พนักงาน Gen Y-X" เลือกไม่ยึดติด "เวลา-สถานที่"
ใน การเชื่อมต่อของบุคลากรรุ่นใหม่กว่าครึ่งของ Gen X (95%) และ Gen Y(72%) ต้องการเป็นงานอิสระจากตารางเวลาทำงาน 9 โมงเช้า-5 โมงเย็น และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (54%) ระบุว่า บริษัทอนุญาตให้ทำงานจากบ้าน และ 44% ของบุคลากร Gen Xและ 56% ของ Gen Y ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งจากที่บ้านและออฟฟิศ อีกทั้ง 87% ของ Gen X เชื่อว่าองค์กรที่ปรับใช้รูปแบบการทำงานนอกสถานที่ผ่านอุปกรณ์พกพาอย่าง ยืดหยุ่น มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันเหนือกว่าคู่แข่งที่ให้พนักงานทำงานในออฟฟิศ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น
คนทำงานเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ (GenerationX) และวาย (Generation Y) หรือมิลเลนเนียล (Millennial) ต้องการสไตล์การทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น จากรายงาน Cisco Connected World Technology Report (CCWTR) ประจำปี 2557 ระบุว่า ภายในปี 2563 คนทำงาน Gen X และ Y ส่วนใหญ่เชื่อว่าสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Device) จะกลายเป็นอุปกรณ์ "เชื่อมต่อ" ที่สำคัญที่สุด ขณะที่ "แล็ปทอป" เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับสถานที่ทำงาน
รายงาน CCWTR แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เทคโนโลยีจะส่งผลต่อรูปแบบการทำงานในอนาคต อุปกรณ์ แอปพลิเคชั่น และโซลูชั่นที่คนเหล่านี้ชื่นชอบจะรองรับการทำงานในรูปแบบใหม่อย่างไรบ้าง รวมถึงการเกิดใหม่ของสุดยอดคนทำงาน (Supertasker) ซึ่งใช้อุปกรณ์ 4 เครื่อง และทัศนคติที่เปลี่ยนไปของคนทำงาน และองค์กรที่มีต่อการทำงานจากที่ใดก็ได้
44% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลรู้สึกมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานจากออฟฟิศ เข้าออกที่ทำงานได้อย่างอิสระผ่านระบบ กลอนประตูไฟฟ้า ด้วยรหัสพนักงาน, การใช้แอปพลิเคชั่น และการรับสมัครบุคลากรทั่วโลก (50% ของผู้จัดการฝ่ายบุคคลจ้างคนทำงานจากการสัมภาษณ์ทางวิดีโอเท่านั้น)
สำหรับในประเทศไทย พนักงาน Gen Y พนักงาน Gen X, และฝ่าย HR สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการทำงานของคนไทย รวมถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานในปัจจุบันและ อนาคต ผลกระทบของดีไวซ์ต่าง ๆ แอป และโซลูชั่นที่ใช้ต่อรูปแบบใหม่ในการทำงาน รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์อัจฉริยะ และการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ ๆ
ผลการสำรวจระบุด้วยว่า บุคลากรของไทยมองว่า "สมาร์ทโฟน" คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกล่าวคือ 100% เลือกสมาร์ทโฟนเมื่อจำเป็นต้องเลือกเพียงอุปกรณ์เดียวสำหรับทำงานและใช้ ชีวิตส่วนตัว สอดคล้องกับข้อมูลจากรายงาน CCWTR ซึ่งระบุว่า พนักงาน Gen X และ พนักงาน Gen Y
เชื่อว่าสมาร์ทโฟนคือ อุปกรณ์เชื่อมต่อที่สำคัญที่สุดสำหรับบุคลากรในปี 2563
รายงานดังกล่าวนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลกระทบที่อุปกรณ์ อัจฉริยะ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ (Wearables) ที่มีผลต่อระบบไอทีและผู้กำหนดกลยุทธ์ด้านไอที โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วย กัน (Internet of Everything : IoE)ซึ่งจะสร้างการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ ทั้งเปลี่ยนแปลงการติดต่อสื่อสารสำหรับคนทำงานรุ่นอนาคต
