เมื่ออุปกรณ์ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตได้แล้ว (IoT : Internet of Things)คอมพิวเตอร์เองก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่อีกต่อไป เพราะด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เมื่อหน่วยประมวลผลมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ขนาดเล็กลง กินไฟน้อยลง ก็ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตพีซีขนาดจิ๋วออกมาได้
อิน เทล ในฐานะของผู้ผลิตซีพียู ก็เล็งเห็นถึงโอกาสดังกล่าวในการทำ Intel Compute Stick หรือคอมพ์จิ๋วออกมา เพื่อเป็นต้นแบบให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่นได้เห็น และร่วมกันผลิตออกมาจำหน่ายในท้องตลาด เหมือนเช่นตอนที่อินเทลทำ Intel NUC (Next Unit of Computing) ออกมา และผู้ผลิตรายอื่นก็เริ่มทำตาม
ก่อนอื่นต้องมองว่าคอมพ์จิ๋ว Intel Compute Stick ถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่จะมาเปลี่ยนจอโทรทัศน์ให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์เครื่อง หนึ่งแทนที่จะมองว่า เป็นพีซีประสิทธิภาพสูง เพราะด้วยสเปกของตัวเครื่องที่ให้มา ที่ต้องการเน้นประหยัดพลังงานด้วย ทำให้มีข้อจำกัดในการใช้งานค่อนข้างเยอะ
ดังนั้นในการใช้งาน นอกจากต้องมีจอโทรทัศน์แล้ว ยังต้องมองหา USB HUB ไว้สำหรับต่อเมาส์ คีย์บอร์ด รวมไปถึงช่องเสียบแฮนดี้ไดร์ฟ หรือฮาร์ดดิสก์พกพาด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือจะไปเลือกใช้งานคู่กับคีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สายผ่านบลูทูธแทนก็ได้
ในแง่ของการเชื่อมต่อ ด้วยการที่เครื่องมีการใส่ตัวรับสัญญาณไวเลสมาให้อยู่แล้ว เชื่อมต่อกับ ไวไฟ ฮอตพอต หรือ ตัวรับสัญญาณ WiFi แล้วแต่สะดวก ถือว่าพร้อมให้ใช้งาน ถ้ามองง่ายๆ ต่อกับจอโทรทัศน์เปิดดูซีรีส์ผ่านอินเทอร์เน็ต เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์กนิดหน่อย ก็ถือว่าเหมาะกับการซื้อไปติดตั้งใช้งานก็จะเหมาะกับผู้บริโภคทั่วไป
จุดเด่นหลักของคอมพ์จิ๋ว Intel Compute Stick ก็คือเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับจอภาพ หรือโทรทัศน์ ที่มีพอร์ต HDMI และแสดงผลออกมาเป็น Windows 8.1 with Bing ให้ใช้งานได้ทันที โดยสามารถต่อพ่วงกับไฟจากตัวจอ และเชื่อมเมาส์ คีย์บอร์ด เพื่อใช้งานได้ทันที
ด้วยการที่อินเทลต้องการออกแบบให้ตัวคอมพ์จิ๋ว Intel Stick มีขนาดเล็ก เหมาะกับการนำไปต่อกับจอโทรทัศน์ หรือ จอภาพต่างๆได้ทุกที่ ทุกเวลา ทำให้การออกแบบออกมามีลักษณะเหมือนแฮนดี้ไดร์ฟ หรือแอร์การ์ดทั่วๆไป ทำให้มีขนาดอยู่ที่ 103.4 x 37.6 x 12.5 มิลลิเมตร โดยมีพอร์ตหลักเป็น HDMI 1.4a ไว้ต่อกับจอภาพ หรือ โทรทัศน์ ถัดมาก็จะมีช่องเสียบยูเอสบี (USB) 1 พอร์ต และช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด (MicroSD Card)
