30 เม.ย. 2558

เทรนเทคโนโลยี IT

 เทรนเทคโนโลยี IT

เทรนเทคโนโลยี IT
ข่าว จาก Gartner ระบุว่ามีศักยภาพที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคนรอบข้างในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องด้วยมีเทคโนโลยีไอทีใหม่เกิดขึ้นเร็ว อย่างพลิกผันเหมือนเช่น สตีป จ๊อป ที่เปลี่ยนมุมมองคอมพิวเตอร์ เป็น สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ถ้าใครตามเทรนไอทีไม่ทันก็จะล้าหลัง กลายเป็นมนุษย์พันธ์ลุงกับป้า ในไม่ช้า

แนวโน้มเทคโนโลยีไอที ทีจะเกินขึ้นเร็ว ๆ นี้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ ครอบคลุม 3 หัวเรื่องใหญ่คือ
1.การหลอมรวมกันของโลกจริงและโลกเสมือน
2.การมาถึงของความเฉลียวฉลาดที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง 
3.ผลกระทบทางเทคโนโลยีของการเคลื่อนสู่ธุรกิจดิจิตอล
มีแนวโน้มเทคโนโลยีไอที อะไรบ้างที่จะเกิดขึ้น

1. Computing Everywhere แม้ ว่าอุปกรณ์พกพาจะยังคงพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง Gartner พยากรณ์ว่าต่อจากนี้จะมุ่งเน้นที่การตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่มี ความหลากหลายทั้งด้านเนื้อหาและสภาพแวดล้อมรอบตัวเรามากกว่า

2. The Internet of Things ข้อมูล ที่พรั่งพรูจากอุปกรณ์ดิจิตอลจะก่อให้เกิดการใช้งาน 4 รูปแบบคือ การบริหารจัดการ การคิดค่าใช้จ่าย การควบคุม และ การขยายผล ซึ่งรูปแบบการใช้งานทั้ง 4 จะประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์อินเตอร์เน็ตได้ 4-5 ชนิด คือ สินทรัพย์ บริการ บุคคล สถานที่ และ ระบบ เชื่อมโยงข้อมูลด้วยอุปกรณ์อินเตอร์เน็ตต่าง ๆ สะดวกสบาย เช่น WiFi พกพา

3. 3D Printing คาดกันว่ายอดจำหน่ายเครื่องพิมพ์ 3 มิติซึ่งมีราคาย่อมเยาว์จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในปี 2015 ก่อให้เกิดขยายการใช้งานไปตามอุตสาหกรรมแขนงต่างๆ อย่างรวดเร็ว เช่น ชีวการแพทย์ การทำสินค้าต้นแบบ และ การผลิดปริมาณน้อยๆ

4. Advanced, Pervasive and Invisible Analytics การ วิเคราะห์เชิงลึกหรือ Analytics จะได้เป็นพระเอกเนื่องด้วยมีการผลิตข้อมูลจากระบบต่างๆ ทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกองค์กรเพิ่มขึ้นเป็นปริมาณมหาศาล องค์กรจะต้องสามารถบริหารจัดการและกลั่นกรองข้อมูลให้ได้เป็นผลลัพธ์ที่เป็น ประโยชน์จริงๆ กับแต่บุคคล

5. Context-Rich Systems ระบบ ที่ปราดเปรื่องรอบรู้ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะและการวิเคราะห์เชิงลึก จะเป็นระบบที่สามารถแจ้งเตือนไปยังสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวและสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม 

6. Smart Machines จักร กลอันชาญฉลาด เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์ล้ำสมัย ผู้ช่วยเสมือน จะถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ยุคของผู้ช่วยที่เป็นจักรกล จักรกลอันชาญฉลาดจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไอทีไปอย่างสิ้นเชิง

7. Cloud/Client Computing การ ผนวกเข้ากันของการประมวลผลคลาวด์กับอุปกรณ์พกพาจะกระตุ้นการเติบโตของ ซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ประสานงานจากส่วนกลาง Cloud เป็นการประมวลผลสมัยใหม่ที่สามารถขยับขยายได้และเป็นบริการด้วยตนเอง ต่อไปซอฟต์แวร์ทั้งที่ใช้ภายในและภายนอกองค์กรจะใช้การประมวลผลสมัยใหม่นี้

8. Software-Defined Applications and Infrastructure การ ใช้ชุดคำสั่งโปรแกรมมิ่งไปกำหนด infrastructure ต่างๆ เช่น network, storage, data center และความปลอดภัย จะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อองค์กรเพื่อให้มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ดิจิตอล ธุรกิจดิจิตอลมักมีการเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการอย่างรวดเร็วจึงจะต้องมี การขยับขยายเพิ่ม หรือ ลด ขนาดของระบบอย่างรวดเร็วด้วย 

9. Web-Scale IT เป็น การประมวลผลทั่วโลกที่อาศัยขีดความสามารถของผู้ให้บริการ cloud ขนาดใหญ่ จะมีองค์กรจำนวนมากขึ้นเรื่ิอยๆ ที่ได้เริ่มคิด ลงมือ และสร้างซอฟต์แวร์ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์อย่าง Facebook 

10. Risk-Based Security and Self-Protection แม้ ว่าถนนดิจิตอลแห่งอนาคตทุกๆ สายจะมุ่งสู่ประเด็นความปลอดภัย แต่ในโลกของธุรกิจดิจิตอลประเด็นความปลอดภัยก็ไม่อาจเป็นสิ่งกีดขวางที่จะ หยุดยั้งความก้าวหน้าได้ องค์กรจะรับรู้ว่าไม่มีระบบอะไรที่จะปลอดภัย 100 % เมื่อองค์กรยอมรับเช่นนี้แล้วก็จะประเมินความเสี่ยงเข้มข้นขึ้นและเพิ่ม เครื่องมือในป้องกันความปลอดภัยมากขึ้น

Cr.Whitespace,Gartner

29 เม.ย. 2558

ไฟไหม้ปริศนากว่า 200 ครั้ง ที่พัทลุง ? (คลิป)



กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ขึ้นอีกครั้งหนึ่งสำหรับเหตุการณ์ ไฟไหม้ปริศนากว่า 200 ครั้งที่บ้านหลังหนึ่งใน จ.พัทลุง หลังจากมีนักข่าวซ่อนกล้องภายในบ้าน และพบว่ามีหญิงสาวรายหนึ่งยื่นมือไปทำอะไรในกองผ้า จากนั้นก็เรียกเด็กมาชี้จุดเกิดเหตุ

ล่าสุด ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการประจำ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ ไทยพีบีเอส มาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงเหตุการณ์การซ่อนกล้อง/แอบถ่าย บันทึกภาพทำได้ไหม? จากกรณีบ้านไฟไหม้ปริศนาที่กำลังเป็นข่าว นักข่าวสามารถซ่อนกล้องได้หรือไม่

1. ทำได้…
แต่ต้องคิดว่า ใช่เรื่องที่ "ประชาชนมีสิทธิ/จำเป็นต้องได้รู้จริงๆ หรือไม่? โดยปกตินักข่าวจะซ่อนกล้องหรือไมโครโฟนได้ (และควรเป็นวิธีสุดท้าย) เช่น
- กรณีเปิดโปงการทุจริต โกง ขบวนการคอร์รัปชันของรัฐ ราชการ รัฐวิสาหกิจ

- กรณีเปิดโปงลัทธิ ขบวนการต้มตุ๋น แก๊งหลอกลวงชาวบ้านประชาชนในสิ่งที่โง่งมงาย

- กรณีการหาข้อพิสูจน์ทางสังคม เช่น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แปลก
-กรณีอาชญากรรม ภัยสังคม อันตรายที่กระทบต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน
และนักข่าว ต้องแน่ใจว่า "ซ่อนกล้องเพื่อค้นหาความจริง"

2. ทำอย่างไร?....
- ปรึกษากับผู้บริหาร/กองบรรณาธิการก่อน

- คำนึงถึงความปลอดภัยของทีมงานและผู้ถูกบันทึกภาพ

- ต้องมีทีมงานข่าว ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในภาพข่าวที่แอบซ่อนกล้องนั้นด้วย

- อาจแจ้งขออนุญาตเจ้าของสถานที่ หรือเจ้าทุกข์ เจ้าของเรื่องก่อน

- เมื่อได้ภาพแอบบันทึกนั้นมาแล้ว ต้องให้เจ้าของ(คนที่อนุญาต) ได้พิจารณาดูก่อนออกอากาศ

- เซ็นเซอร์ ปกปิดอัตลักษณ์บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในกรณีนี้ (บ้านไฟไหม้) ต้องเซ็นเซอร์ทั้งหมด เพราะทุกคนยังเป็นผู้ต้องสงสัย

3. เจ้าของบ้านฟ้องสื่อได้ไหม?
1. ฟ้องได้ ในลักษณะละเมิดสิทธิ แต่กรณีนี้ เจ้าของบ้านไม่น่าจะฟ้องได้ ถ้าทีมงานข่าวได้แจ้งเจ้าของบ้าน/และหรือก็ไปยืนถ่ายทำด้วยตัวเองในบ้าน (เจ้าของบ้านอาจจะรู้อยู่กับนักข่าวแค่สองคน)
2. ฟ้องได้ แต่อาจจะแพ้
ถ้านักข่าวพิสูจน์จนสุดทางว่าเป็นขบวนการต้มตุ๋นหลอกลวง
หรือ นักข่าวก็นำเสนอโดยเซ็นเซอร์ภาพทุกคนทั้งหมดแต่แรก
3. ฟ้องได้ ถ้าสำนักข่าวนั้น ไม่ควบคุมความคิดเห็นของผู้คนอื่นๆ ที่อาจมีลักษณะหมิ่นประมาท มาดร้าย สื่ออาจโดนฟ้องในคดีหมิ่นประมาท
4. วิธีการอื่นมีไหม? 
การซ่อนกล้องควรเป็นวิธีการสุดท้ายจริงๆ

ที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดยังต้องหาคำตอบว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือลวง ส่วนสื่ออย่างเราๆ อะไรคือความพอดี?


Cr.ไทยรัฐ,ไทยพีบีเอส

แผ่นดินไหวเนปาล คลิปล่าสุด

แผ่นดินไหวเนปาล คลิปล่าสุด



สธ.เผยทีมแพทย์ไทยจะตั้งจุดให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่เมืองซิป ปะกัต อ.ซินโฮปะช๊อก 1 ใน 4 เมืองที่เสียหายหนักกว่า 90% และจะพร้อมปฏิบัติงานในวันพรุ่งนี้ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดยังอยู่ที่ 5,158 ราย และบาดเจ็บ 19,015 ราย...

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 เมษายน 2558 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมติดตามสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ที่ประเทศเนปาล พร้อมให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์ล่วงหน้าที่นำโดยนายแพทย์สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่เดินทางถึงประเทศเนปาลบ่ายวันที่ 28 เมษายน 2558 ว่า ได้พบกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขเนปาลเพื่อประสานการปฏิบัติหน้าที่ของทีมแพทย์ ไทย ซึ่งประเทศไทยเป็น 1 ใน 4 ของสมาชิกองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าไปให้ความ ช่วยเหลือ

สำหรับสถานที่ทีมแพทย์ไทยจะปฏิบัติงานในครั้งนี้ คือ ตำบลซิปปะกัต (Sipaghat Subdistrict) อำเภอซินโฮปะช๊อก (Sindhupalchok District) ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกาฐมาณฑุ เป็น 1 ใน 4 เมืองที่ได้รับความเสียหายมากถึงร้อยละ 90 ของพื้นที่ โดยบ่ายวันนี้จะออกไปประเมินและสำรวจจุดที่ตั้งของทีมแพทย์ รวมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นโดยได้รับความช่วยเหลือจากอาสาสมัคร จากชาวเนปาลเป็นอย่างดี คาดว่าจะใช้เวลาเดินทางไป กลับ ประมาณ 6 ชั่วโมง โดยทีมแพทย์เมิร์ทที่เดินทางไปถึงบ่ายวันนี้จะเข้าคาราวะเอกอัครราชทูตไทย ประจำเนปาลก่อนที่จะเดินทางเข้าปฏิบัติงานพื้นที่วันพรุ่งนี้

นายแพทย์วชิระ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคศึกษาโรคที่อาจพบและทำให้เจ้าหน้าที่จาก ที่ไปทำงานที่เนปาลเจ็บป่วยเบื้องต้นเตรียมฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้สมองอักเสบ บาดทะยักส่วนโรคอื่นๆ เช่น หัด อหิวาตกโรค เป็นต้นจะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยวอร์รูมกระทรวงสาธารณสุขจะประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ทุกวันและประสาน งานอย่างใกล้ชิดกับทีมที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ตลอดจนปรับแผนการทำงานตลอดจนการให้ความช่วยเหลือให้สอดคล้องกับความต้องการ ของประเทศเนปาล

ขณะที่รายงานล่าสุด จำนวนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเนปาลยังอยู่ที่ เสียชีวิต 5,158 ราย และบาดเจ็บ 19,015 ราย.


