ไอเดียเจ๋งของเครื่องวัดขนาดเท้าและตรวจสุขภาพเท้า นวัตกรรมใหม่เครื่องมือดิจิตอลบนไอแพค (ipad) กลายเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลมากประโยชน์ แถมสามารถเผยถึงสุขภาพของเจ้าของขนาดเท้าได้ด้วย
การพัฒนาแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นเครื่องมือดิจิตอลที่มากประโยชน์ เป็นเสมือนเครื่องมือวัดขนาด (ไมโครมิเตอร์) บนไอแพค (Ipad) ผลงานการคิดค้นของบริษัทคลาร์กส์ (Clarks) ด้วยการออกแบบให้เครื่องวัดขนาดเท้ามา พร้อมแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ติดตั้งไว้ที่ด้านบน และในการวัดขนาดเท้า จะส่งผ่านข้อมูลที่แม่นยำมาแสดงบนบนหน้าจอทัชสกรีนให้ได้เห็นกันชัดๆ
การพัฒนาดังกล่าวมาจากไอเดียของผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรม คริส ทาวน์ส (Chris Towns) หลังจากเปิดตัวของ ไอแพด (iPad)เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา โดยเขาคิดถึงการนำ ไอแพค (Ipad) มาใช้กับธุรกิจของบริษัท และในที่สุดก็ปรากฏเป็นอุปกรณ์ดังกล่าว แต่กว่าจะเป็นดังที่เห็นทุกวันนี้ เขาเล่าว่า ได้รับความช่วยเหลือจากทีมพัฒนาโปรดักต์ และนักพัฒนาแอปอย่างมากด้วย และในปีที่ผ่านมา บริษัทคลาร์กส์ได้เปิดตัวระบบเครื่องวัดขนาดเท้าที่ทางบริษัทได้จดสิทธิบัตรเรียบร้อยในที่สุด
ระบบของคลาร์กส์คือ การผนวกเครื่องวัดขนาด (Micrometer) มาประยุกต์ใช้กับเครื่องวัดขนาดเท้าแบบ ดั้งเดิมเข้ากับแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์นั่นเอง เด็กๆ ยังต้องขึ้นไปยืนบนเครื่อง และดึงแถบวัดขนาดเท้ามาชิดหัวนิ้วโป้ง แต่ผลของวัดจะปรากฏบนหน้าจอทัชสกรีนของแท็บเล็ต และแน่นอนว่า วัดได้ละเอียดกว่าการวัดด้วยสายตามนุษย์
สิ่งที่ทีมงานพัฒนาขึ้นอีกอย่างหนึ่งคือ Digitape ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับรอยเท้าพลาสติกสำหรับวัดความกว้างของเท้า ผู้ต้องการวัดเพียงเหยียบลงไปบนพลาสติกดังกล่าว และข้อมูลจากการวัดเท้าจะส่งผ่านบลูทูธ (Bluetooth)ไปยังไอแพด (iPad) เช่นกันเป็นนวัตกรรมไอเดียเจ๋ง
ระบบเครื่องวัดขนาดเท้าด้วยไอแพด (iPad)นี้ ได้รับรางวัลจากหลายแห่ง และได้รับการยกย่องว่าเป็นอุปกรณ์ที่ประสบความสำเร็จในแง่สามารถดึงดูดความ สนใจจากเด็กๆ ได้ดีด้วย สำหรับเด็กๆ ยังมีระบบให้ความบันเทิงด้วยตัวการ์ตูนปรากฏบนหน้าจอ ที่คอยบอกให้เด็กๆ ทำตามขั้นตอนด้วย
แน่นอนว่า เครื่องวัดขนาดเท้าดิจิตอลแบบพกพารุ่นใหม่นี้แตกต่างจากเครื่องวัดขนาดเท้าดิจิตอล แบบเก่าอย่างมาก ทั้งในแง่การออกแบบ ขนาดที่เล็ก พกพาสะดวก และระบบการทำงานที่ใช้งานง่ายกว่า และที่สำคัญที่สุดคือ บริษัทคลาร์กส์ระบุว่า สามารถวัดได้แม่นยำมากกว่า