ปีก่อนหน้ารายงาน CCWTR แสดงถึงทัศนคติ ความคาดหวัง และพฤติกรรมของคนทำงานรุ่นอนาคตประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และปีนี้เพิ่มข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบุคลากร พนักงาน Gen X และฝ่ายบุคคล (HR) รวมถึงทัศนคติที่มีต่อความสามารถในการเชื่อมต่อ
ความคิดเห็นเกี่ยวกับความพร้อมใช้งานของระบบสื่อสารที่ใช้ในการทำ งาน(24ชั่วโมง 7 วัน) รวมถึงประเด็นที่ว่าความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลอย่างไรต่อนโยบายด้านไอ ที(IT) การรักษาความปลอดภัยขององค์กร การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ ความสามารถด้านการแข่งขันของธุรกิจ โดยสำรวจความคิดเห็นของบุคลากร อายุ 18-50 ปีใน 15 ประเทศ จัดหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาท้าทายในปัจจุบันที่บริษัทต่าง ๆ ต้องเผชิญ ในขณะที่พยายามรักษาสมดุลระหว่างความต้องการของพนักงานและองค์กรธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต
พนักงานยุคใหม่
"Supertasker" หรือ "พนักงานที่ทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน และทำได้ดี" เป็นพนักงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในอนาคตหรือไม่ ?
กว่า 4 ใน 10 ของ พนักงาน Gen X และ พนักงาน Gen Y รวมถึงเกือบ 6 ใน 10 ของพนักงานฝ่าย HR มองว่าตนเองเป็น "Supertasker"
ราว ครึ่งหนึ่งเชื่อว่า การทำงานแบบ Supertasking ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และในทำนองเดียวกันฝ่าย HR (62%) เชื่อว่า Supertasker ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กรโดยรวม เกือบ 2 ใน 3 เชื่อว่าในปี 2563 การทำงานแบบ Supertasking เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับองค์กร
ส่วนใหญ่ระบุว่า ตนเองกำลังเรียนรู้ที่จะเป็น Supertasker ด้วยการจัดการชีวิตส่วนตัว และส่วนใหญ่มักผสมผสานกิจกรรมเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะใน พนักงาน Gen X (70%)
พนักงาน Gen X เทียบ พนักงาน Gen Y
4 ใน 10 คนเชื่อว่า พนักงาน Gen Y มีประสิทธิภาพในการทำงานแบบ Supertasking มากที่สุดเมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่น ๆ
60% ของ Gen X และ 81% ของฝ่าย HR เชื่อว่า พนักงาน Gen Y ทำงานได้รวดเร็วกว่าพนักงานรุ่นเก่า ด้วยการใช้อุปกรณ์พกพาและโมบายแอป ทั้งฝ่าย HR ราว 7 ใน 10 คน คิดว่าพนักงานรุ่น Gen Y ทำงานได้เร็วกว่า หากได้รับอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์พกพาและโมบายแอปแทนเดสก์ทอป แล็ปทอป หรือโน้ตบุ๊ก
อนาคตฝ่าย HR
ฝ่าย HR เกือบ 6 ใน 10 (58%) เต็มใจว่าจ้างผู้สมัครโดยเพียงแค่สัมภาษณ์ผู้สมัครผ่านการประชุมด้วยวิดีโอ (โดยไม่ต้องดำเนินการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว) เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล พนักงาน 50% เชื่อว่า ผู้จัดการฝ่ายบุคคลมีทัศนคติเปิดกว้างต่อการว่าจ้างพนักงาน โดยไม่ต้องมีการสัมภาษณ์เป็นการส่วนตัว พนักงานกว่าครึ่งหนึ่ง (Gen X-Y) คิดว่า ตนพร้อมทำงานทุกวัน 24 ชั่วโมง 3 ใน 10 คนติดต่อได้ทางอีเมล์และโทรศัพท์
