สอนวิธีจีบหญิง ให้อยู่หมัด |
ผู้ชาย “โสด”ในจีนถือเป็นอะไรที่ยากลำบากในการหาคู่ครอง ยิ่งกว่าสาวขึ้นคานในไทย ไม่ใช่แค่พวกเขาจะต้องดิ้นรนกับความไม่เท่าเทียมกันระหว่างจำนวนชาย 118ต่อหญิง110 เท่านั้น แต่อาตี๋ทั้งหลายจะต้องเผชิญกับความกดดันของสังคมให้ต้องหล่อ มีบ้านและดูสุขุมนุ่มลึกอีกด้วย
แต่นั่นยังไม่ใช่ส่วนที่ยากที่สุด ส่วนที่ดูเหมือนจะทรมานมากสำหรับบางคนก็คือการเข้าหาสาว เพื่อชวนไปออกเดตด้วย ท่ามกลางการถูกกดดันจากที่บ้าน ผู้ชายจีนบางคนก็หลบเลี่ยงไม่ยอมออกไปจีบสาวสักที สุดท้ายต้องยอมรับชะตากรรมให้ที่บ้านจับคลุมถุงชน แต่งงานกับใครก็ได้ ตามประเพณีที่มีมาแต่ดั้งเดิม
เมื่อเหตุการณ์เข้าขั้นวิกฤตในการหาคู่เช่นนี้ อาตี๋ทั้งหลายเขาหาทางออกกันยังไง... เว็บไซต์หนังสือพิมพ์จีน “หนานฟาง” ให้ข้อมูลไว้ว่า ตี๋หลายพันคนตัดสินใจตบเท้าเข้าลงทะเบียนเรียนใน “โรงเรียนสอนจีบหญิง” (ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ) ทำให้ธุรกิจแนวนี้กำลังมีแนวโน้มที่สดใสขึ้นในจีน
ที่โรงเรียนสอนจีบหญิง อาตี๋จะได้รับการฝึกอบรมมารยาทที่ดีและความรู้อื่นๆที่จะเปลี่ยนจาก “ตาทึ่ม”ขึ้นคานไม่มีใครเอา ให้กลายเป็นหนุ่มดูดีที่มีชีวิตแต่งงานสมหวัง รายวิชาที่เปิดสอนและน่าสนใจลงเรียนก็ได้แก่ วิชาวินิจฉัยรัก วิชาหาแฟน วิชาสรรหาภรรยา/สามี วิชาพารักกลับมาและวิชาว่าด้วยการสร้างรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูดี ส่วนค่าเล่าเรียนต่อหลักสูตรก็เริ่มจากระดับหลายร้อยหยวนไปจนถึง 20,000 หยวน (715,400 บาท) แพงมาก!!!!
และวิชาหลักที่เรียนตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ก็จะอยู่ที่ 7,000 หยวน (250,390บาท) ต่อคอร์ส...หึหึ ถ้ามหาวิทยาลัยเปิดสอนวิชาพวกนี้ได้ ค่าเรียนคงไม่แพงขนาดนี้ ครูผู้สอนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะให้คำแนะนำแก่ลูกศิษย์แบบไม่กั๊ก
หนึ่งในนั้นคือ “ฟ่าน เฉิน” อธิบายว่า การจีบหญิง ไม่ใช่แค่หลับหูหลับตา ตามจีบเอาใจอย่างเดียว แต่ฝ่ายชายต้องทำตัวเองให้ดูดี มีมารยาท แล้วเดี๋ยวผู้หญิงที่เขาชอบ ก็จะหันมาชอบเขาด้วย ครูอีกคนหนึ่งซึ่งใช้นามแฝงว่า “วานเดอร์” ยังกล่าวได้ไว้ว่า พวกที่ออกตัว “ขอเป็นฝ่ายดูแลเธอ” ป้อนข้าว ป้อนยายามป่วยไข้ จะได้รับรางวัลจากสาวที่หมายปองให้อยู่ในโซน “เพื่อน”เท่านั้น
โซเชียลมีเดียสำคัญฝุดๆ
บทเรียนหนึ่งที่โรงเรียนให้ความสำคัญคือ “การใช้โซเชียลมีเดีย” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สาวๆประทับใจได้ และเพื่อที่จะให้ได้ผลตามที่คาดหวัง ครูจะบอกให้นักเรียนของพวกเขา ทำตัวดูยุ่งเข้าไว้บนโลกออนไลน์ ส่วนรูปโปรไฟล์ต้องเป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดในสามโลก (สำหรับเราเอง) ฉากหลังอาจจะเป็นอะไรที่ดูคลาสสิคและหรูหราได้ แต่ต้องไม่โกหก เพราะผู้หญิงมีญาณหยั่งรู้มากกว่าที่ผู้ชายคิดเสมอ พวกเธอจะตัดสินอาตี๋ทั้งหลายจากรายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้ ฟังดูเหมือนบ้าวัตถุ แต่ยอมรับเถอะว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
กลยุทธ์ “น้ำร้อน”