นอกจากนั้น ความสามารถในการเก็บข้อมูล รวมถึงส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วของระบบนี้ ทำให้บริษัทคลาร์กส์ตัดสินใจลงทุนนับล้านปอนด์เพื่อนำระบบดังกล่าวไปติดตั้ง ตามร้านทั่วโลก เพื่อให้บริษัทสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
อย่างไรก็ดี มีผู้เชี่ยวชาญอย่าง Laura West จาก The Society of Shoe Fitters ออกมาให้ความเห็นว่า แม้แนวคิดเครื่องวัดขนาดเท้าไอแพด (iPad)นี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่มนุษย์ก็ไม่ควรเชื่อมั่น และฝากทุกอย่างไว้กับเทคโนโลยีมากเกินไป พร้อมระบุว่า ประโยชน์ที่ได้จากอุปกรณ์นี้คือ มันสามารถเก็บข้อมูลขนาดเท้าของลูกค้า ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนได้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีอีกประการหนึ่งของระบบดังกล่าวคือ การช่วยลดต้นทุนของบริษัทในการทำสำรวจขนาดเท้าของเด็กๆ ไปโดยปริยาย โดย Scott Godley ผู้จัดการโครงการซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากต่อโปรเจกต์ไอแพด (iPad)นี้ เผยว่า ในอดีตทุกๆ สิบปี บริษัทจะมีการสำรวจขนาดเท้า ด้วยการส่งผู้เชี่ยวชาญออกตระเวนไปตามโรงเรียนต่างๆ และร้านขายรองเท้าทั่วอังกฤษ เพื่อขอวัดขนาดเท้าตัวอย่างกลับมาเก็บไว้ แต่ด้วยระบบดังกล่าวเขาจะมีข้อมูลขนาดเท้านับพันตัวอย่างส่งเข้ามาทุกวัน
การเก็บข้อมูลขนาดเท้าเด็กๆ เอาไว้จำนวนมากมีผลในแง่ธุรกิจคือ ทำให้บริษัทควบคุมสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น “เราสะสมข้อมูลของเท้าเด็กๆ และการเจริญเติบโตของพวกเขา ซึ่งทำให้เราสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสินค้าของเราให้ดียิ่งขึ้น” มร.Godley กล่าว
ไม่เพียงเท่านั้น ในอนาคตยังอาจนำข้อมูลเรื่องเท้าไปผนวกเข้ากับข้อมูลทางสุขภาพด้วย โดยมีการพบว่า ขนาดของเท้ามีส่วนเกี่ยวพันกับภาวะน้ำหนักเกินอย่างมากนั่นเอง “ขนาดของเท้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะน้ำหนักเกินในเด็กมาก และเราพบว่า เด็กๆ ในปัจจุบันต้องใช้รองเท้าที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ” ลอร์รา เวสต์ กล่าว
ด้าน Matthew Fitzpatrick คณบดีของ College of Podiatry แสดงความเห็นด้วยต่อการเก็บข้อมูลดังกล่าว อีกทั้งทีมจากบริษัทคลาร์กส์ยืนยันว่า ผลการศึกษาในอดีตแสดงให้เห็นว่าตรวจสุขภาพเท้ามีความเกี่ยวข้องกันระหว่าง ขนาดของเท้ากับสุขภาพ
“ไลฟ์สไตล์ และโภชนาการของคนคนหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย และเท้า และจะส่งผลต่อขนาดความกว้าง และยาวของเท้าด้วย” นี่จึงอาจไม่ใช่โปรเจกต์สร้างความบันเทิงเล็กๆ สำหรับเด็กๆ ที่มาซื้อรองเท้า หากแต่เป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำนายได้ถึงสุขภาพของคนคนหนึ่งตลอด อายุขัยเลยทีเดียว
Cr.ผู้จัดการ, Asia21st