Cr.ไทยรัฐ

28 เม.ย. 2558

แอโรบิก ชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 4 (คลิป)

น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4


นายชนกานต์ สุทธิพันธุ์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการกลุ่มลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด แถลงข่าวระเบิดศึกการแข่งขันแอโรบิก “น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4” ระดับประเทศหรือรอบชิงชนะเลิศประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแกรนด์ฮิลล์ จ.นครสวรรค์ พร้อมพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน โดยมีสื่อมวลชนร่วมงานอย่างคับคั่ง
         
 
สำหรับการแข่งขัน “น้ำดื่มสิงห์ แอโรบิก ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4” 
แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 รุ่นอายุ คือ 
1.รุ่นอายุ 35 ปีขึ้นไป
2.อายุ 19 ปีขึ้นไป
3.อายุ 13-18 ปี
4.อายุ 8-12 ปี 
 
โดยจัดการแข่งขันในรอบคัดเลือก ระดับเขต 10 เขตทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นมา จนได้  40 สุดยอดทีมแอโรบิกตัวแทนภาคต่างๆ เข้าร่วมชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-3 พ.ค.นี้ ที่ลานกิจกรรมหน้าโรงแรมเอ็นเอสซี จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ชิงเงินรางวัลรวมถึง 8.4 แสนบาท 
 
โดย แชมป์แต่ละรุ่น รับเงินรางวัล 
ที่หนึ่ง 100,000 บาท
ที่สอง 70,000 บาท
ที่สาม 40,000 บาท 
 
พร้อมความมันส์ระดับสุดยอดที่จัดมาให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัส ทั้งมหกรรมอาหารสะอาดรสชาติอร่อย คอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ ป้าง-นครินทร์ กิ่งศักดิ์, แมว-จิระศักดิ์ ปานพุ่ม, เสือ ธนพล ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบอลลูนยักษ์มาร่วมสร้างสีสันในงานอีกด้วย 



โรงพยาบาลแพร่ แข่งขันน้ำดื่มสิงห์ แอโรบิก ครั้งที่ 4 - YouTube




Cr.บ้านเมือง

ไฟลุกปริศนาพัทลุง (คลิปแฉ)

ไฟลุกปริศนาพัทลุง (คลิปแฉ)


วานนี้ (28 เม.ย.) มีรายงานว่า รายการ "ห้องข่าวช่อง8" ได้มีการเผยแพร่คลิปเฉลยความจริงเหตุการณ์เพลิงไหม้ปริศนานับร้อยครั้งในบ้านหลังหนึ่งที่จังหวัดพัทลุง

แต่กลับหาสาเหตุไม่ได้ โดยเป็นภาพที่ได้จากการซ่อนกล้องแอบถ่ายของนักข่าว ซึ่งในคลิปนาทีที่ 5.45 เผยให้เห็นว่าผู้หญิงเป็นคนลงมือแอบจุดไฟ ก่อนจะไปเรียกเด็กเล็กๆ มาชี้จุดไฟไหม้ เพื่อเรียกให้คนในบ้านมาช่วยดับ

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์คลิปดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Jessada Denduangboripant" พร้อมกับระบุว่า "คลิปเฉลยปริศนาไฟไหม้เป็นร้อยครั้งที่พัทลุง ... จากกล้องที่ซ่อนไว้ของนักข่าวช่อง 8 

เห็นทำนองว่า มีผู้หญิงแอบจุดไฟที่กองผ้า ก่อนจะไปตามเด็กมาชี้ไฟ และคนทั้งบ้านมาช่วยกันดับ ... หมดหน้าที่นักวิทยาศาสตร์แล้ว ต่อไปก็เรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจัดการต่อแล้วครับ (เข้าใจว่าผู้ว่าฯจะแถลงเอง) ส่วนคลิปแบบภาพชัดๆ ทางช่อง 8 จะเผยแพร่ให้ช่องอื่นต่อไป (จะเห็นชัดๆว่าซ่อนที่จุดไฟไว้ตรงไหนในตัว)"



Cr.Sanook

27 เม.ย. 2558

หุ้นไทยร่วงถึง 6.63จุด เกิดอะไรขึ้น?

หุ้นไทยร่วงถึง 6.63จุด เกิดอะไรขึ้น?


หุ้นไทยปิดร่วง 6.63 จุด อยู่ที่ 1,548.83 จุด แรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ คาดพรุ่งนี้หุ้นผันผวนในกรอบแคบ แนะเก็งกำไรสั้น กรอบ 1,530 - 1,562 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ 1,548.83 จุด ลดลง 6.63 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 39,218.37 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,562.64 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,546.66 จุด

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีซีมิโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบทั้งแดนบวกและแดนลบ แม้ว่าในช่วงเช้าจะพยายามเคลื่อนไหวในแดนบวก แต่ช่วงบ่ายถูกแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์กดดัน หลังจากผลประกอบการ Q1/2558 ออกมาชะลอตัว ไม่ว่าจะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) สูงขึ้น จนต้องตั้งสำรองเพิ่ม ตลอดจนแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อ Q2/2558 ชะลอตัวลง

นอกจากนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า เป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุน จึงมีโอกาสที่หุ้นไทยจะแกว่งตัวลงต่อได้ แต่ยังมีหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ประคองดัชนีฯ ไม่ให้ปรับตัวแรง ด้วยราคาน้ำมันโลกฟื้นตัวดีต่อเนื่อง มองว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่การฟื้นตัวคงไม่ได้ไปไกลมากเท่าใดนัก

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่า หุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ โดยนักลงทุนรอดูความชัดเจนผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าจะคงเดิมที่ระดับ 1.75% หรือไม่ แม้ว่าจะมีบางส่วนคาดดารณ์ว่า กนง. อาจจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยลงเพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ค่าเงินต่างอ่อนค่าลง เพื่อเอื้อต่อภาคการส่งออก อีกทั้งผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อความชัดเจนประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าจะปรับขึ้นในช่วงใดในปีนี้

ด้านกลยุทธ์ แนะเก็งกำไร เพื่อรอความชัดเจนผลการประชุมกนง.-เฟด โดยประเมินแนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1557-1,562 จุด

Cr.กรุงเทพธุรกิจ

'ในหลวง'ทรงทอดพระเนตรแม่น้ำเจ้าพระยา

'ในหลวง'ทรงทอดพระเนตรทัศนีย แม่น้ำเจ้าพระยา


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนพระราชอิริยาบถและทอดพระเนตรทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา และริมคลองบางกอกน้อย ท่ามกลางพสกนิกรเป็นจำนวนมากเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
เมื่อเวลา 17 นาฬิกา 9 นาที วันที่ 27 เม.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เป็นการส่วนพระองค์ ไปยังโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เพื่อทรงเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เชิ้ตแขนสั้นสีเหลืองอ่อน ลายใบไม้ พระสนับเพลาสีดำ ฉลองพระบาทสีดำ มีพระพักตร์สดใสเป็นอย่างยิ่ง ทรงแย้มพระสรวลให้กับพสกนิกรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จตลอดสอง เส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับพสกนิกรที่ได้ชื่นชมพระบารมีเป็นอย่างยิ่ง โดยต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้อง
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่ห้องโถงชั้น 2 ของโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ได้ถวายรายงานว่า วันนี้ได้จัดงาน "ฉลองความสำเร็จก้าวสู่ปีที่ 4 โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์"

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถาบันการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ทอดพระเนตรทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังชั้น 12 เพื่อทอดพระเนตรทัศนียภาพริมคลองบางกอกน้อย และสะพานพระราม 8
กระทั่งเวลา 17 นาฬิกา 45 นาที จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช รวมเวลา 36 นาที.

Cr.ไทยรัฐ

26 เม.ย. 2558

ไมค์ พิรัชต์ หอบหืดในสนามฯ ช่อง 3

ไมค์ พิรัชต์ หอบหืดในสนามฯ ช่อง 3


เรียกว่า "หมอก้อง สรวิชญ์" สลัดความเป็นดารานักบอลทิ้งทันที หลังจากเห็นรุ่นน้องร่วมวงการอย่างหนุ่ม "ไมค์ พิรัชต์" เกิดอาการหอบหืดกำเริบกลางสนามบอล ขณะร่วมมหกรรมครบรอบ 45 ปี ไทยทีวีสีช่อง 3 "ความสุขบุกโลก" ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน วานนี้ (26 เม.ย.)

โดยหมอก้องรีบมาดูอาการ พร้อมทั้งเดินประกบไปด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่พาหนุ่มไมค์นั่งรถเข็นเพื่อไปขึ้นรถพยาบาล ซึ่งล่าสุด อาการของหนุ่มไมค์ปลอดภัยแล้วนั้น

ขณะที่ภาพระหว่างที่หมอก้องดูอาการหนุ่มไมค์อย่างใกล้ชิด ทำเอาชาวเน็ตหลายคน รวมถึงแฟนคลับของหนุ่มไมค์ปลาบปลื้มไม่น้อย พากันเข้ามาแสดงความความชื่นชมและขอบคุณ

ด้าน หมอก้องเองก็โพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวแบบขำๆ ว่า "ก็บอกแต่แรกแล้วว่าเป็นแพทย์สนาม555"

ซึ่งฝั่งคนป่วย อย่างหนุ่มไมค์ ล่าสุด ก็โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม @m1keangelo ว่า

"อาการดีขึ้นแล้วนะครับ ออกมาทำงานต่อแล้ว ขอบคุณทุกคนมากๆนะครับ ขอบคุณนายมากเลยนะครับที่ดูแลอย่างดีเลยแล้วก็พี่Boatที่นั่งรถambulanceมาด้วยกัน และพี่ๆช่อง3ทุกคนที่เป็นห่วงนะครับ หมอก้องด้วยฮะที่มาเช็คอาการข้างสนาม แฟนๆทุกคนด้วยนะครับที่มางานเมื่อวานทั้งๆที่ฝนตก ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงน้า รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ‪#‎ยินดีกับชัยชนะของทีมน้ำเงินนะคับ‬ ‪#‎เมื่อวานกระผมพลาดทั้ง2ลูกเลย‬ :-( ‪#‎พี่จอร์นนี่‬(เดวิด)แอบมาเยี่ยมตอนกลางคืนด้วยน่ารักมากๆเลย"

แม้จะลงสนามแตะบอลได้แค่ 10 นาที ก็ดูเหมือนหมอก้องจะไม่เสียดายเท่าไหร่ เพราะได้ทำหน้าที่แพทย์ ถือเป็นเรื่องราวดีๆ จริงๆ ค่า


Cr.Sanook

มาตัง คว้าดาวสำเร็จ The Star 11 (คลิป)

มาตัง คว้าดาวสำเร็จ The Star 11 (คลิป)