ส่วนมากโรงเรียนเหล่านี้จะไม่ค่อยเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรใน โรงเรียนสักเท่าใดเพราะเป็นเอกลักษณ์และความลับที่จะดึงดูดนักเรียน แต่ครูผู้ไม่ประสงค์ออกนามแอบเผยกับหนังสือพิมพ์ “ไชน่า ยูธ เดลี” ถึงกลเม็ดเล็กๆน้อยๆมัดใจสาว ด้วยกลยุทธ์ “น้ำร้อน”ว่า หากนักเรียนมีโอกาสเดินเข้าไปในไนท์คลับไฮโซสักแห่ง ให้ออกปากสั่งน้ำร้อนสองแก้วกับพนักงานเสิร์ฟทันทีเมื่อเท้าเหยียบก้าวข้าม ประตูมา จากนั้นให้มองหาสาวที่อยากคุยด้วย และเมื่อขณะกำลังคุยอยู่กับเธอ พนักงานก็จะเดินนำน้ำร้อนสองแก้วเข้ามาเสิร์ฟพอดี มันจะดูเหมือนกับว่า คุณเป็นลูกค้าไฮโซขาประจำ ที่ไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง พนักงานแค่เห็นคุณเข้ามาก็จะพินอบพิเทาเอาของที่ต้องการมาให้ทันที ก่อนจะออกไปจากคลับอย่าลืมเข้าไปพูดคุยกับพนักงานอย่างเป็นกันเองด้วย จะได้เนียนขึ้นไปอีกขั้น...หมวยนี่ อึ้งไปเลยครัช เขาสอนกันแบบนี้เลยนะ
สื่อท้องถิ่นบอกว่า ในหลักสูตรของโรงเรียนสอนจีบหญิงจะมีลูกเล่นแพรวพราวแบบนี้อยู่เยอะมาก เพื่อให้อาตี๋ขึ้นคานทั้งหลายได้พบรักเสียที อย่างไรก็ตาม คุณครูวานเดอร์ยังเล่าอีกว่า นักเรียนของเขามีเหตุผลที่เข้ามาเรียนที่โรงเรียนกันคนละแบบ
ร้อยละ 90 ของนักเรียนที่เข้ามาเรียน กลับไม่ใช่จุดประสงค์เพื่อการจีบหญิง แต่พวกเขาต้องการทักษะอย่างอื่นในชีวิตมากกว่า อาตี๋เหล่านี้อยากเรียนเทคนิคแพรวพราวนี่แหละ แต่ไม่ได้ต้องการจะเอาไปใช้เพื่อให้ใครเจ็บปวดแต่เขาเรียนเพื่อเอาไว้ปกป้อง ตัวเอง
ครูวานเดอร์ยังรู้ดีถึงบุคคลิกภาพนักเรียน ส่วนมากพวกเขาเป็นพวกที่ไม่ค่อยชอบตัวเองสักเท่าใด ส่วนใหญ่เป็นพวกพูดไม่ค่อยเก่ง ไม่รู้ความต้องการของตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย อะไรก็ตามที่ครูสอนไป คนพวกนี้จะตอบว่า “ได้ๆๆ” พร้อมกับพยักหน้างึกๆ....เอ่อ ครูคะ หมวยเล็กว่าบรรยากาศมันคุ้นๆ เหมือนห้องเรียนปกติที่ไทยเลย
นอกจากนี้ นักเรียนยังแต่งตัวไม่เป็นและไม่มีประสบการณ์การเข้าหาสาวมาก่อนด้วย แม้จะอายุปาเข้าไป 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังดูโง่งม รวมทั้งหน้าที่การงานก็ยังไม่มั่นคง และโชคร้ายที่นี่เป็นภาพสะท้อนสภาพของผู้ชายจีนส่วนใหญ่เสียด้วย ส่วนโชคดีคือ แม้จะมีข้อบกพร่องอยู่เยอะ แต่คนพวกนี้รู้ตัวเองและต้องการการเปลี่ยนแปลง เพราะการแข่งขันหาคู่และแรงกดดันจากสังคมที่สูงขึ้น ตามสถิติชี้ว่า ตี๋ที่เกิดในช่วง 20 ปีที่แล้ว จะมีสิทธิ์ขึ้นคานตลอดชีวิตในอัตราส่วน 1 ใน 6 แต่ปัจจุบันอัตรานี้ถูกปรับขึ้นเป็น 1 ใน 7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หมวยเล็กก็เพิ่งรู้ว่าที่จีนมีการเปิดโรงเรียนประเภทนี้กันอย่างเป็นล่ำเป็น สัน คงคล้ายๆกับโรงเรียนพัฒนาบุคคลิกภาพในบ้านเรา โรงเรียนพวกนี้จะสอนให้จีบหญิงโดยใช้กลเม็ดเด็ดพรายอะไรก็ทำกันไป แต่อย่าเอามาใช้หลอกลวงคนอื่นเป็นพอ หมวยเล็กรู้สึกว่า คนที่ไปเรียนคงไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ แต่ก็ยังน่าชื่นชมที่รู้ตัวและต้องการได้รับคำแนะนำเพื่อแก้ไข เพราะบางปัญหาเราไม่สามารถแก้มันได้ด้วยตนเอง จนกว่าจะมีคนอื่นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ขอให้เฮียทั้งหลายพบคู่ที่ถูกใจ สมหวังเร็วๆนะคะ.“
Cr.เดลินิวส์,เล่าสู่กันฟัง ,Synergy | Facebook ,