16 ส.ค. 2558

ไบค์ฟอร์มัม : จักรยานโบราณ


ไบค์ฟอร์มัม : จักรยานโบราณ
ไบค์ฟอร์มัม : จักรยานโบราณ

กิจกรรม “ไบค์ฟอร์มัม” “ผมอยากให้จัดทุกปีสามเดือนครั้งได้ยิ่งดีครับ” สมหวังบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างปีติ

ตลอดเส้นทางกว่า 43 กิโลเมตร วันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสมหวัง สอนฆ้อง และมิ่งมิตรคนรักจักรยานโบราณ พร้อมใจกันเข้าสมัครปั่นจักรยานด้วยความจงรักภักดี งานนี้นอกจากได้อวดปลีน่องแล้ว ยังอวดจักรยานโบราณที่หาดูได้ยากยิ่ง

ขณะที่นายจิรวัฒน์ ตันเจริญ หรือชัย อายุ 48 ปี เจ้าของร้านคนรักจักรยานโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสายน้ำผึ้ง หลังบิ๊กซีสะพานใหม่ หนึ่งในกลุ่มคนรักจักรยานโบราณบอกว่า ชอบรถจักรยานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรยานโบราณ เพราะดูคลาสสิกดี

ความเป็นมาของการ “เล่น” รถจักรยานโบราณ “แรกเลยผมซื้อจากเพื่อนมาคันหนึ่ง หลังได้แต่ง ได้ถีบเล่นก็ชอบ จึงสะสมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีมากขนาดตั้งเป็นร้านได้ ในร้านเรามีการแลกเปลี่ยนอุปกรณ์กัน แลกเปลี่ยนซื้อขายบ้าง และที่สำคัญเราเปิดซ่อมจักรยานเก่าๆ ใครที่มีจักรยานเก่าแล้วต้องการซ่อมเอามาได้เลย เราทำให้สมบูรณ์ได้ทุกคัน”

มองเข้าไปในร้านรวง คืบก็รถจักรยาน ศอกก็รถจักรยาน เอาเฉพาะที่เป็นคันสมบูรณ์นั้นมีกว่า 100 คัน แต่ละคันหาดูได้ยากแล้ว เพราะเป็นรถประเภทเก่าเก็บ เมื่อถามถึงราคา เจ้าของร้านบอกว่า เริ่มต้นที่คันละ 5,000 เรื่อยไปจนถึง 50,000 บาท

ร้านของจิรวัฒน์ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนอุปกรณ์รถจักรยานโบราณ และเป็นแหล่งนัดพบของคนคอเดียวกัน เนื่องจากเจ้าของมีงานประจำทำอยู่แล้ว จึงเปิดร้านเพื่อรับซ่อมและพบปะเพีื่อนฝูงตั้งแต่เวลา 16.00 น. เรื่อยไปจนถึงประมาณ 22.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะเปิดตั้งแต่เช้าจดเย็น

“เย็นๆ ผมจะออกไปขี่เล่นเพื่อออกกำลังกาย วันหนึ่งก็ประมาณ 30-40 นาที ผมปั่นไปไม่ไกลร้าน”
เมื่อถามถึงการซื้อรถจักรยานเก่า ได้รับคำตอบว่าไม่เปิดรับซื้อที่ร้านเด็ดขาด แต่จะออกไปหาซื้อเอง เหตุผลคือกลัวมีคนขโมยรถมาขาย แม้จักรยานไม่มีทะเบียน แต่ถ้ามีคนขโมยมาขาย เมื่อเจ้าของมาเห็นเข้าก็จะถูกดำเนินคดีได้เหมือนกัน “ถ้าเขาแจ้งความเอาเรื่อง เราก็พลอยผิดไปด้วย ลำบากใจ เลยหาซื้อเองดีกว่า”

กิจกรรม “ไบค์ฟอร์มัม ปั่นเพื่อแม่” ในวันที่ 16 สิงหาคม นายจิรวัฒน์เตรียมจักรยานโบราณคู่ใจปั่นไปพร้อมๆกับคนอีกนับหมื่นแสน เขาเล่าความรู้สึกในวันนั้นให้ฟังสั้นๆว่า... “ผมพร้อมแล้วครับ สำหรับการแสดงความกตัญญูต่อแม่เรา และแม่ของแผ่นดิน”

ขณะที่นายสมหวัง สอนฆ้อง อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 123/2 ถ.เอกชัย เขตบางบอน กทม. หนึ่งในทีมคนรักจักรยานโบราณบอกว่า สนใจจักรยานมากว่า 30 ปีแล้ว ความผูกพันเริ่มจากหารถจักรยานเก่าๆในหมู่บ้านมาขายก่อน

“ผมเอารถจักรยานเก่าๆ ในหมู่บ้านตัวเองมาขายแถวลานพระบรมรูป สมัยก่อนช่วงเย็นๆ ทุกเสาร์-อาทิตย์ จะมีรถโฟล์ค รถจี๊ป และรถฮาร์เล่ย์มาขาย แต่ผมเอารถจักรยานคลาสสิกปนเข้ามา แล้วนักสะสมเขาก็ติดใจ เพราะมันมีเสน่ห์มาก เนื่องจากจักรยานมันไม่ธรรมดา คนเล่นไม่ธรรมดา และราคาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน”

ชอบจักรยานเพราะอะไร “ผมเห็นว่ามันมีความต่างในความเหมือน จักรยานเหมือนกันก็จริง แต่มันไม่เหมือนจักรยานทั่วไป มันมีลีลาของอุปกรณ์แต่ละชิ้น ผมค่อยเรียนรู้ด้วยตัวเอง อย่างกระดิ่ง บันได ล้อ เบาะ และแฮนด์ แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกัน ผมเห็นก็ชอบ จึงกลับไปควานหาซื้อ แรกๆ กลับไปที่หมู่บ้านตัวเองก่อน จากหมู่บ้านมาเป็นตำบล อำเภอ แล้วก็จังหวัด ผมไปแทบทุกจังหวัดที่รู้ว่ามีร้านขายจักรยานเก่าๆ”