สำหรับมาตังเป็นตัวแทน เดอะสตาร์ 11 จากภาคอีสาน โดยมีอายุเพียง 15 ปี แต่มาพร้อมเสียงคุณภาพ มาตังอยากมีคอนเสิร์ตและมีเพลงเป็นของตัวเอง หลายๆ คนอาจเกิดอาการสงสัยว่าชื่อนี้ได้แต่ใดมา โดยน้องมาตังบอกว่า เป็นชื่อที่คุณพ่อกับคุณแม่ตั้งให้ มีความหมายอยากเรียกเงินเข้ามาในครอบครัว ถือว่าเป็นชื่อที่มีความหมายดี และไม่น่าแปลกใจที่พอใครได้ฟังน้ำเสียงของเธอจะหลงรักสาวน้อยผู้หอบความฝันมาเต็มเปี่ยมคนนี้ และสำหรับใครที่ชื่นชอบและเชียร์เด็กสาวหน้าคมร้องเพลงเพราะคนนี้ Sanook! Music ก็ไม่พลาดนำโปร์ไฟล์ของเธอฝากให้รู้จักแบบถึงไส้ถึงพุงเลยเชียว

ชื่อ สกุล : ระดับดาว ศรีระวงศ์
ชื่อเล่น : มาตัง
วันเดือนปีเกิด : วันที่ 20 ธันวาคม 2542
อายุ : 15 ปี
ภูมิลำเนา : จ.อุดรธานี
การศึกษา : กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 โรงเรียนอุดรพิทยานุกุล
นักร้องที่ชื่นชอบ : Bruno mars, Bankk cash, กัน นภัทร, แก้ม วิชญาณี
แนวเพลงที่ชอบ : Rock , R & B
idol ของคุณคือใคร : Bankk cash
เหตุผลที่มาสมัคร The Star11: อยากมีคอนเสิร์ตและมีเพลงเป็นของตัวเอง
ความสามารถพิเศษ : เล่นกีฬา:ตะกร้อ,วอลเล่ย์บอล, เล่นกีต้าร์ ,รำ
อธิบายความเป็นตัวเอง : อารมณ์ดี, เฮฮา, ตลก, หัวเราะง่าย
เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต: ได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งเวทีระดับจังหวัดที่จังหวัดอุดรธานี และได้รับเงินรางวัลจำนวน 30,000บาท


ผลงานการแข่งขันของ มาตัง  The Star 11 ที่ผ่านมา

รอบไฟนอล 2 คนสุดท้าย โจทย์มินิคอนเสิร์ต 30 นาที : มาตัง มาโชว์




Cr.Sanook

25 เม.ย. 2558

วันสถาปนาสภากาชาดไทย 26 เม.ย 2558

วันสถาปนาสภากาชาดไทย 26 เม.ย 2558


26 เมษายน พ.ศ. 2436 วันสถาปนา สภากาชาดไทย ซึ่งพัฒนามาจาก สภาอุณาโลมแดง ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งขึ้นในวันนี้ ทั้งนี้ในปี 2436 (ร.ศ. 112) ได้เกิด กรณีพิพาท ร.ศ. 112 ระหว่างสยามกับฝรั่งเศสเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง มีการสู้รบเป็นเหตุให้ทหารได้รับบาทเจ็บล้มตายจำนวนมาก 

แต่ปรากฎว่าไม่มีองค์กรใดเข้าไปช่วยเหลือพยาบาล ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงษ์ จึงได้รวบรวมสตรีอาสาสมัครขึ้น แล้วนำความกราบบังคมทูล สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ขอให้นำความขึ้นกราบบังคมทูล พระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตตั้ง สภาอุณาโลมแดงแห่งชาติสยาม ขึ้นเพื่อช่วยเหลือด้านการพยาบาลแก่ทหารที่ได้รับบาทเจ็บ

รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชกระแสว่า เป็นความคิดอันดีตามแบบอย่างประเทศที่เจริญแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งสภาอุณาโลมแดงขึ้น 

ต่อมา รัชกาลที่ 5 ทรงทรงบริจาคทรัพย์รวมกับทุนของสภาอุณาโลมแดง สร้างโรงพยาบาลของสภากาชาดสยามขึ้นเมื่อปี 2457 ชื่อว่า "โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์" เพื่อเป็นอนุสรณ์ ในพระราชบิดา ต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อ “สภาอุณาโลมแดง” เป็น “สภากาชาดไทย” เพื่อมิให้เรียกชื่อสับสน

เมื่อปี 2463 คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ได้รับรองสภากาชาดไทย ปีต่อมาสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (เดิมคือ สันนิบาตสภากาชาด) ได้รับสภากาชาดไทยเข้าเป็นสมาชิก

Cr.Sanook

24 เม.ย. 2558

ภูเขาไฟในชิลี ระเบิด !



เมื่อปรากฎการณ์"ภูเขาไฟคัลบูโค"ในชิลีระเบิด ก็เกิดภาพความสวยงามตระการตาขึ้น
โดยล่าสุด "ภูเขาไฟคัลบูโค" ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศชิลี ได้เกิดการปะทุขึ้นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ส่งผลให้เกิดเถ้าถ่านและควันไกลหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว

 

 
 

แม้ว่าจะไม่มีลาวาไหลออกมา แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกตกใจให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก แต่ทางเมืองก็ได้มีการประกาศเตือนภัย รวมทั้งอพยพผู้คน 1,500 คนออกจากพื้นที่ในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบเขตภูเขาไฟแล้ว


 

 
 
เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่มนุษย์ไม่สามารถห้ามได้ แต่กลับรู้จักรับมือได้อย่างถูกวิธี ทั้งยังได้เก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ของการปะทุของภูเขาไฟมาให้ชาวโลกเหนเป็นบุญตาอีกด้วย จะสวยขนาดไหน ไปชมกันเลย




 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

อินเดียรองประธาน ธนาคาร AIIB


อินเดียได้รับคาดหมายนั่งรองประธานบริหารธนาคารเพื่อการลงทุนแห่งใหม่ AIIB
สมาชิกผู้ก่อตั้งธนาคารเตรียมประชุมสัปดาห์หน้าเพื่อหารือขั้นสุดท้ายเรื่องรูปแบบโครงสร้างองค์กรของ AIIB

สมาชิกผู้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของเอเชียหรือ AIIB ทั้ง 57 ประเทศ เตรียมประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือขั้นสุดท้ายเรื่องรูปแบบโครงสร้างองค์กรของ AIIB รวมทั้งสัดส่วนหุ้นและสัดส่วนการออกเสียง โดยสำนักงานใหญ่ของ AIIB จะตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง

สำนักข่าว PTI ของอินเดียรายงานว่าจีนจะรับหน้าที่ประธานบริหารของธนาคารแห่งใหม่นี้ และคาดว่าอินเดียจะได้รับเลือกเป็นรองประธาน

เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนการออกเสียงซึ่งครึ่งหนึ่งอิงตามมูลค่าผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ และอีกครึ่งหนึ่งอิงตาม Purchasing Power Parity หรือ PPP ประกอบกับการมอบอำนาจการบริหารส่วนใหญ่ให้กับประเทศในเอเชีย ตามเป้าหมายสนับสนุนโครงการสาธาณูปโภคทางเศรษฐกิจในเอเชีย ทำให้เห็นได้ว่าอินเดียเหมาะสมที่สุดที่จะได้เป็นรองประธานบริหารของ AIIB

Cr.Voice of America

23 เม.ย. 2558

เราใช้สมองแค่ 10% แล้วเพิ่มได้ไหม ? คลิป

เราใช้สมองแค่ 10% แล้วเพิ่มได้ไหม ?


เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำพูดว่า

            "มนุษย์ส่วนใหญ่ใช้สมองเพียงแค่ 10% เราสามารถใช้งานสมองที่เหลือ 90% ได้ ถ้าเรา            <เติมคำในช่องว่าง>" 

จากเพื่อน ญาติพี่น้อง คุณครู เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ หรือแม้กระทั่งจากในคำสอนของบางวัด บางนิกาย และในบางทีได้มีการอ้างว่าเป็นความเห็นของบุคคลสำคัญ (เช่น อัลเบิร์ต ไอสไตน์)

ต้นตอของความเชื่อ


มีความเป็นไปได้สูงที่ความเชื่อนี้เริ่มต้นมาจาก บทความ The Energies of Men ของนายวิลเลียม เจมส์ (William James) นักจิตวิทยาจากมหาลัยฮาร์วาร์ด ที่ตีพิมพ์เมื่อปี คศ. 1907 เกี่ยวกับทฤษฎี 'พลังงานสำรอง' ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งว่า "ในภาวะปกติ มนุษย์เราไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพทางร่างกายและสมองถึงขีดสุด โดยประสิทธิภาพที่ไม่ได้ใช้ที่เรียกว่าพลังงานสำรองนี้ จะถูกเรียกใช้ในเหตุการณ์พิเศษโดยจิตใต้สำนึกของเรา เมื่อถูกกระตุ้น พลังงานสำรองในตัวเรานี้จะทำให้เราสามารถทำในสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้ในภาวะปกติ" ("We are making use of only a small part of our possible mental and physical resources")

ทฤษฎีนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเมื่อนายโลเวล โทมัส (Lowell Thomas) นักเขียนชาวอเมริกันได้สรุปทฤษฎีของนายวิลเลียม พร้อมเพิ่มตัวเลขเปอร์เซ็นต์ลงในคำนำของหนังสือจิตวิทยายอดนิยม How to Win Friends and Influence People (PDF) ของนายเดล คาร์เนกี (Dale Carnegie) โดยได้กล่าวไว้ว่า "ศาสตราจารย์วิลเลียมจากฮาร์วาร์ด ได้เคยกล่าวไว้ว่า โดยเฉลี่ย มนุษย์ใช้ประสิทธิภาพสมองแค่ 10%" ("Professor William James of Harvard used to say that the average person develops only 10 percent of his latent mental ability")

ข้อมูลทั่วไปและมุมมองทางวิทยาศาสตร์


ก่อนอื่นต้องย้อนกลับไปทำความเข้าใจกับคำถามว่า 10% ของสมองที่พูดถึงนั้นหมายถึงอะไร? ใช่หมายถึงว่าในกะโหลกศีรษะนั้นมีส่วนนับเป็น'สมอง'อยู่ 10% แล้วที่เหลือเป็นขี้เลื่อย? หรือว่าทั้งหมดในหัวเรานั้นเป็นสมองหมดแต่ทำงาน ณ ขณะหนึ่งๆ เพียง 10%?

