ย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของโลกจะเห็นว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกของ โลกเริ่มที่เครื่องจักรไอน้ำหรือ steam engines ตามมาด้วยปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองคืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ electric power ศาสตร์แห่งคอมพิวเตอร์คือแกนหลักของการปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบที่สาม ก่อนที่จะก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมโลกคือศาสตร์หุ่นยนต์ AI หรือ Robotics ที่ทำงานผ่าน  AI (Artificial Intelligence) หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” ที่จะสร้างพลังแห่งนวัตกรรมครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

ทุกวันนี้ นวัตกรรมเช่นนี้เริ่มด้วยการสามารถใช้อุปกรณ์เล็ก ๆ ในรูปนาฬิกาข้อมือที่เป็นเครื่องวัดความดัน เครื่องวันอุณหภูมิร่างกาย  เครื่องวัดออกซิเจน  อีกทั้งคอนแทคเลนส์ที่อ่านระดับน้ำตาลจากความชื้นของตา หรืออุปกรณ์จิ๋วประจำตัวที่วัดคลื่นสมองได้ ซึ่งจะช่วยทำให้คนที่บาดเจ็บกระดูกสันหลังสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งหนึ่ง

เยอรมัน เดินหน้าในทิศทางนี้ด้วยการประกาศยุทธศาสตร์ Industry 4.0 ร่วมกับบริษัทเอกชนชั้นนำของเขา 57 แห่งเพื่อลดค่าใช้จ่ายการผลิตในอุตสาหกรรมของเขาอย่างมีนัยสำคัญด้วยการผสม ผสานเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT( information technology) กับเทคโนโลยีหุ่นยนต์ AI เยอรมันกำลังสร้างสิ่งที่เขาเรียก IOT (Internet of Things) ซึ่งเป็นเครือข่ายแบ่งปันข้อมูลระหว่างอุตสาหกรรมการผลิตกับการตลาด โดยไม่ต้องมีการติดต่อระหว่างคนกับคนและไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับ คอมพิวเตอร์อีกต่อไปเท่ากับเขาจะลดค่าใช้จ่ายในการผลิตอย่างมหาศาล ซึ่งแปลว่าสามารถแข่งกับใครก็ได้ในโลกด้วยการมุ่งมั่นทุ่มเทการวิจัยและ พัฒนาศาสตร์แห่งหุ่นยนต์ AIอย่างไม่หยุดยั้ง

ญี่ปุ่นบอกว่ารัฐบาลของ เขาก็กำลังประสานมือกับเอกชนเพื่อลุยด้านนี้เหมือนกันและญี่ปุ่นประกาศแล้ว ว่าเขาจะต้องเป็นผู้นำโลกทางด้านAI Robotics หรือหุ่นยนต์ AI โดยผ่าน  "ปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence)" เพราะนี่คือวิวัฒนาการที่มนุษย์กำลังมุ่งมั่นทำให้เกิดขึ้น เพื่อก้าวกระโดดไปสู่อีกระดับหนึ่งของการพัฒนาโลกมนุษย์

มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีแห่งฟูกูอิ หรือ Fukui University of Technology (FUT) ที่อยู่เมืองฟูกูอิริมทะเลญี่ปุ่นหรือ Sea of Japan ทางตะวันตกของประเทศเพื่อร่วมการสัมมนาร่วมกับมหาวิทยาลัยเนชั่น อาจารย์ที่นั่นกำลังพัฒนา software ให้กับหุ่นยนต์ AI ที่ชื่อว่า หุ่นยนต์ Nao (“นาโอะ”) ที่กำลังโด่งดัง เจ้าหุ่นยนต์ AI หรือ หุ่นยนต์ Nao (“นาโอะ”) สามารถร้องเพลง เต้นรำ เตะฟุตบอลได้แล้วครับ อ่านข่าวที่เขียนให้เป็นภาษาอังกฤษ เขาก็ทำได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว

ท่าน อธิการบดีของ FUT ดอกเตอร์โยทาโร โมริชิมา พาตระเวนห้องทดลองหลายห้องที่กำลังสร้าง software สำหรับหุ่นยนต์ AI เพื่อให้ทำงานสร้างสรรค์และเสี่ยงอันตรายหลายอย่างเช่น ใช้เป็นหุ่นยนต์ AI ทำงานแทนคนในจุดที่เกิดภัยธรรมชาติอาทิแผ่นดินไหวหรือสึนามิที่ไปสร้างความ เสียหายให้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เมื่อเร็ว ๆ นี้ หรือหุ่นยนต์ AI สำหรับช่วยเหลือคนพิการและอาวุโส รวมไปถึงหุ่นยนต์เพื่อกิจกรรมอุตสาหกรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เริ่มใช้แล้วใน หลาย ๆ กรณี

แต่การพัฒนาการยังเดินหน้าต่อไปโดยมีเป้าหมายที่สูงกว่า นั้นเพราะนโยบายของเขาคือการเร่งทดลองสร้าง “ศาสตร์แห่งหุ่นยนต์” ทุกรูปแบบที่เขาเรียกว่า Robotics เพื่อนำไปสู่ “การปฏิวัติอุตสาหกรรมรอบที่ 4 ของโลก” ให้ชนะทั้งสหรัฐและเยอรมันให้จงได้ ด้วยการเป็น หุ่นยนต์ AI เต็มรูปแบบและสมบูรณ์ที่สุด

วันหนึ่งใน อนาคตอันใกล้นี้ หุ่นยนต์ AI จะฉลาดกว่าคน เพราะหุ่นยนต์ AI สามารถจะเรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้นตลอดเวลา เราเรียกว่า self-learning process คือสอนให้มันรู้อะไรแล้ว เขียน software ให้มันเรียนรู้ต่อเนื่องไปได้โดยไม่ต้องให้มนุษย์สอนเพิ่มเติมอีก

Cr.กรุงเทพธุรกิจ