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่คิดว่าเวลาทำงานน่าจะเป็น 7 โมงเช้าถึง 8 โมง และ 9 โมงถึงเที่ยง ต่อด้วยบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น และ 3 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม ตารางเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดย 1 ใน 4 ของพนักงาน Gen X Gen Y ระบุว่า องค์กรของตนอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้านได้
ที่น่าสนใจคือ พนักงาน Gen Y ที่มีโอกาสทำงานนอกสถานที่มีแนวโน้มที่จะชอบทำงานที่ออฟฟิศมากกว่าพนักงาน Gen X
ข้าวกลางวันตอนบ่าย 3 เรื่องปกติ
พนักงาน Gen X & Y ชอบตารางเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น และยินดีทำงานนอกเวลาปกติเพื่อแลกเปลี่ยน โดยบุคลากรมีความเห็นแตกต่างกันอย่างครึ่ง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับวันทำงานปกติของพนักงานทั่วไป โดยเกือบครึ่งระบุว่าต้องการอิสระในการทำงาน และเล่นสนุกได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่มีข้อจำกัด (เทียบกับเวลาทำงานตามปกติ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น จันทร์ถึงศุกร์)
พนักงาน Gen X ส่วนใหญ่เชื่อว่า พนักงาน Gen Y ชื่นชอบ เวลาทำงานที่ยืดหยุ่นมากกว่า แต่ Gen Y มีแนวโน้มที่จะชอบเวลาทำงานปกติแบบเดิมมากกว่า (54%)
บุคลากร 1 ใน 4 ได้รับการว่าจ้างโดยองค์กรที่อนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน โดยมีเพียง 28% ของ Gen Y, 19% ของ Gen X และ 6% ของพนักงานฝ่าย HR เท่านั้นที่ชอบทำงานในออฟฟิศมากกว่าที่บ้าน
พนักงาน Gen Y ส่วนใหญ่ (44%) ระบุว่า ตนเองมีสมาธิและประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำงานในออฟฟิศ และอิสระในการเข้าออกออฟฟิศอัตโนมัสผ่านระบบ Digital Door Lock ด้วยการใช้รหัสพนักงาน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ พนักงาน Gen X (38%) ระบุว่า ตนเองมีสมาธิและประสิทธิภาพเท่ากันทั้งที่บ้านและในออฟฟิศ และความปลอดภัยก็น่าพอ ๆ กัน
ความยืดหยุ่นเป็นแม่เหล็ก
"ความยืดหยุ่นในเวลาการทำงาน" คือ เครื่องมือดึงดูดบุคลากร 2 ใน 3 เชื่อว่าองค์กรที่ปรับใช้รูปแบบการทำงานนอกสถานที่ที่ยืดหยุ่น มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันมากกว่าองค์กรที่กำหนดให้พนักงานประจำอยู่ใน ออฟฟิศตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์
ครึ่งหนึ่งของ พนักงาน Gen X และ พนักงาน Y รู้สึกว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคลกำลังปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับสไตล์การทำงานแบบโม บายที่ยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับพนักงานแต่เกือบ1 ใน 3 รู้สึกว่าการปรับเปลี่ยนยังไม่เร็วพอ
มุมมองของฝ่าย HR 56% ระบุว่าได้ปรับใช้หรือมีแผนปรับใช้สไตล์การทำงานแบบโมบายยืดหยุ่นมากขึ้น
โดยรวมแล้วพนักงานไม่เต็มใจที่จะยอมลดเงินเดือนเพื่อแลกกับการทำงาน ที่ยืดหยุ่นมากขึ้นแต่พนักงานฝ่ายHR เต็มใจทำเรื่องนี้มากที่สุด โดย 4 ใน 10 ระบุว่าตนเองยอมรับการปรับลดเงินเดือน ในทำนองเดียวกัน ฝ่าย HR เต็มใจที่จะยอมรับการลดเงินเดือนมากที่สุด โดย 56% ยอมปรับลดเงินเดือนมากกว่า 10% (เทียบกับ 35% ของ Gen Y และ 34% ของ Gen X)
แม้เงินเดือนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ความยืดหยุ่นในการกำหนดตารางเวลาของตนเอง หรือความสามารถในการทำงานนอกสถานที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับ พนักงาน Gen X และ พนักงาน Gen Y ราว 1 ใน 5 คน รวมถึงฝ่าย HR ราว 1 ใน 3 คน
Cr.ประชาชาติธุรกิจ