เริ่มที่ส่วนประกอบของสมอง สมองที่เราเรียกกันอยู่ทุกวันนี้ประกอบด้วยสองส่วนหลักๆ ส่วนแรกคือเซลล์ประสาท (neuron) ซึงหน้าที่ของมันคือทำหน้าที่ส่งสารสื่อประสาท ซึ่งเป็นองค์ประกอบประมาณ 15% ของสมอง ส่วนที่เหลือคือ เซลล์เนื้อสมอง (glial cells) ซึ่งทำหน้าที่ จัดระเบียบเซลล์ประสาท, ส่งอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง, คอยแยกเซลล์ประสาทออกจากกัน, กำจัดเชื้อโรคและเซลล์ประสาทที่ตายแล้ว โดยสมองเราจะประกอบด้วยเซลล์เนื้อสมองประมาณ 85% ซึ่งถ้าอ่านคร่าวๆ น่าจะดูเหมือนเรายังมีโอกาสที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของสมองให้มากขึ้นไปกว่า 15% นี้โดยแปลงเซลล์เนื้อสมองให้กลายเป็นเซลล์ประสาท แต่ในความเป็นจริงความเป็นไปได้ที่จะให้เซลล์เนื้อสมองนี้กลายเป็นเซลล์ประสาทในสมองเรานั้นแทบจะไม่ต่างจากความเป็นไปได้ในการที่จะให้เซลล์เนื้อเยื่อบุผิว (epithelium) บนมือเรากลายเป็นเซลล์เนื้อเยื่อประสาท (nervous tissue) ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยในธรรมชาติ

แล้วสมองเราอู้งานบ้างไหม? งานวิจัยที่สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ข้างล่างนั้นได้ยืนยันว่าสมองเราทำงานแบบแทบที่จะไม่ได้หยุดพัก สามารถสรุปย่อๆ โดยที่ถ้าเราแบ่งลักษณะการทำงานของสมองออกเป็นสองช่วง คือช่วงที่เรามีใช้งานสมองของเรา (normal activity) และช่วงที่เราพักผ่อน (resting-state activity) นักวิจัยได้สังเกตการทำงานของสมองด้วยเทคนิคการถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (functional magnetic resonance imaging หรือ fMRI) ซึ่งสามารถแสดงการหมุนเวียนของเลือดในสมอง โดยเทคนิคในการวินิจฉัยนี้อยู่บนพื้นฐานความจริงทีว่า สมองส่วนที่ทำงานอยู่จะต้องการเลื้อดไปเลี้ยงมากกว่าปกติ และพบว่า ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองในภาวะพักผ่อนนั้นน้อยกว่าภาวะปกติเพียง 5-10%

ในมุมมองของนักพันธุกรรมที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตจะวิวัฒนาการเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ (natural selection) เชื่อว่าถึงแม้มันมีความเป็นไปได้ที่ธรรมชาิตจะสรรค์สร้างวิวัฒนาการที่แปลกประหลาดออกมา แต่มันเป็นเรื่องที่ตลกมากที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่จะมีอวัยวะที่ต้องการพลังงานไปหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก สูงสุดได้ถึง 20-25% เทียบกับพลังงานที่ทั้งร่างกายต้องการ แถมยังใหญ่กว่าที่จำเป็นที่จะต้องมีถึงสิบเท่า เพื่อให้มันเป็นจุดอ่อนของร่างกายและทำให้โอกาสรอดชีวิตมีน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนคลอด

งานวิจัยเกี่ยวกับการทำงานของสมอง


ก่อนจะพูดถึงงานวิจัย ผมขอพูดถึงศัพท์เทคนิคสองคำที่ได้พูดถึงเล็กน้อยไปก่อนหน้านี้ คือ สมองในภาวะที่เราใช้ใช้งาน (normal activity) ที่ผมจะขออนุญาตเรียกว่า 'สมองภาวะปกติ' และสมองในช่วงที่เราพักผ่อน (resting-state activity) ที่ผมจะของเรียกว่า 'สมองภาวะพักผ่อน'

การทดลองชิ้นแรกๆ ที่ได้อธิบายถึงการทำงานของสมอง เกิดขึ้นที่วิทยาลัยการแพทย์วิสคอนซิน เมื่อนักศึกษาปริญญาเอก บารัต บิสเวล (Bharat Biswal) พยายามจะกรองสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นสัญญาณรบกวน (noise) ที่่เกิดขึ้นตลอดเวลาออกจากข้อมูลที่เขาได้รับจากเครื่อง fMRI ซึ่งในภายหลัง เขาพบว่า แม้ว่าขณะที่คนไข้คนเดิมของเขากำลังพักผ่อน ข้อมูลจากเครื่อง fMRI ก็ยังแสดงถึงสัญญาณรบกวนที่มีหน้าตาเหมือนเดิมออกมา ซึ้่งทำให้เกิดข้อสรุปว่าสมองเรานั้นทำงานตลอดเวลา และต่อมาภายหลังสัญญาณรบกวนนี้ได้ถูกเรียกว่าสมองภาวะพักผ่อน

ถัดจากนั้นมาก็เริ่มมีงานค้นคว้าผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดว่าสมองทำอะไรในภาวะพักผ่อน เริ่มต้นที่ทีมวิจัยนำโดยนาย Marcus Raichle จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน โดยได้คนพบว่า สมองภาวะพักผ่อนจะทำงานน้อยลงเมื่อสมองภาวะปกติทำงาน และกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อสมองภาวะปกติหยุดทำงาน เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ลองเปรียบเทียบการทำงานของสมองกับแบนด์วิดท์ โดยที่สมองภาวะพักผ่อนคือเรากำลังดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมากอยู่ และสมองภาวะปกติคือเรากำลังดู YouTube คือเมื่อขณะที่เราดูหนัง แบนด์วิดท์ที่ใช้การดาวน์โหลดข้อมูลจะลดลง (เปรียบเหมือนสมองภาวะพักผ่อนทำงานน้อยลง) และกลับมาใช้เยอะอีกครั้งหลังจากที่เราดูหนังเสร็จ (เปรียบเหมือนสมองภาวะปกติหยุดทำงาน)

จาก การทดลองเพิ่มเติมในลิง, การค้นพบว่าสมองภาวะพักผ่อนทำงานผิดปกติในคนที่เป็นอัลไซเมอร์ และ การที่สมองภาวะพักผ่อนมีการทำงานมากผิดปกติในเด็กออทิสติก ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตั้้งคำถามว่าสมองภาวะพักผ่อนนี้ต้องทำอะไรสักอย่างที่สำคัญมากแน่นอน ถึงแม้จะยังไม่สามารถหาคำตอบได้ในขณะนั้นก็ตาม

ถัดจากนั้นกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้ทำการทดลองบนสมมุติฐานที่ว่า สมองภาวะพักผ่อนจะคาดเดาและประมวลผลเพื่อรองรับสิ่งที่เราจะเจอในอนาคต โดยเปรียบเทียบกับการทำงานของรถยนต์ว่า เหมือนรถยนต์ที่ได้สตาร์ทเครื่องไว้และพร้อมจะออกตัวได้เสมอ (“If your car is ready to go, you can leave faster than if you have to turn on the engine.”) การทดลองทำโดย สแกนสมองผู้ที่เข้าทำการทดลองแล้วให้ผู้ที่เข้าทำการทดลองดูภาพซึ่งสามารถจะมองเป็นหน้าคนหรือแจกันก็ได้ ผลปรากฎว่าผู้เข้าทำการทดลองที่บอกว่าเป็นรูปหน้าคนนั้น จากข้อมูลที่ได้สแกนมาล่วงหน้า มีการทำงานในส่วนที่แยกแยะใบหน้ามากกว่าผู้เข้าทดลองที่บอกว่าเป็นแจกัน ผลการทดลองนี้ทำให้เชื่อได้ว่า สมองภาวะพักผ่อนจะทำหน้าที่ประมวลผลล่วงหน้าเพื่อรองรับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากสมองจะทำงานตลอดเวลาแล้ว ยังมีงานวิจัยที่บ่งบอกว่า การเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทนั้นเปลี่ยนไปตามอายุและการเรียนรู้ของเรา โดยให้ผู้เข้าทดลองทำกิจกรรมที่ต้องจดจ่อกับการเคลื่อนไหวของเป้าหมาย ซึ่งผลก็คือ ในภายหลัง เมื่อผู้เข้าทดลองพักผ่อน สมองภาวะพักผ่อนที่ถูกปลุกขึ้นมาทำงานนั้นจะทำงานในส่วนที่วิเคราะห์การเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้แล้วยังมีงานวิจัยที่ต่อเนื่องออกมาระบุว่า สมองภาวะพักผ่อนนอกจากจะช่วยในการทำงานในอนาคตแล้วยังทำการประมวลผลเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นให้การเป็นความจำระยะยาวด้วย

หมายเหตุ ที่ต้องหยิบยกประโยครวมทั้งชื่อหนังสือที่เป็นภาษาอังกฤษมาใส่นี้เพื่อให้ผู้อ่านค้นหาย้อนกลับได้ง่ายขึ้น (ถ้าไม่ได้คีย์เวิร์ด ผมแทบจะยืนยันความถูกต้องของเนื้อหาที่ผมหามาจำนวนมากไม่ได้)


Cr. BBC, wiki, How to Win Friends and Influence People (PDF), Nature

พญานาค โผล่ที่อุตรดิตถ์ ?


พราหมณ์บวงสรวงรอยพญานาคที่วัดโพธิ์ล้อม


ตะลึง!! พราหมณ์บวงสรวงรอยพญานาคที่วัดโพธิ์ล้อม หลังพบรอยเลื้อยอ้อมโบสถ์ โดยเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขณะทำพิธีก้อนเมฆก่อตัว คล้าย 'พญานาค' ทำให้ชาวบ้านต่างโจษจันกันไปต่างๆ นานา...
เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 23 เม.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดโพธิ์ล้อม หมู่ 9 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ มีการบวงสรวงรอยพญานาค หลังจากเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดรอยพญานาค เลื้อยจากโบสถ์หลังเก่ามายังโบสถ์หลังใหม่ โดยรอยดังกล่าวได้ปรากฏที่บริเวณฝาผนังโบสถ์

ก้อนเมฆที่มีรูปทรงคล้ายหัวพญานาค

สำหรับบรรยากาศการบวงสรวง พบนายประจักษ์ มูลเงิน อายุ 47 ปี แต่งชุดพราหมณ์ สวมชฎาพระศรีอริยเมตไตรย ในมือถือบั่นวิธี จะมีลักษณะคล้ายสามง่าม ชี้ไปบนท้องฟ้า ปรากฏว่า ก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าได้ไปบังพระอาทิตย์ และก้อนเมฆกับกลายเป็นรูปคล้ายพญานาคบนท้องฟ้า ก้อนเมฆคล้ายเกล็ดพญานาค จนผู้ที่มามุงดูต่างโจษจัน ว่าเป็นสิ่งที่ประหลาดมหัศจรรย์ยิ่งนัก ซึ่งแต่ละคนได้เอามือถือ ไอแพด และกล้อง มาถ่ายรูปดังกล่าวไว้

ด้านลูกศิษย์นายประจักษ์ เปิดเผยว่า นายประจักษ์เป็นคนถือศีล นั่งสมาธิและปฏิบัติธรรม และจะมีญาณพิเศษในตัว สามารถติดต่อกับเทวดาฟ้าดินได้ จะให้เรียกก้อนเมฆมาปิดพระอาทิตย์ให้มืดได้หรือจะให้เป็นรูปพญานาคได้ และทำให้พระอาทิตย์เป็นรูปกลม ปรากฏเด่นชัด สีนวล สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ โดยตนเคยติดตามนายประจักษ์ไปที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ก็เคยเห็นการเรียกก้อนเมฆให้เป็นรูปพญานาคได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก โดยเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่สามารถห้ามใครได้.

