต่อสื่อสารกับคนในครอบครัวผ่านไลน์ (Line) โซเซียลมีเดียอื่น ๆ และประยุกต์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กกับลักษณะงาน เช่น สร้างกลุ่มเพื่อติดต่อระหว่างคนในองค์กร

เมื่อเจาะไปที่การค้าขาย สินค้าผู้ใช้ในเฟซบุ๊ก (Facebook),อินสตาแกรม (Instagram) และไลน์ (Line)ในการซื้อขายสินค้า ใช้ตู้เอทีเอ็มเป็นช่องทางชำระผ่านการโอนเงิน ตั้งแต่ราคาสินค้า 500-2,000 บาทเท่านั้น ไม่มีการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ  หรือไลน์ (Line)ช็อปเหมือนในหัวเมืองใหญ่ เพราะยังมองว่าขั้นตอนในการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซค่อนข้างยุ่งยาก และการพูดคุยกับผู้ขายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก่อนโอนเงินจากบัญชีธนาคารผ่านเอทีเอ็มนั้นง่าย และสะดวกมากกว่า แล้วการรับสินค้าง่ายดายจาก EMS ส่งตรงถึงบ้าน

ฟรีไวไฟ (Free WiFi) จุดพลุโมบายเน็ต

เมื่อ ผู้บริโภคใช้ชีวิตอยู่บนหน้าจอเกือบตลอดเวลา สังคมก้มหน้าทำให้สื่อดั้งเดิมเช่น หนังสือพิมพ์ และคลื่นวิทยุ แทบไม่มีการใช้งานในต่างจังหวัด เพราะสามารถเสพสื่อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เร็วกว่าสื่อเดิม รวมถึงฟังเพลงผ่านยูทูบ (Youtube)แบบไม่มีโฆษณา และมีเสียง ดีเจ.คั่นเหมือนในวิทยุ ทำให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่ยากขึ้น ที่สำคัญการขยายตัวของ "ฟรีไวไฟ (Free WiFi)" ตามร้านอาหารและร้านตัดผม ทำให้ผู้ใช้ในต่างจังหวัดใช้สมาร์ทดีไวซ์เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์เหล่านี้ได้ เช่นกัน ซึ่งร้านค้าเหล่านี้ก็อาศัย "ฟรีไวไฟ (Free WiFi)" ปล่อยสัญญาณไวไฟผ่านไวไฟพกพา (Pocket WiFi) เป็นตัวดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในร้าน

คนในต่างจังหวัดมองเรื่อง ค่าใช้จ่ายต้องมาก่อนดังนั้นอะไรที่ฟรีพวกเขาก็จะมองก่อน ซึ่งเมื่อเทียบความคุ้มค่าระหว่างสมาร์ทโฟนราคาหลักพันกับโทรทัศน์ และวิทยุที่รวมราคาก็พอ ๆ กัน เขาก็เลือกสมาร์ทโฟนก่อน เพราะซื้อครั้งเดียวทำได้ทุกอย่าง  ทำให้คนต่างจังหวัดอ่านหนังสือพิมพ์น้อยลง และแทบไม่ฟังวิทยุ ส่วนบริการที่กำลังบูมคือเรื่องดิจิทัลต่าง ๆ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งจึงมีความสำคัญมากขึ้น


Cr.ประชาชาติธุรกิจ