30 ต.ค. 2558

ระบบจราจรไฮเทค WiFi


3 เมืองใหญ่ในสหรัฐ ลองใช้ระบบ "ระบบจราจรไฮเทค WiFi"

กระทรวง คมนาคมสหรัฐอเมริกาประกาศเมื่อเดือนที่ผ่านมา ใช้งบประมาณ 42 ล้านดอลลาร์ ทดสอบการใช้ "ระบบจราจรไฮเทค WiFi" ใน 3 เมืองขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา คือ นิวยอร์ก ซิตี ในรัฐนิวยอร์ก, แทมปา ในรัฐฟลอริดา และอีกแห่งในรัฐไวโอมิง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ ลดปัญหาการจราจร รวมทั้งลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์ลงให้เหลือน้อยที่สุด

หลักการทำงานของ"ระบบจราจรไฮเทค WiFi" ดังกล่าวก็คือ เซ็นเซอร์ ตัวรับสัญญาณ WiFi ที่ติดตั้งไว้กับรถยนต์แต่ละคันจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณสัญญาณ WiFiผ่านเครือข่ายไวไฟ(WiFi) ที่ย่านความถี่เฉพาะ (เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนกันกับสัญญานไวไฟทั่วไป) ในเวลาเดียวกันก็สามารถรับสัญญาณจากเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณ WiFi ที่ส่งออกมาจากรถยนต์คันอื่น หรือเสาสัญญาณไฟจราจร ฯลฯ กลายเป็นเครือข่ายสื่อสารไวไฟ(WiFi) อัตโนมัติของ เซ็นเซอร์(Sensor) จำนวนมาก ซึ่งจะส่งสัญญาณไวไฟ(WiFi) เตือนในทันทีที่มีเหตุอันจะก่อให้เกิดอันตราย อย่างเช่น เมื่อมีรถคันหนึ่งเบนออกจากเลนโดยไม่ให้สัญญาณ หรือเมื่อคนขับรถคันหนึ่งต้องเหยียบเบรกกะทันหัน เป็นต้น

เทคโนโลยี"ระบบ จราจรไฮเทค WiFi" ดังกล่าวเป็น เทคโนโลยีการสื่อสารสัญญาณ WiFi อัตโนมัติ ระหว่างรถยนต์กับรถยนต์, รถยนต์กับสาธารณูปโภคเพื่อการจราจรต่างๆ รวมถึงการสื่อสารสัญญาณ WiFi อัตโนมัติระหว่างรถยนต์กับคนเดินถนนทั่วไป โดยในนิวยอร์ก ซิตี ทางสำนักงานกระทรวงคมนาคมสาขานิวยอร์กจะร่วมกับทางการมหานครนิวยอร์ก ติดตั้งเซ็นเซอร์ ตัวรับสัญญาณ WiFi ให้กับรถยนต์ชนิดต่างๆ ที่หน่วยรัฐบาลเป็นเจ้าของรวมทั้งสิ้น 10,000 คัน ซึ่งจะมีทั้งรถประจำทาง, รถลีมูซีน และรถยนต์ทั่วไป นอกเหนือจากนั้นยังจะมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณ WiFi  ให้กับเสาสัญญาณการจราจรต่างๆ อาทิ เสาสัญญาณหยุดรถเพื่อให้คนข้ามถนน, เสาสัญญาณไฟจราจร และวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งไว้ตามถนนสายต่างๆ

ใน รัฐไวโอมิง การทดลองกำหนดจะใช้"ระบบจราจรไฮเทค WiFi" เพื่อศึกษาและควบคุมการจราจรใน เส้นทางที่มีการจราจรของ รถบรรทุกหนาแน่น ส่วนในรัฐแทมปา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการจราจรเลวร้ายที่สุดเมืองหนึ่ง นอกจาก"ระบบจราจรไฮเทค WiFi"จะมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ให้กับรถ และอุปกรณ์เพื่อการจราจรต่างๆ แล้ว ยังเตรียมการหาอาสาสมัครที่เป็นคนเดินถนนในเมืองดังกล่าวติดตั้งระบบ"ระบบ จราจรไฮเทค WiFi" แบบเดียวกันลงในสมาร์ทโฟนของตัวเอง เพื่อช่วยให้ตัวเซ็นเซอร์ในรถยนต์ต่างๆ ได้รับรู้ตำแหน่งของคนเดินเท้าที่ใช้ถนนร่วมกันในช่วงเวลาการจราจรหนาแน่น อีกด้วย

เทคโนโลยี"ระบบจราจรไฮเทค WiFi"เพื่อการจราจรดังกล่าว เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า "เวฮิเคิล ทู เวฮิเคิล (Vehicle-to-Vehicle) เทคโนโลยี"ระบบจราจรไฮเทค WiFi"นี้ทางการสหรัฐอเมริกาเรียกย่อสั้นๆ ว่า "วี 2 วี" (V2V) ซึ่งเริ่มคิดค้นโดยทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน และได้รับการสนับสนุน จากกระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกา เริ่มโครงการทดลองในสภาพแวดล้อมจริงเมื่อปี 2012 ที่แอนน์ อาเบอร์ เมืองเล็กๆ ในรัฐมิชิแกน ด้วยจำนวนรถยนต์ (อาสาสมัคร) เพียง 3,000 คัน ก่อนที่จะได้รับความนิยมขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 9,000 คัน ในเวลาต่อมา

นอก จากนั้น"ระบบจราจรไฮเทค WiFi" ยังมีเครือข่ายที่เป็นการสื่อสารระหว่างเซ็นเซอร์ของรถ กับสัญญาณไฟ จราจร หรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ สำหรับใช้ในการจราจรที่ติดตั้งเซ็นเซอร์เอาไว้อีกด้วย

โครงการนำ ร่อง"ระบบจราจรไฮเทค WiFi" ที่แอนน์ อาเบอร์ ได้ผลดี แต่ยังจัดว่าเป็นเมืองขนาดเล็กที่การจราจรไม่มากมายนัก จึงจำเป็นต้องขยายการทดลองในสภาพจริงสู่เมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่นกว่า เมืองดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงคมนาคมสหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะให้การสนับสนุนระบบนี้เต็มที่

แอ นโธนี ฟอกซ์ รัฐมนตรีคมนาคม ถึงกับแสดงความเชื่อมั่นว่าจะผลักดัน "ระบบจราจรไฮเทค WiFi" และในที่สุดอาจบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาทุกคันต้อง ติดตั้งเซ็นเซอร์นี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน และตั้งเป้าจะผลักดันให้มีการใช้งาน"ระบบจราจรไฮเทค WiFi"ใหม่นี้เร็วขึ้นกว่าที่เคยวางแผนเอาไว้เดิมอีกด้วย

Cr.มติชน