แล้วจริง ๆ พญานาคมีรูปร่างลักษณะใด ตามคำภีร์และตำนาน มาดูกัน








ภาพตระกูลต่างๆของ พญานาคราช

    พญานาค เป็นสัตว์มหัศจรรย์ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถแปลงกายได้ พญานาค มีอิทธิฤทธิ์ และมีชีวิตใกล้กับคน พญานาค สามารถแปลงเป็นคนได้ เช่นคราวที่แปลงเป็นคนมาขอบวชกับพระพุทธเจ้า ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวถึงนาคที่ชื่อ ถลชะ ที่แปลว่า เกิดบนบก จะเนรมิตกายได้เฉพาะบนบก และนาคชื่อ ชลซะ แปลว่า เกิดจากน้ำ จะเนรมิตกายได้เฉพาะในน้ำเท่านั้น

    พญานาค ถึงแม้จะเนรมิตกายเป็นอะไร แต่ในสภาวะ 5 อย่างนี้ จะต้องปรากฎเป็นงูใหญ่เช่นเดิม คือ ขณะเกิด ขณะลอกคราบ ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับ โดยไม่มีสติ และที่สำคัญ ตอนตาย ก็กลับเป็นงูใหญ่เหมือนเดิม

    .พญานาค มีพิษร้าย สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้ด้วยพิษ ถึง 64 ชนิด ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า สัตว์จำพวกงู แมงป่อง ตะขาบ คางคก มด ฯลฯ มีพิษได้ ซึ่งก็ด้วยเหตุที่ นาคคายพิษทิ้งไว้ แล้วพวกงูไปเลีย พวกที่มาถึงก่อนก็เอาไปมาก พวกมาทีหลัง เช่น แมงป่อง กับ มด ได้พิษน้อย แค่เอาหาง เอากันไปป้ายเศษพิษ จำพวกนี้จึงมีพิษน้อย และพญานาคต้องคายพิษทุก 15 วัน

    พญานาค อาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพเทวาอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก ก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ที่ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารไม่แพ้สวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อน ๆ กัน ชั้นสูง ๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์

    พญานาค สามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว 3, 5 และ 7 เศียร สามารถขึ้นลง ตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลก จนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขั้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้น ๆ

    จะเห็นว่า พญานาค หรือ งูใหญ่ นั้นมีความเป็นมาและถิ่นที่อยู่เป็นสัดส่วนในภพหนึ่งต่างหาก จะมีเป็นบางครั้งที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ พญานาค เป็นทั้งเอกลักษณ์ของความดี และความไม่ดี

Cr.Garuda Thailand,ไทยรัฐ

ไทยผู้นำพลังงานโซล่าเซลล์ในอาเซียน

ไทยผู้นำพลังงานแสงอาทิตย์


สหรัฐฯ เชิญหญิงไทยหนึ่งเดียวของเอเชีย ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ในฐานะผู้บุกเบิกผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของอาเซียน ระบุไทยคือผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนด้านการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ ช่วยให้ประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืน

ที่งาน THE INTERNATIONAL ECONOMIC FORUM OF AMERICAS ได้เชิญตัวแทนผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เอเชีย โดยปีนี้ประเทศสหรัฐฯ ได้คัดเลือกให้ นางวันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด เป็นตัวแทน ซึ่งถือเป็นหญิงไทยคนเดียวของเอเชียที่ถูกเชิญให้ขึ้นเวทีนี้ ในฐานะผู้บุกเบิกการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เชิงธุรกิจคนแรกของอาเซียน จนได้รับการยกย่องให้เข้ารับรางวัลจากองค์การสหประชาชาติ หรือ "ยูเอ็น" โดยมี Ms.Marie Jose Nadeau ประธานสภาพลังงานโลก และ Mr.Aziz Mahamat รมต.กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวสาธารณรัฐชาด ร่วมพูดคุยด้วย

ทั้งนี้ น.ส.วันดี ได้ขึ้นพูดในหัวข้อ การกำหนดรูปแบบ การผลิต การใช้พลังงานในโลกที่กำลังพัฒนา บทบาทของพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในประเทศที่กำลังพัฒนา การจัดหาพลังงานเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ และความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การเสริมสร้างความมั่นคงด้วยไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แก่ประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน และแนวทางการสนับสนุนของสถาบันการเงิน ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อขยายโอกาสในอนาคตในกลุ่มประเทศอาเซียน


"ทิศทางของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในอนาคตเพื่อการพัฒนาประเทศ จะมีมากขึ้น โดยมองว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ประชากรของโลกจาก 7 พันล้าน จะเพิ่มเป็น 9 พันล้านคน ความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า พลังงานที่เหลือจะไม่เพียงพอ จึงต้องนำพลังงานทดแทนมาใช้ ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้พลังงานทดแทนอย่างแสงอาทิตย์ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันจะเหลือน้อยลงตามลำดับ แต่ความต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจำนวนประชากรไทยเพิ่มขึ้น พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นพลังงานทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม" นางวันดี กล่าวบนเวที

โคมไฟพลังแสงอาทิตย์


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้ส่งเสริม และสนับสนุนให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ ทั้งโซลาร์ฟาร์ม และโซลาร์รูฟ เช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลกรัฐบาลให้การสนับสนุน สำหรับไทยขณะนี้ถือว่าเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนด้านการนำพลังงานหมุน เวียนมาใช้ แม้ในอนาคตพลังงานจะขาดแคลน แต่ด้วยศักยภาพของพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีอยู่จำนวนมหาศาล จะช่วยให้ไทยมีความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน.

Cr.ไทยรัฐ

22 เม.ย. 2558

"เทา-EXO" ขอฉีกสัญญากับ SM Ent.

"เทา-EXO" ขอฉีกสัญญากับ SM Ent.


 ข่าวที่ว่า “เทา” แห่งวง EXO จะยกเลิกสัญญากับ SM Ent. กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อพ่อของเขาได้โพสต์ข้อความผ่าน Weibo ว่าเขารู้สึกทรมานใจมาก ที่เห็นลูกต้องทนทุกข์ทรมาน จากปัญหาสุขภาพ จนต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
      
       กลายเป็นเรื่องขึ้นมาทันทีเมื่อพ่อของไอดอลหนุ่มชาวจีน เทา หรือ หวงจื่อเทา แห่งวงบอยแบนด์ชื่อดังแห่งเกาหลีใต้ EXO ได้เขียนข้อความผ่านบล็อก Weibo เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของลูกที่หนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างที่อาจทำให้หลายๆ ฝ่ายต้องเสียใจ โดยข้อความยาวเหยียดที่พ่อของไอดอลหนุ่มชื่อดังโพสต์ลงโลกออนไลน์มีใจความบางส่วนว่า “ผมรู้ว่าการตัดสินใจของผมอาจทำให้หลายๆ คนต้องเจ็บปวด เช่นเดียวกับลูกชายของผมเอง”
      
       “ถ้าต้องเลือกระหว่างให้ลูกชายเป็นดาราที่เกาหลีใต้ต่อไป กับสุขภาพและชีวิตที่สงบสุขของเขา ผมก็ขอเลือกสุขภาพความเป็นอยู่แบบไม่ต้องลังเลอะไรเลย … หลัง เทา ได้รับบาดเจ็บ ผมก็พาเขากลับไปรักษาที่เมืองจีน ซึ่งปัญหาอาการบาดเจ็บของเทาถือว่าร้ายแรงมาก ในฐานะพ่อผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นๆ อีก”
“เทา” หอบสังขารพร้อมไม้ค้ำเข้าร้านยาด้วยตัวเอง
     
       โดยเขายังได้กล่าวสรุปว่า “ผมขอโทษจริงๆ และขอขอบคุณบริษัท กับสมาชิกของ EXO รู้สึกขอบคุณบริษัทที่ดูแล เทา มาถึงตอนนี้ และรู้สึกเสียใจแทนแฟนๆ ของ เทา รวมถึงแฟนๆ ของ EXO ทุกคน”
      
       ก่อนหน้านี้มีข่าวลืออย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. ว่า เทา อาจจะขอเลิกสัญญากับ SM Entertainment และถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของ EXO ต่อจาก คริส และ ลู่หาน ที่ถอนตัวจากวงพร้อมขอยกเลิกสัญญากับต้นสังกัดไปแล้ว ซึ่งในตอนนั้นทาง SM Entertainment ได้ปฏิเสธข่าวพร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีมูลความเป็นจริงเลย

Cr.ผู้จัดการ

วันคุ้มครองโลก (Earth Day)



วันคุ้มครองโลก (Earth Day) ตรงกับวันที่ 22 เมษายน ของทุกปี  วันคุ้มครองโลกถือเป็นวันสำคัญที่ทำให้มนุษย์ทุกคนเห็นคุณค่าและใส่ใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ ที่หันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของโลกมากขึ้น

โดยเริ่มต้นเป็นที่แรกในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากประชาชนชาวอเมริกันกว่า 20 ล้านคนที่ส่วนมากเป็นวัยหนุ่มสาว ผู้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม ได้พร้อมใจกันมาชุมนุมประท้วง เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาการเพิ่มขึ้นของมลภาวะ และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของโลก อย่างจริงจัง
ผลจากการชุมนุมดังกล่าวก่อให้เกิดการออกกฏหมายแก้ไขมลพิษในอากาศของสหรัฐ อเมริกา และมีการจัดตั้งสำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติขึ้น รวมถึงในระดับโลกก็ได้มีการผลักดันวาระดังกล่าวจากโครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ (United Nations Environment Program หรือ UNEP) จนในที่สุด จึงมีการกำหนดให้วันที่ 22 เมษายน ของทุกปีเป็นวันคุ้มครองโลก นับตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2513 เป็นต้นมา

Cr.Eduzone Post, JobThai

ฝรั่งชอบไทย ความลับ?



Luke
ฝรั่งชอบ ไม่ชอบ อะไรในประเทศไทย ?
อยากรู้ ความลับไหมครับ ผมไม่ชอบเดินทาง ไม่ชอบลุย ไม่ชอบสมบุกสมบัน ถึงจะไปนอนพักโรงแรมหรูหรา ผมก็ไม่ค่อยอิน ผมชอบอยู่บ้าน ผมชอบนอนเล่นอ่านหนังสือ ถ้าจะออกไปข้างนอก ชอบไปโรงหนังครับ

ถ้าอย่างนั้น เพราะอะไรผมถึงเป็นพิธีกรรายการฝรั่งป๊อกป๊อกถึงสี่ปี เพื่อเดินทางไปทำรายการทั่วประเทศเส้นทางที่จะกลายเป็นพิธีกรเป็นเส้นทางแห่งความบังเอิญ
อยู่ๆ เพื่อนก็บอกว่ามีบริษัทหนึ่งกำลังหาคนเป็นพิธีกร ผมก็คิดในใจว่าน่าจะเป็นงานที่สนุก ตอนไปคุยกับบริษัทโปรดักชัน เขาถามว่าชอบเดินทางหรือเปล่า ผมก็โกหกว่าชอบ หลังจากนั้นไม่นาน เราก็เตรียมออกกอง

คนมักจะคิดว่าการทำงานทีวีเป็นงานไฮโซ เป็นงานที่มีงบเยอะ งานสบาย จะได้เป็นคนดัง เดินห้างจะมีคนขอลายเซ็น ผมจะบอกว่า มันไม่ใช่เลย รายการนี้ทีมงานเริ่มถ่ายทำตั้งแต่นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยฯ หรือรถทัวร์ที่เอกมัย พวกเรานอนกับชาวบ้าน บางครั้งไม่มีนำ้ประปา ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีบท script พวกเราทุ่มสุดตัวกันเต็มที่

สำหรับผมที่ไม่ชอบสมบุกสมบัน ขอยอมรับว่าเป็นงานที่สนุกมาก เป็นประสบการณ์ที่พิเศษมากทำให้เข้าใจประเทศไทยบ้านหลังที่สองของผมมากขึ้น
ชาว ต่างชาติในเมืองไทยหลายๆ คนมีชีวิตในวงโคจรของความคุ้นเคย อย่าง สุขุมวิท สีลม สาทร ข้าวสาร หรือต่างจังหวัดอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ เป็นเส้นทางที่เดินทางสะดวก ไม่ต้องใช้ภาษาไทย น่าสนุกและน่าสนใจ แต่คนที่เดินแค่เส้นทางนี้จะเข้าใจเมืองไทยแค่นั้น จะเห็นภาพไม่ครบ
คงเป็นความต้องการของเมืองไทยมั้ง ที่ผลักดันให้ฝรั่งคนที่ไม่ชอบเดินทางคนนี้ตัดสินใจแบกเป้แล้วนั่งรถขึ้นเหนือล่องใต้ 