วิธีควานหาของสมหวังคือ “ไปมองหน้าร้านขายรถจักรยานก่อน สังเกตว่าเป็นร้านเก่าหรือไม่ โดยดูที่ป้าย ถ้าพบว่าเปิดมานานแล้ว ก็ขออนุญาตเจ้าของร้านเข้าไปดูอุปกรณ์ สังเกตกล่องใส่อุปกรณ์ แต่ละกล่องจะมีตราให้เราสังเกตได้ แต่ละกล่องมักมีอุปกรณ์เหลืออยู่ไม่มากก็น้อย ถ้าใช่ตามที่เราต้องการก็ขอเหมาเลย”

เมื่อถามว่า ไม่กลัวว่าจะขายไม่ได้หรือไร คำตอบคือ “ถ้าเป็นอุปกรณ์เก่า คลาสสิกขายได้แน่นอน ตั้งแต่ผมตระเวนหาซื้อมาราว 30 ปีแล้ว ไม่มีอุปกรณ์ตัวใดที่ซื้อมาแล้วขายไม่ได้ อย่างบางทีเราได้มา 5 ชิ้นกลับไม่พอกับความต้องการ เพราะคนชอบมีมาก”

คนซื้ออุปกรณ์รถจักรยาน ไม่ได้เอาไปประกอบปั่นน่องโป่งอย่างเดียว หากแต่นำไปเป็นเครื่องประดับด้วย ทั้งประดับในตู้โชว์ ประดับใกล้ๆ กับรถโบราณที่มีอยู่ และนำไปตกแต่งบ้านให้ได้บรรยากาศโบราณด้วย “บางคนมีรถยนต์โบราณ แต่ต้องการรถจักรยานเก่าติดไปด้วยก็มี”

แหล่งซื้อหา สมหวังบอกว่าบางแห่งมีแต่ไม่ยอมขาย “ผมคิดว่าส่วนหนึ่งก็อยากให้เรากลับไปหาอีก เพราะว่าได้พูดคุยตามประสาคนคอเดียวกัน ผมยินดีกับเขาด้วยที่เขาเก็บไว้ เพราะความจริงแล้วของสวยๆงามๆ ไม่ว่าจะอยู่ในมือใคร ก็ล้วนแต่อยู่ในมือคนชอบด้วยกันทั้งนั้น”

สำหรับกลุ่ม “คนรักจักรยานโบราณ” สมหวังเข้ามาสังกัดกับผองเพื่อน และออกงานโชว์จักรยานโบราณไปแล้วทั่วประเทศ “เรามีเครือข่ายในแต่ละจังหวัด อย่างสมมติว่าเชียงใหม่จัดงานต้องการรถจักรยานโบราณไปร่วมงาน เราก็จะไปพร้อมกับเครือข่ายในจังหวัดอื่นๆอีกมากมาย”

เมื่อถามว่า การปั่นรถจักรยานได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง สมหวังบอกว่า “การขี่จักรยานทำให้ผมไม่เป็นโรคความดันโลหิต ไม่เป็นโรคเบาหวาน และไม่เป็นโรคหัวใจ ผมขี่ทุกวัน ถ้าไม่ได้ขี่รอบไกลก็ปั่นอยู่กับที่ ส่วนหนึ่งที่เราชอบจักรยานเพราะได้ทดสอบสมรรถภาพของเรากับรถจักรยานที่เรา รัก ดูความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างเรากับจักรยานว่าไปกันได้ไหม เราแข็งแรงจริงหรือเปล่า แล้วมันก็ดันแข็งแรงจริงๆ” สมหวังบอก

ระหว่างปั่นจักรยาน “สนุกตรงที่เราได้เล่นเกียร์ กระดิ่ง ไฟ ได้ทดสอบอุปกรณ์หลายประเภท ตัวจักรยานมีลูกเล่นเยอะ จักรยานคันหนึ่งก็เหมือนคน ต่างมีชิ้นส่วน จักรยานถ้าเราบำรุงรักษาดี รถก็ไม่เสีย ส่วนร่างกายเราถ้าดูแลดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร อากาศ อารมณ์ และออกกำลังกาย เราก็มีความพร้อมที่จะทำงาน หรือทำอะไรก็ได้”

พื้นที่ขี่จักรยานใน กทม. สมหวังมองว่าพอมีอยู่ แต่มีปัญหาเรื่องการเคารพกฎจราจรของผู้ขับขี่รถยนต์ และการวางแผงขายของแม่ค้าบางย่านที่ล้ำเข้ามาในเส้นทาง จึงอยากขอร้องให้เห็นความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน

สำหรับการเข้าร่วมปั่น “ไบค์ฟอร์มัม” สมหวังบอกว่า “เราอยากไปด้วยกันทุกคน ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่ามีผู้เห็นคุณค่าการปั่นจักรยาน เราแม้จะเป็นคนเล็กๆ แต่พวกเราภูมิใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ ที่ได้ร่วมถวายเป็นพระราชกุศล และอยากให้เกิดโครงการแบบนี้ในปีต่อๆไป”

แน่นอนว่า ในขบวนรถจักรยานประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะจัดขึ้นครั้งใดก็ตาม จะมี “รถจักรยานโบราณ” เข้ามาเติมสีสันด้วยส่วนหนึ่ง.

Cr.ไทยรัฐ,e-news ,Asia21st , ,