การใช้งานจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับพลังงานไฟฟ้า ด้วยการที่อินเทลใส่พอร์ตไมโครยูเอสบี (MicroUSB)มาให้ ทำให้สามารถนำสายยูเอสบี(USB)มาเชื่อมต่อได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการนำไฟจากจอ หรือจากอแดปเตอร์ก็ได้เช่นเดียวกัน การใช้งานกรณีที่เชื่อมต่อกับโทรทัศน์ เมื่อเปิดโทรทัศน์ตัว Compute Stick ก็จะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพราะมีไฟเข้า แต่ถ้าไม่ติดก็สามารถกดปุ่มเปิดเครื่องได้เช่นเดียวกัน
กรณีที่หลัง ทีวีไม่มีพื้นที่เพียงพอก็สามารถต่อกับสายเชื่อม HDMI ได้ เช่นเดียวกับอะแดปเตอร์ชาร์จที่แถมมา ถ้าตัวจอภาพไม่มีพอร์ตยูเอสบี(USB)ให้เชื่อมต่อ
สำหรับระบบปฏิบัติ การที่ติดตั้งมาให้ใน Compute Stick คือ Windows 8.1 with Bing 32 bit โดยมีสเปกภายในเป็น Intel Atom Z3735F QuadCore 1.3 GHz RAM DDR3 2 GB ROM 32 GB รองรับการเชื่อมต่อผ่านไวไฟ 802.11 b/g/n และบลูทูธ 4.0 สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับไวไฟ ฮอตพอต หรือ USB WiFi
ด้วยคอนเซปต์ของอินเทล ที่ออกคอมพ์จิ๋ว Intel Compute Stick มาเป็นอุปกรณ์เพื่อเชื่อมต่อกับจอภาพให้กลายเป็นจอแสดงผลคอมพิวเตอร์เครื่อง หนึ่ง โดยไม่จำกัดว่าการใช้งานต้องใช้แค่ภายในบ้าน แต่ยังสามารถนำไปใช้กับภายนอก รวมถึงไปองค์กรได้ด้วย
โดยคอนเซปต์หลักที่อินเทลวางไว้ก็คือ การนำคอมพ์จิ๋ว Intel Compute Stick ไปเชื่อมต่อกับจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่เพื่อใช้ภายในบ้านให้กลายเป็นโฮมเอนเตอร์ เทนเมนต์ ถัดมาก็คือการนำไปใช้กับจอแสดงผลภายนอก อย่างจอโฆษณา หรือบิลบอร์ดต่างๆ
รวมไปถึงการนำมาใช้ในองค์กร ให้กลายเป็น Thin Client เพราะตัว Compute Stick สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อนำมาใช้ในการทำงานที่ไม่ได้ต้องการ คอมพิวเตอร์สเปกสูงมากนัก ซึ่งถ้ามองโดยรวมก็จะช่วยประหยัดทั้งในแง่ของพื้นที่ และพลังงาน
เบื้องต้นคอมพ์จิ๋ว Intel Compute Stick จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 ระบบปฏิบัติการคือ วินโดวส์ 8.1 ที่มาพร้อมบิงก์ (Windows 8.1 with Bing) และระบบลินุกซ์อย่าง อูบุนตู (Ubintu) เพียงแต่ที่นำมาจำหน่ายตามช่องทางต่างๆจะเป็นรุ่นของวินโดวส์เป็นหลัก เพราะถือว่าใช้งานได้ง่าย
ขณะที่ในแง่ของการใช้งาน Intel Compute Stick จะเหมาะกับการใช้งานทั่วๆไป อย่างเล่นอินเทอร์เน็ต ดูหนังได้ถึงความละเอียด 1080p ฟังเพลง หรือใช้งานพวก Microsoft Office แต่ไม่เหมาะนำไปใช้กับการทำภาพความละเอียดสูง ตัดต่อวิดีโอ หรือแม้กระทั่งเล่นเกมที่สเปกสูงๆ เพราะด้วยประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานแบบนั้น
Cr.ผู้จัดการ , เล่าสู่กันฟัง , Asia21st