ถ่ายทำรายการ ฝรั่งป๊อกป๊อก


ทริปแรก เราไปสมุทรสงคราม ใกล้ๆ บ้าน ถ้านั่งรถคงใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง แต่เราอยากได้อารมณ์ลุยๆ ก็เลยนั่งบีทีเอส แล้วรถไฟชั้น 3 แล้วเปลี่ยนไปต่อรถไฟอีก สุดท้ายต่อซาเล้งและเรือจนถึงโฮมสเตย์ แทนที่จะใช้เวลาสองชั่วโมงเราใช้เวลาไปทั้งวัน แม้การเดินทางจะลำบากแต่มันคุ้มมาก โฮมสเตย์นี้คนในแถบนี้เรียก "โฮมกระเตง" ตั้งอยู่กลางทะเล ตอนแรกเป็นส่วนหนึ่งของฟาร์มหอยหลอดแล้วเจ้าของขยายธุรกิจเพื่อจะได้มีราย ได้ตลอดปี ตอนดูแลฟาร์มจะไม่ค่อยมีงานทำช่วงที่หอยกำลังโต 11 เดือนจะต้องเฝ้าเพื่อป้องกันขโมย จากนั้นหนึ่งเดือนจึงเก็บไปขาย ซึ่งจุดที่ใช้นั่งเฝ้าหอย ถูกสร้างให้มีพื้นที่สำหรับนอนพัก และผมก็ได้เป็นคนแขกไปนอนอยู่กลางทะเลใกล้กรุงเทพฯ ด้วย

กลาง ทะเลตอนกลางคืน เป็นโอกาสให้ผมไดเ้เข้าถึงความเงียบ ซึ่งยากที่จะได้ในกรุงเทพฯ ชีวิตในเมืองเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยแสงสีตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ผมลืมธรรมชาติของโลกไปแล้ว ความเงียบจากธรรมชาตินั้นซึมเข้าไปข้างในตัวผม แล้วมันก็ง่ายขึ้นที่จะให้ผมหยุดคิดเรื่องต่างๆ สักพัก

บ้านที่ผมโตมาที่อเมริกาอยู่ที่ภูเขา มีต้นไม้เยอะ แต่คนน้อย ตอนเด็กผมสนุกกับการเดินป่า สนุกกับการนอนเล่นกลางพื้นหญ้า แต่พอโตมา เริ่มรู้สึกว่าอยากเปิดหูเปิดตา ไปที่มีคนเยอะ แหล่งแฟชั่น อาหารจากทั่วโลก มีผู้ชายหน้าตาดีเยอะ อยากไปที่ที่ฮิปๆ และผมก็ได้ไปอยู่เมืองใหญ่ทั่วโลกมาแล้ว ซึ่งแต่ละที่ถ้ายิ่งมีคนเยอะ ก็ยิ่งมีต้นไม้น้อยลง พอผมมาอยู่กรุงเทพฯ เมืองที่แทบจะปราศจากสีเขียว ถึงแม้เป็นเมืองที่ไม่เขียวชอุ่มเหมือนบ้านเกิด แต่ผมรู้สึกว่ากรุงเทพฯ คือบ้าน ... แต่ผมยังต้องขอเข้าป่าเข้าเขาเพื่อไป charge แบตบ้าง

ทริปที่ไปหาคนชาวเขาบนดอยผ้าห่มปก เป็นทริปหน้าหนาว ซึ่งถ้าเทียบกับหน้าหนาวของอเมริกา ดอยผ้าห่มปกก็ไม่ได้ทรมานมาก แต่ที่อเมริกาเรามี heater ดีๆ และบ้านออกแบบมาเพื่อเก็บความอุ่นได้ แต่บนดอยมีแต่ฟืน และถ้าอยากจะเก็บความอุ่นให้ได้ ต้องใส่เสื้อผ้าเยอะ ซึ่งผมก็ใส่หลายชั้น ผมใส่สื้อผ้าซ้อนกันทั้งหมดที่เอาไป แล้วไม่ได้ถอดเลยครับ สามวันที่อยู่บนดอยเป็น 3 วันที่ไม่ได้อาบนำ้ เป็น 3 วันที่ไม่กล้าให้เนื้อโดนน้ำเย็น ผมก็ชั่งน้ำนักระหว่างทรมานเพราะตัวเหม็นหรือทรมานเพราะอาบน้ำหนาวๆ ผมเลือกมีกลิ่นตัวครับ ไม่รู้ว่าทีมงานไม่ได้สังเกตหรือพวกเขาแค่เกรงใจแล้วไม่กล้าบ่น แต่พอลงจากดอย พวกเขารีบเปิดโรงแรมเพื่อให้ผมได้อาบน้ำด่วน

คน บนดอยเป็นชาวเขา พูดภาษาชาวเขากันเอง สามารถพูดภาษาไทยได้บ้างแต่ไม่คล่อง มัคคุเทศก์ของเราเป็นชาวเขาเหมือนกันพูดไทยได้เลยขอให้มาเป็นล่ามให้พวกเรา ผมฟังภาษาเขาไม่ออกเลย แต่จะคอยฟังและพยายามเข้าใจบางคำศัพท์ที่หยิบยืมจากภาษไทยมา ภาษาไทยรับทับศัพท์จากภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ แล้วภาษาชาวเขาก็ทับศัพท์จากภาษาไทยอีกที ซึ่งก็ make sense เพราะภาษาของเขาเก่าแล้วศัพท์จะไม่ค่อยมี

อย่างตอนผมได้ยินเขาพูด “!??@#$%$#$%$#@# รายการ @#$%$#@!@#$” ผมจะเข้าใจว่า กำลังพูดถึงการถ่ายทำรายการ แต่หลังจากนั้นผมได้ยินประมาณว่า “@#$%$#@!@#$ วันจันทร์ วันอังคาร @#$%$#@!@#$” ซึ่งทำให้ผมงง ผมเคยคิดเองว่าทุกภาษาในโลกน่าจะมีคำศัพท์สำหรับวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ของ แต่ละภาษา แต่พอถามพี่ล่าม เขามองผมเหมือนถามอะไรประหลาด แล้วตอบว่า ภาษาชาวเขาจะใช้กันแค่ “ปีนี้ เดือนหน้า วันหลัง” เพื่อบอกวันเวลา แต่ถ้าต้องเจาะจงกว่านั้นต้องใช้ภาษาไทย 


ทำรายการผ่านไปสักสองปี ทีมงานบอกว่าจะไปถ่ายที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งถามว่าผมกลัวไหม ผมกลัว แต่ถ้าถามว่าสนใจไปดูไหม ผมสนมาก ถึงจะออกเดินทางไปหลายที่แล้ว แต่ผมก็ยังเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเดินทาง แต่กลับเริ่มสนุกกับประสบการณ์ที่ได้จากรายการ เริ่มประทับใจมากขึ้นกับทุกซอกทุกมุมของประเทศไทย ... และผมจะได้เห็นคนลุยไฟในเทศกาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเป็นครั้งแรกในชีวิต
ขณะเตรียมออกกองทีมงานบอกว่าเราจะนั่งรถเก๋งลงใต้ บอกว่าเพื่อนตากล้องมีรถคันใหญ่และกำลังลงไปพอดี ให้เราไปเป็นเพื่อนได้ แต่ที่เขาไม่ได้บอกคือแฟนคนขับจะไปด้วย ถึงแม้รถจะใหญ่แต่ก็ใหญ่ไม่พอสำหรับ คนขับ แฟนเขา ทีมงานร่างท้วมสามคน พิธีกรหนึ่งคนและอุปกรณ์เยอะมาก 14 ชั่วโมงที่เราขับลงใต้ครั้งนั้น ทำให้ผมเห็นคุณค่าการฝึกโยคะอย่างชัดเจน ไม่เคยนั่งในที่เล็กขนาดนั้น นานขนาดนั้น ร่วมกับคนเยอะขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้แย่เท่าที่คิด พอถึงปัตตานีก็เจอคนท้องถิ่นแสดงความดีใจกันใหญ่ เพราะมีคนแปลกหน้าต่างถิ่นมาเยี่ยมเมืองเขา

เทศกาลเดินลุยไฟ ที่คนต้องเดินลุยไปบนไฟที่สูงขึ้นมาถึงหน้าอก เป็นไฟที่ผมคิดว่า คนที่โดนจะต้องตายแน่ๆ และผมอยู่ใกล้กับเขาขนาดที่สามารถได้กลิ่นขนไหม้ตอนเดินออกมา และใกล้ขนาดที่จะเห็นว่า ไม่มีใครบาดเจ็บเลย

จริงๆ แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่า มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์อะไรที่ทำให้เขาไม่ถูกไฟไหม้ หรือเป็นเพราะเขาศรัทธาในเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว แต่ผมว่านั่นไม่สำคัญครับ ผมไม่ได้ไปเพราะอยากพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่จริง แต่ไปเพราะอยากเข้าใจคนที่เดินลุยไฟ อยากเข้าใจว่าเมืองปัตตานีที่ทุกคนบอกว่าอันตราย เป็นอย่างไร ผมอยากจะเห็นว่าพี่น้องกลุ่มนี้เป็นอย่างไร

 ตลอดสี่ปีที่พวกเราถ่ายรายการ ฝรั่งป๊อกป๊อก ผมได้เที่ยวทั่วไทย ผมได้นอนบ้านชาวบ้านจากทุกภูมิภาคและได้เห็นว่าประเทศที่เรียกว่าบ้านเป็น อย่างไร ผมได้ประสบการณ์พิเศษที่คนน้อยมากจะได้ แล้วถ้าจะถามว่า ผมเปลี่ยนเป็นคนชอบเดินทางไหม คงต้องตอบว่าไม่ ว่างๆ ยังชอบอยู่บ้าน ชอบชิลๆ แต่ถ้าถามว่ายังอยากกลับไปถ่ายรายการต่อไหม ผมตอบว่า แน่นอนครับ อยากไปทุกจังหวัด อยากได้ยินทุกภาษา อยากเข้าใจประเทศไทยให้มากขึ้นอีกครับ
Cr.Pinicly

21 เม.ย. 2558

เณรน้อย 8 ขวบ สุดยอด !!! (คลิป)


สามเณรธงไทย อายุ 8 ขวบ ท่องบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรได้




สามเณรน้อยวัยแค่ 8 ขวบที่ จ.ตรัง สามารถท่องบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ความยาวร่วม 20 นาที ได้อย่างคล่องแคล่ว เผยท่องพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ได้ตั้งแต่ 5 ขวบ ท่องแล้วมีสมาธิดีจนสอบได้ที่ 1 บอกจะบวชเรียนอยู่ในพระพุทธศาสนาต่อไป...

