Single Gateway ให้ CAT ทำ |
รมว.ไอซี ที ยัน Single Gateway ยังไม่เข้า ครม. และยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม ยันโครงการทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดการลงทุนซับซ้อนไม่ได้ต้องการล้วงข้อมูล
24 ก.ย. 2558 สำนักข่าวบีบีซีไทยรายงาน คำให้สัมภาษณ์ของ พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และรองประธาน กสทช. กรณีรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและการไหลเข้าของข้อมูล ข่าวสารจากต่างประเทศผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตว่า
แท้จริงแล้วเป้าหมายของรัฐบาลคือต้องการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจดิ จิทัลในภูมิภาค สร้างแรงจูงใจให้เอกชนเข้ามาใช้ช่องทางเชื่อมต่อของไทยแทนที่จะเป็นเพื่อน บ้าน อย่างสิงคโปร์หรือมาเลเซีย อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าไทยยังมีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านนี้ด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ เขามองว่า ควรจะเรียก Single Gateway ว่าเป็น “ฮับ” หรือศูนย์กลางดิจิตัล จะเหมาะสมกว่า โดย บริษัท กสท โทรคมนาคม (จำกัด) หรือ CAT จะเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ “ฮับ” และเมื่อมีความพร้อมก็จะเชิญผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในไทยที่มีอยู่ราว 9 รายให้หันมาเลือกช่องทางนี้
นอกจากนี้ พ.อ.เศรษฐพงศ์ ไม่ได้ปฏิเสธเป้าหมายเรื่องความมั่นคงของรัฐในโลกไซเบอร์ ที่การสร้างศูนย์กลางช่องทางจราจรดิจิทัลจะทำให้ง่ายต่อการรับมือแล้ว ยังต้องอาศัยกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงไซเบอร์มารองรับการทำงานของรัฐ ป้องกันการโจมตีและอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ กับทำให้มีความเป็นสากลสอดคล้องกับหลายประเทศที่มีกฎหมายลักษณะนี้แล้ว เช่น สหรัฐฯ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึง กรณีการคัดค้านการจัดตั้ง Single Gateway ว่า Single Gateway เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนเหตุผลทางเศรษฐกิจ ไม่ได้ทำเพื่อความมั่นคง แต่ต้องการช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตที่มีโครงข่ายเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศ (เกตเวย์) ของตนเอง สามารถร่วมใช้โครงข่ายเดียวในการให้บริการ ซึ่งทางกระทรวงไอซีทีจะไม่บังคับว่าจะมีผู้ประกอบการรายใดจะมาเข้าร่วมบ้าง ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ โดยหลังจากนี้จะมีการเชิญภาคธุรกิจ และภาคประชาชนเข้ามาหารือพร้อมทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นของการพิจารณา แต่ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม และยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้น กระแสการคัดค้านน่าจะเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน รัฐบาลไม่ได้ต้องการนำมาใช้ควบคุมข่าวสารอย่างที่เข้าใจ รัฐบาลยังเคารพสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนในการใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ และที่สำคัญโครงการดังกล่าวไม่ได้ยึดโมเดลต้นแบบของประเทศในระบบคอมมิวนิสต์ ที่ใช้กันแต่อย่างใด
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูง จากกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ความจริงแล้วไม่ควรใช้คำว่า Single Gateway เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่ารัฐบาลจะรวมเกตเวย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ประมาณ 9 ราย มาใช้เกตเวย์อันเดียวกัน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ รัฐบาลไม่ได้ต้องการยุบเหลือเกต์เวย์เดียว แต่ต้องการให้เกตเวย์ที่ให้บริการอยู่ผ่านฮับอันเดียวกัน ซึ่งรัฐบาลจะดูแค่เรื่องความปลอดภัย เพราะในอนาคตสงครามไซเบอร์จะมีมากขึ้นการให้เกตเวย์วิ่งผ่านฮับเดียวกันจะทำ ให้เราตามหาผู้กระทำผิดได้
ที่สำคัญรัฐบาลจะทำโครงการดังกล่าวได้จำเป็นต้องมีกฎหมายที่เกี่ยว กับกลุ่มกฎหมายด้านความมั่นคง ได้แก่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีผลบังคับใช้ก่อน ดังนั้น รัฐบาลจะละเมิดข้อมูลไม่ได้ เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ทุกวันนี้ นอกจากเกตเวย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังมีเกตเวย์เถื่อนอีกจำนวนมาก การทำโครงการนี้จะทำให้เรามีความปลอดภัยมากขึ้น ต่างประเทศก็ทำกัน แต่ต้องย้ำว่า โครงการนี้ยังไม่เกิด ดังนั้น ขออย่าให้ประชาชนคิดไปไกล หรือกังวลเกินเหตุ
Cr.ผู้จัดการ,ประชาไท,Synergy | Facebook ,เล่าสู่กันฟัง ,