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางอุษณีย์ อรุณเวลา อาสาสมัคร พุทธศาสตร์สากล จ.ตรัง ว่ามีสามเณรมาบวชเรียนภาคฤดูร้อนช่วงปิดเทอมที่ศูนย์อบรมสามเณรฟื้นฟูพระ พุทธศาสนาทั่วไทย โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง สามารถท่องบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ได้อย่างคล่องแคล่ว จึงเดินทางไปพิสูจน์
สามเณรน้อยของ ศูนย์อบรมสามเณรฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั่วไทย  จ.ตรัง

พบสามเณร 5 รูป วัยไล่เลี่ยกัน และนางอุษณีย์ อรุณเวลา อาสาสมัคร พุทธศาสตร์ฯ โดยนางอุษณีย์ เปิดเผยว่าศูนย์อบรมสามเณรฟื้นฟูพระพุทธศาสนาทั่วไทย โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เป็นสถานที่บวชเรียนภาคฤดูร้อน ช่วงปิดเทอม ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม-23 เมษายน 2558 โดยมีสามเณรทั้งหมด 129 รูป และมีสามเณรรูปหนึ่งคือสามเณรธงไทย หรือเชน รามเดช อายุ 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนวัดกาญจนบริรักษ์ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง มีความสามารถพิเศษ สามารถท่องบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ที่มีความยาวกว่า 20 นาที โดยไม่ดูหนังสือได้อย่างคล่องแคล่ว แม่นยำ และท่องบทสวดพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ ได้ตอนอายุ 5 ขวบ ตั้งแต่อ่านหนังสือไม่ออกด้วยซ้ำ
สามเณรได้พระอาจารย์ณรงเดช มหาเตโช พระวัดกาญจนบริรักษ์ เป็นผู้ฝึกสอน

นางอุษณีย์ กล่าวอีกว่า สามเณรธงไทย หรือสามเณรเชน ได้ท่องบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ถวายพระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง จ.ตรัง และพระราชวรากร เจ้าคณะจังหวัดตรัง จากนั้นได้ให้สามเณรธงไทย เป็นผู้นำสามเณรที่มาบวชภาคฤดูร้อน ท่องบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ซึ่งมีความยาวประมาณ 20 นาที ให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วย

ขณะที่ สามเณรเชน เผยว่า มีความสนใจเกี่ยวกับบทสวดมนต์มาตั้งแต่ยังเล็กๆ อายุเพียงแค่ 5 ขวบ เคยบวชเณรมาแล้ว 1 ครั้ง สามารถสวดบทพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ได้จนหมด และตอน 7 ขวบก็สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรได้ โดยมีพระอาจารย์ณรงเดช มหาเตโช พระวัดกาญจนบริรักษ์เป็นผู้ฝึกสอน และจากที่ได้หัดสวดมนต์ทำให้มีสมาธิขึ้น ความจำดีขึ้น จนสามารถสอบได้ที่ 1 ของชั้นเรียน และจะบวชเณรต่อไป เมื่อโรงเรียนเปิดก็จะไปเรียนโดยห่มจีวรไปเรียน มุ่งศึกษาทางศาสนาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สามเณรเชนวัย 8 ขวบ มีหน้าตาที่น่ารัก หัวโต ส่อถึงความเป็นเด็กฉลาด มีความจำดี ซึ่งบรรดาญาติโยมเมื่อรู้ว่า เฌรจะบวชเรียนอยู่ในพระพุทธศาสนาต่อไป ต่างก็ยกมือสาธุ.



Cr.ผู้จัดการ, ไทยรัฐ

20 เม.ย. 2558

ผีกองกอย ศรีสะเกษ ?

ผีกองกอย ศรีสะเกษ ?


จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพสิ่งมีชีวิตประหลาดชนิดหนึ่ง ระบุว่าเป็น "ผีกองกอย" ที่ถูกพบที่จังหวัดศรีสะเกษ จนสร้างกระแสฮือฮา และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกโซเชียลนั้น จากการตรวจสอบพบว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพของหมีหมา ซึ่งป่วยและขนร่วงที่ประเทศมาเลเซียเท่านั้น ไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดหรือผีกองกอยแต่อย่างใด

โดย "หมีหมา" ซึ่งเป็นหมีชนิดหนึ่ง ได้ล้มป่วย และถูกจับได้ที่สวนปาล์มน้ำมันที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อต้นเดือนเมษายน แต่ทั้งนี้หมีหมาตัวนี้ถูกค้นพบตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้ว โดยคนงานในสวนปาล์มแห่งหนึ่งของรัฐซาราวักได้พบหมีหมาตัวนี้ระหว่างทางไปทำงาน ซึ่งสร้างความตกใจให้แก่คนงานเป็นอย่างมาก เพราะหมีหมาตัวนี้มีลักษณะไม่ปกติ แม้ว่าจะคล้ายลิงหรือสุนัข แต่ไม่มีขน ทำให้ดูเหมือนสัตว์ประหลาด

กลุ่มคนงานจึงใช้ไม้ไล่เข้าไปในป่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ออกตามหาสัตว์ตัวดังกล่าว ก่อนจะมีผู้ค้นพบหมีหมาตัวนี้อีกครั้งที่บริเวณเดิม จึงจับไว้ได้เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่จะได้ส่งหมีหมาที่ป่วยตัวนี้ไปรักษาที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าเมืองกูชิงเพื่อทำการรักษาต่อไป

หมีหมา (Sun Bear) เป็นหมีที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่มีความยาวประมาณ 120-150 ซม. หนัก 27-80 กก. ตามปกติมีขนตามตัวสั้นสีดำปนน้ำตาล ปีนต้นไม้เก่ง มีนิสัยดุร้ายมาก โมโหง่าย บางครั้งร้องเสียงเหมือนหมาเห่าจึงถูกเรียกว่า หมีหมา พบในแถบประเทศจีน พม่า บังกลาเทศ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีจำนวนน้อยใกล้สูญพันธุ์ หมีหมาจัดเป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสัตว์สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
Cr.Sanook News

คลิป รื้อถอน “สวนผึ้งรีสอร์ท”

คลิป รื้อถอน “สวนผึ้งรีสอร์ท”


เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 20 เม.ย. ร.อ.มาโนช พัดชา หัวหน้าชุดลาดตระเวนกรมการทหารช่าง ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณ “สวนผึ้งรีสอร์ท” ซึ่งสร้างอยู่บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ และเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่สุดใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยมี พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล อดีต ผกก.ตม.สมุทรสาคร และ นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล เป็นเจ้าของ ทั้งนี้หลังจากทางผู้ประกอบการได้เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีทั้งบ้านพักรูปการ์ตูน และรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ตลอดจนสวนสนุกจำนวนมาก 

เนื่องจากถูกยกเลิกสัญญาเช่าจากทางกรมธนารักษ์ โดยสาเหตุมาจากมีการตรวจสอบพื้นที่ด้านหลังรีสอร์ทที่ติดกับภูเขาจำนวนกว่า 10 ไร่ ซึ่งไม่ได้มีการให้เช่า แต่พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่เข้าไป  พร้อมทั้งมีชาวบ้านร้องเรียนว่าที่บริเวณรีสอร์ทแห่งนี้ทำการสร้างฝายกั้นน้ำไว้สูงเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในรีสอร์ทของตนเอง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางน้ำ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค จนมีการดำเนินคดีกระทั่งทางผู้ประกอบการได้ขึ้นป้ายปิดกิจการ

และทางกรมธนารักษ์ได้ทำการยกเลิกสัญญาเช่าทั้งหมด เพราะทำผิดเงื่อนไข และสั่งให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดภายใน 90 วัน  พร้อมทั้งให้ทำการปรับพื้นที่ให้คงสภาพเดิม โดยการปลูกต้นไม้ทดแทน ซึ่งวันนี้ได้มีการรื้อถอนอย่างต่อเนื่อง เป็นการปิดตำนาน “สวนผึ้งรีสอร์ท” รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุด ของ อ.สวนผึ้ง   




Cr.ข่าวสด, ไทยพีบีเอส

19 เม.ย. 2558

นางแบบไทย-นอร์เวย์ : คริสซี่ เทเกน

นางแบบไทย-นอร์เวย์ : คริสซี่ เทเกน
      นางแบบลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ภรรยาของนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง ดีกรี รางวัลออสการ์ ล่าสุด 'จอห์น เลเจนด์' โพสต์ภาพขามีรอยช้ำลงบนอินสตาแกรม

       เว็บไซต์ 7/7 ของเบลเยียมรายงานภาพข่าวของนางแบบสาวชื่อดัง คริสซี่ เทเกน ลูกครึ่งไทย นอร์เวย์ วัย 29 ปี บนอินสตาแกรมของเธอ เป็นภาพของน่องเธอที่รอยช้ำ เธอเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเมื่อถ่ายภาพลงนิตยสาร Sports Illustrated Swimsuit ประจำปี 2010 นอกจากนั้น เธอยังเป็นภรรยาของนักร้องและนักแต่งเพลงรางวัลออสการ์ ล่าสุด จอห์น เลเจนด์ ที่แต่งเพลง All of Me ให้กับเธอเป็นการเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม เธอยังสาวและสวยมาก นอกจากนั้น เธอก็มีจุดด้อยเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วไป จากภาพของเธอที่เธอโพสต์ลงบนอินสตาแกรม เป็นภาพน่องที่มีรอยฟกช้ำ เป็นการแสดงถึงความเป็นคนเหมือนกับคนธรรมดาอื่นๆ และได้รับความชื่นชมจากผู้ติดตามอินสตาแกรมของเธอจำนวนกว่า 19 ล้านคน ขอยกย่องเธออย่างจริงใจ.


สร้างความฮือฮาไม่น้อยสำหรับนางแบบสาว “คริสซี ไทเกน” ภรรยาของเจ้าของรางวัลออสการ์ “จอห์น ลีเจนด์” ที่กล่าวทักทายพิธีกรของช่อง HBO ASIA อย่าง “อั๊ต อัษฎา” เป็นภาษาไทย ก็เพราะเธอคนนี้เป็นลูกครึ่งไทยนี่เอง

คริสซี่ เทเกน ลูกครึ่งไทย นอร์เวย์  เป็นภาพของน่องเธอที่รอยช้ำ
      
       ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวไทยขึ้นมาทันที เมื่อ คริสซี ไทเกน ได้เอ่ยปากทักทายเป็นภาษาไทยระหว่างร่วมเดินพรมแดงงานออสการ์เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่เธอมาร่วมลุ้นการชิงรางวัลของสามี ซึ่งสุดท้าย จอห์น ลีเจนด์ ก็ได้ออสการ์สาขาเพลงประกอบหนังยอดเยี่ยมไปครองตามความคาดหมาย
      
       คริสซี ไทเกน เกิดที่เมือง เดลตา รัฐยูทาห์ โดยมีพ่อเป็นคนเชื้อสายนอร์เวย์ ส่วนแม่เป็นคนไทย โดยในวัยเด็กเธอต้องย้ายบ้านเพราะเรื่องง่านของพ่อ ซึ่งเป็นช่างไฟฟ้าอยู่บ่อยครั้งมาก เคยอาศัยอยู่ทั้งที่ ฮาวาย, ไอดาโฮ, วอชิงตัน และซีแอตเทิล มาแล้ว ก่อนที่ครอบครัวจะไปตั้งรกรากอยู่ที่ ฮัตทิงตัน บีช แคลิฟอร์เนีย ตอนที่ ไทเกน เริ่มเป็นวัยรุ่นแล้ว ซึ่งที่นั่นเองที่ความสวยแบบผสมผสานของเธอไปเตะตาตากล้องเข้า ระหว่างทำงานอยู่ที่ร้านเซิร์ฟ จนได้มีโอกาสรับงานในวงการบันเทิง
      
       สาวสวยเชื้อสายไทยเริ่มรับงานนางแบบภายใต้เอเยนซี IMG Models ที่นิวยอร์ก ก่อนจะได้เป็น IGN Babe ในปี 2004 และยังได้เป็นนางแบบตัวเสริมของรายการเกมโชว์ยอดฮิต Deal or No Deal ระหว่างปี 2006 – 2007 ด้วย ก่อนที่ในปี 2007 จะได้ถ่ายปฏิทินของ Maxim หลังจากนั้นจึงมีงานเข้ามอย่ามากมาย โดยเฉพาะงานถ่ายโฆษณาไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Gillette Venus, Olay, Nike, Skullcandy headphones, Gap Factory, XOXO, UGG Australia, Rock and Republic, Billabong และ Beach Bunny เป็นต้น
      
       นอกจากงานในฐานะนางแบบแล้ว คริสซี ไทเกน ยังได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรของทั้ง E!, TMZ, MTV, FUSE/MSG และรายการ Extra with Mario Lopez นอกจากนั้นก็ยังได้ปรากฏตัวในรายการ America's Next Top Model กับ Watch What Happens Live รวมถึงเป็นรับหน้าที่ดำเนินรายการเรียลลิตี้ Model Employee ทางช่อง VH1 ด้วย
      

       แต่งานที่เรียกได้ว่าสร้างชื่อให้กับ ไทเกน มากที่สุดก็คือการได้ร่วมถ่ายนิตยสาร Sports Illustrated ในฉบับชุดว่ายน้ำเมื่อปี 2010 จนได้รับตำแหน่งเป็นนางแบบดาวรุ่งแห่งปีมาครอง หลังจากนั้นจึงได้ถ่ายถ่ายกับนิตยสารฉบับนี้มาเรื่อยๆ ทั้งในปี 2011, 2012, 2013 จนถึงฉบับปี 2014 ที่เป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีของ Sports Illustrated ด้วย
      
       ตอนนี้สาว คริสซี ไทเกน ได้ชื่อว่าเป็นนางแบบสุดฮ็อตคนหนึ่งของวงการ นอกจากนั้นก็ยังมีงานแสดงออกมาให้ชมกันด้วย แต่สิ่งที่ทำให้เธอได้รับความสนใจมากที่สุดในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องความรักกับศิลปินเจ้าของรางวัลออสการ์ จอห์น ลีเจนด์ ที่แต่งงานกันไปเมื่อปี 2013 หลังคบหาดูใจกันมาได้ 4 ปี

Cr.ไทยรัฐ

คลิป เดอะสตาร์ 11 สุดยอด !

นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ของเวทีเดอะสตาร์จากทั้งหมด 11 ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ที่ในปีนี้เหลือผู้หญิง 3 คนสุดท้าย ของเวทีเดอะสตาร์ เป็นโชว์ชุดพิเศษ 15 นาที ของ 3 คนสุดท้ายจากเวทีเดอะสตาร์ ซึ่งคนที่เหลือเข้ารอบ 3 คนสุดท้ายนั้น   เป็นผู้หญิงทั้งหมด ได้แก่

  เกรซ หมายเลข 7,
  มาตัง หมายเลข 5
  และ หญิง หมายเลข 6    

เมื่อเทียบกับเดอะสตาร์ปีที่ 6 ที่เหลือผู้ชาย 3 คนสุดท้าย อยู่บนเวที ได้แก่ โตโน่, ริท และ กัน
ในฐานะรุ่นพี่จากเวทีเดอะสตาร์ โตโน่ ริท และกัน ก็มาร่วมเป็น 100 เสียงในห้องส่งอีกด้วย งานนี้ทำเอาแฟนๆ ฟินตามกันไปทีเดียว   เมื่อแก๊งอสรพิษได้คัมแบ็กอีกครั้ง     หลังจากแต่ละคนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

โตโน่ไปเล่นละคร และมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง 
กันไปเล่นละครเวที และออกอัลบั้มเดี่ยวพร้อมทั้งเป็นพิธีกรรายการ 4 โพดำ 
ส่วนริทน้องเล็กสุดท้องกลับไปเรียนหมอให้จบ และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงฝึกงาน 

ซึ่งนานๆ ทีจะได้เห็นทั้ง 3 ศรีพี่น้อง โตโน่ ริท กัน ออกงานร่วมกัน ทำเอาเหล่าบรรดาแฟนคลับแก๊งอสรพิษทั้งหลายฟินไปตามๆ กัน และพร้อมใจติดแท็ก #อสรพิษคัมแบ็ก ในทวิตเตอร์จนติดเทรนด์ไปแล้ว ณ ขณะนี้.
กลับมาฟังจองพลังของ เดอะสตาร์11 ทั้ง 3 คน กันนะค่ะ











Cr.ไทยรัฐ,กล่อง Android

18 เม.ย. 2558

คูปองดิจิตอลแลกกล่องไฮบริดได้

คูปองดิจิตอลแลกกล่องไฮบริดได้


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช.ได้รับอนุมัติจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้เพิ่มเงื่อนไขการใช้คูปองทีวีดิจิตอลให้นำไปแลกกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือ เซ็ตท็อปบ็อกซ์ แบบไฮบริด เช่น กล่องดาวเทียม กล่อง Android ที่สามารถรับชมได้ทั้งสัญญาณทีวีดิจิตอล หรือ ดีวีบี-ทีทู และทีวีดาวเทียม หรือ ดีวีบี-เอสทู ได้ แต่ต้องใช้เวลาตรวจสอบมาตรฐาน และออกใบอนุญาต กล่องรับสัญญาณไฮบริดที่มีอยู่ 1 หมื่น 6,000 กล่อง โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในพฤษภาคมนี้ จึงจะให้เปิดให้ประชาชนนำคูปองไปใช้สิทธิได้

พร้อมทั้งขยายขยายระยะเวลาสิ้นสุดอายุของคูปองทีวีดิจิตอลกลุ่มแรก ที่จะหมดอายุในเดือนพฤษภาษคมนี้ ออกไปอีก 2 เดือน เพื่อเป็นทางเลือกของประชาชนที่จะนำคูปองไปแลกกล่องรับชมทีวีดิจิตอล ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ 3 แบบ คือ เป็นส่วนลดทีวีดิจิตอล แลก หรือ เป็นส่วนลดกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ และส่วนลดกล่องไฮบริด ส่วนประชาชนที่นำคูปองแลกไปแลกเซ็ตท็อปบ็อกมูลค่า 690 บาท ก็สามารถรับชมทีวีดิจิตอลได้อยู่แล้ว และจะไม่ทำให้ประชาชนได้รับสิทธิ์แตกต่างกัน

ล่าสุดมียอดการใช้คูปองทีวีดิจิตอลแล้ว 4 ล้าน 1 แสนฉบับ จากยอดแจกทั้งหมด 8 ล้าน 3 แสนฉบับ

Cr.ไทยรัฐ

ออกกฎหมาย ห้ามนางแบบผอม

ออกกฎหมาย ห้ามนางแบบผอม


สมาชิกสภาผู้แทนราฏรจากพรรคสังคมนิยม นาย Olivier Veran กล่าวว่าร่างกฏหมายใหม่นี้บังคับว่านางแบบจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายเสียก่อนที่ได้รับการว่าจ้าง เพื่อตรวจวัดดัชนีมวลกายที่คำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูง

หากดัชนีมวลกายที่คำนวณได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ นางแบบจะไม่ได้รับในรับรองทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าสามารถทำงานเป็นนางแบบได้

นาย Veran ส.ส.พรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสกล่าวว่า นางแบบที่ผอมมากเกินไปไม่ควรได้รับการว่าจ้างให้ทำงานได้ตามกฏหมายนี้ เพราะจะทำให้สุขภาพและชีวิตของนางแบบตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายได้และยังเป็นตัวอย่างทางลบต่อวัยรุ่น

นาย VERAN  กล่าวว่ากฏหมายนี้ไม่มีจุดประสงค์ที่จะจับคนเข้าคุกหรือปรับเงิน แต่มุ่งปกป้องสุขภาพของนางแบบในฐานะลูกจ้าง รวมทั้งเด็กวัยรุ่นที่มักตกอยู่ในสภาพกดดันให้ต้องรักษารูปร่าง ซึ่งจะส่งผลให้เด็กวัยรุ่นพยายามกินน้อยลงเพื่อให้ตัวเองดูผอม นำไปสู่ปัญหาการกินบกพร่องตามมา

นาย VERAN  กล่าวว่าผู้จ้างและบริษัทนายหน้าที่ละเมิดกฏหมายใหม่นี้ ก็จะถูกปรับสูงถึง 85,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือจำคุกนาน 6 เดือน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าฝรั่งเศสจะใช้ดัชนีมวลกายใดเป็นมาตรฐาน

ในอิสราเอลมีกฏระเบียบคล้ายกันนี้ใช้โดยบังคับว่านางแบบต้องมีดัชนีมวลกายที่ 18.5 หรือสุงกว่านั้น จึงจะได้รับการว่าจ้าง

ในปีพุทธศักราช 2549 ผู้จัดงานเดินแฟชั่น Madrid Fashion Week สั่งห้ามนางแบบที่ดัชนีมวลกายต่ำกว่า 18 เดินแบบ หลังจากนางแบบชาวอุรุกวัยวัย 22 ปีเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเนื่องจากเป็นโรคไม่ยอมกินอาหารเพราะอยากผอม

หลังจากสภาผู้แทนราษฏรฝรั่งเศสสั่งห้ามเรื่องนี้  บรรดาผู้ทำงานด้านการต่อต้านปัญหาการกินบกพร่องได้แสดงความคิดเห็นว่าข้อห้ามดังกล่าวมีเจตนาดี แต่เป็นวิธีแก้ที่ไม่ถูกจุด

คุณ Claire Mysko ผู้อำนวยการด้านโครงการแห่งสมาคมการกินบกพร่องแห่งสหรัฐฯ (U.S. National Eating Disorders Association) หรือ NEDA กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าดัชนีมวลกายเป็นตัววัดทางสุขภาพที่ขาดความแม่นยำ


คุณ Claire Mysko กล่าวว่าการมีดัชนีมวลกายต่ำมากไม่ได้หมายความว่าเป็นโรคการกินบกพร่องเสมอไป และคนที่มีดัชนีมวลการในระดับปกติ ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เป็นโรคการกินบกพร่องเช่นกัน

คุณ Mysko กล่าวว่าเจตนาของกฏหมายนี้เป็นเจตนาดีแต่จำเป็นต้องใช้วิธีการตรวจวัดแบบองค์รวมที่รวมกึงการตรวจสอบทัศนคติเกี่ยวกับอาหาร น้ำหนักตัวและความคิดเกี่ยวกับรูปร่าง ทางสมาคมความผิดปกติเกี่ยวกับการกินแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NEDA อยากเห็นนางแบบได้รับการตรวจสุขภาพเพื่อวินิจฉัยอาการผิดปกติเกี่ยวกับการกินและยังผลักดันให้มีการตรวจสุขภาพแบบเดียวกันนี้ในโรงเรียนด้วย
คุณ Claire Mysko เห็นว่าสำคัญมากที่ต้องใส่ใจกับปัญหาความผิดปกติเกี่ยวกับการกินอย่างจริงจัง เธอบอกว่าดีใจที่เริ่มเห็นคนในระดับนานาชาติสนใจแก้ปัญหานี้ แต่เธอคิดว่าการจัดการกับปัญหานี้จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังให้มากและต้องมองหาทางแก้ที่มีประสิทธิภาพ

การออกกฏหมายสั่งห้ามนางแบบผอมในอุตสาหกรรมแฟชั่นของฝรั่งเศสเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาเท่านั้น เพราะในฝรั่งเศสมีคนราว 40,000 คนที่มีอาการปฏิเสธอาหารเพราะอยากผอม

ก่อนหน้านี้ ฝ่ายนิติบัญญัติของฝรั่งเศสได้อนุมัติมาตรการเอาผิดกับหน้าเว็บไซท์ที่ส่งเสริมความผอมแบบเกินพอดี และยังบังคับให้ทางหน้าเว็บไซท์แจ้งให้ผู้อ่านทราบด้วยหากรูปภาพที่ตีพิมพ์ได้รับการตกแต่ง

ด้านด็อกเตอร์ Tania Heller ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์แห่งศูนย์ความผิดปกติด้านการกินและโรคอ้วนในวัยรุ่นแห่งวอชิงตัน (Washington Center for Eating Disorders and Adolescent Obesity) กล่าวว่าเกิดความกังวลกันว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นสร้างแบบอย่างพฤติกรรมที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคนหนุ่มสาวทั้งหญิงและชาย
สมาคม NEDA ชี้ว่า ราว 90 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ป่วยด้วยโรคปฏิเสธอาหาร เป็นเด็กหญิงและหญิงสาว และในสหรัฐฯ มีผู้เป็นโรคนี้ถึง 30 ล้านคน ในจำนวนนี้ 20 ล้านคนเป็นผู้หญิง

Dr. Heller กล่าวว่าตนเห็นว่ามาตรการของฝรั่งเศสที่ใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือเป็นการเดินไปถูกทางแล้ว  แต่คุณ Mysko ผู้อำนวยการโครงการของ NEDA กล่าวว่าการตรวจร่างกายเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นในการแก้ปัญหาโรคการกินบกพร่อง เธอกล่าวว่าเมื่อระบุว่าใครเป็นโรคนี้แล้ว ก็จำเป็นต้องจัดหาบริการด้านการบำบัดเฉพาะทางให้แก่คนเหล่านี้ด้วย

Cr.Voice Of America