หัวใจเต้นผิดปกติ คือการรับรู้การเต้นของหัวใจเร็วหรือแรงขึ้น การรู้สึกอาจกินเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง หรือเป็นวัน ซึ่งอาจมีสาเหตุโดยการเต้นของหัวใจช้าเกินไป เร็วเกินไป แรงเกินไป หรือเต้นผิดจังหวะมากกว่าปกติ ภาวะใจสั่นพบได้บ่อยและส่วนใหญ่มักไม่อันตราย การเต้นที่ผิดจังหวะมักสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงวงจรไฟฟ้าของหัวใจ โดยอาจเกิดจาก หลอดเลือดหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ การเสื่อมของลิ้นหัวใจ หรือสุดท้่ายอาจเกิดจากวงจรไฟฟ้าผิดปกติของตัวมันเอง
ในภาวะปกติของการเต้นหัวใจ อยู่ภายใต้จุดกำเนิดออโตเมติกหรือจุดกำเนิดไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่เรียกว่า เอส เอ โหนด ซึ่งอยู่ที่หัวใจห้องขวาบน ถ้ามีจุดอื่นๆ ในหัวใจสามารถก่อกำเนิดจุดไฟฟ้าเองได้ก็เรียกว่า การกระตุกหรือกระตุ้นไฟฟ้า หรือวงจรไฟฟ้าผิดปกติ ซึ่งจะรู้ได้ง่ายช่วงออกกำลังกาย ขณะที่มีการหลั่งสารอะดรีนาลินออกมา หรือขณะอยู่เฉยๆ ช่วงที่หัวใจเต้นช้าหรือมีการเบี่ยงเบนจากการเต้นหัวใจช่วงที่ปกติ อาจจะเป็นช่วงของปกติก็ได้ที่จะมีหัวใจเต้นผิดปกติผิดจังหวะบ้างและบางคนก็ รับรู้ได้ว่ามีการกระตุกของหัวใจ สามารถรับรู้ได้จากการสังเกตหรือบันทึกการเต้นหัวใจจากเครืองวัดชีพจร
สาร คาเฟอีน เหล้า ภาวะเครียด อ่อนเพลีย ภาวะขาดสารน้ำ เจ็บป่วย ภาวะไทรอยด์เป็นพิษหรือทำงานมากเกินไป และยาบางชนิด อาจกระตุ้นภาวะใจสั่นมากขึ้น การเต้นหัวใจเร็วเกินไปหรือใจเต้นเร็วที่เกิดจากวงจรไฟฟ้าผิดปกติมักเกิด ขึ้นในทันทีทันใด และหยุดทันทีทันใด บางครั้งเป็นการยากที่จะชี้วัดว่าเกิดขึ้นเมื่อใดและหยุดเมื่อใด แต่ถ้ามีอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดชีพจร ที่บ้านคอยตรวจสอบไว้ก็สามารถหลีกเลี่ยงอันตรายจากหัวใจเต้นผิดปกติได้
ถ้า ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ เต้นเร็วมากๆ อาจจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหนื่อย หรือเวียนศีรษะ เนื่องจากออกซิเจนไปเลี้ยงสมองน้อยลง (ซึ่งสามารถวัดค่าออกซิเจนในกระแสเลือดได้จาก เครื่องวัดออกซิเจน) บางครั้งหัวใจเต้นเร็วมากจนไม่สามารถพยุงความดันโลหิต ก็อาจจะเกิดอาการหน้ามืด เวียนศีรษะได้ ควรมีเครื่องวัดความดันโลหิต หรือ เครื่องวัดชีพจร เพื่อช่วยชลอการเกิดโรคที่ไม่ใช้มาจากวงจรไฟฟ้าเต้นผิดปกติได้ แล้วควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้หลอดเลือดขยายตัว หัวใจตีบน้อยลง กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น แล้วหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นภาวะหัวใจเต้นเร็ว ก็สามารถช่วยได้
ภาวะ หัวใจเต้นผิดปกติที่มาจากวงจรไฟฟ้าผิดปกตินั้นมีลักษณะ ถ้าอาการเกิดขึ้นขณะอยู่เฉยๆ เริ่มต้นและหยุดทันทีทันใด โดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ หรือสัมพันธ์กับอาการเวียน วูบ หน้ามืด มักเกิดจากวงจรไฟฟ้าเต้นผิดปกติ มากกว่าภาวะตื่นเต้น เครียด หรือการออกกำลังกาย ซึ่งมักมีการเต้นเร็ว ค่อยๆ เป็น และ ค่อยๆ เต้นช้าลง กรณีนี้จะลำบากในการดูแลรักษาด้วยการออกกำลังกายได้ แต่ควรปรึกษาหมอเพื่อการรักษาวงจรไฟฟ้าผิดปกติของหัวใจ
การ วินิจฉัยเพื่อค้นหาว่ามีการเต้นของหัวใจเต้นผิดปกติ บ้างไหมที่สัมพันธ์กับการเกิดอาการ บางครั้งเราอาจจะรู้สึกหัวใจเต้นแรงได้ช่วงที่ตะแคงซ้ายในช่วงกลางคืน หรือระหว่างช่วงตื่นเต้นตกใจ หรือช่วงเครียด วิธีดีที่สุดของการวินิจฉัยคือการทำกราฟหัวใจช่วงที่เกิดอาการ ถ้าอาการผิดปกตินานพอที่จะไปทำกราฟหัวใจที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุด หรือถ้าเป็นไม่นานพอก็อาจจะต้องติดเครื่องบันทึกการเต้นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชั่วโมงไปที่บ้าน นอกจากนี้การเดินหรือวิ่งสายพานอาจจะพบการเต้นผิดปกติขณะที่มีการบันทึกการ เต้นหัวใจ แต่ถ้าไม่สะดวกอาจวัดค่าได้จากการเต้นของหัวใจ (ชีพจร) จากเครื่องวัดชีพจรแล้วบันทึกประวัติผลการเต้นหัวใจแล้วส่งผลให้คุณหมอ วินิจฉัยอีกที
การรักษาหัวใจในภาวะใจสั่นขึ้นอยู่กับ การรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวันขนาดไหน และความรุนแรง หรืออันตรายของการเต้นหัวใจผิดจังหวะ ในภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดไม่รุนแรง คงจะไม่ต้องใช้ยา แนะใช้วิธีการออกกำลังกายแบบเบา ๆ เพื่อขยายหลอดเลือด หรือในกรณีฉุดเฉินคงให้แค่คำแนะนำหรือการแก้ไขบางอย่างเช่น การเป่าลมลงไปที่ทวาร หรือใช้ใบหน้าจุ่มลงในน้ำเย็น 1-2 นาที ถ้าอาการเกิดจากวงจรไฟฟ้าผิดปกติ เป็นบ่อยหรือรุนแรงก็อาจจะต้องใช้ยา หรือการจี้ด้วยกระแสไฟฟ้าหรือสายเย็น เพื่อทำให้วงจรไฟฟ้านั้นหายไป
การ จี้ คือการใส่สายสวนขนาดเล็กๆ ขึ้นที่ขาหนีบไปที่ภายในห้องหัวใจ เพื่อค้นหาจุดกำเนิดที่ผิดปกติ แล้วทำการจี้ด้วยกระแสไฟฟ้า เพื่อให้จุดกำเนิดนั้นหายไป บางครั้งหัวใจที่เต้นผิดจังหวะอาจจะต้องใช้ยาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ยาต้านเกร็ดเลือด หรือยาละลายลิ่มเลือด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวงจรไฟฟ้าของหัวใจจะช่วยในการตัดสินการรักษาสำหรับปัญหา ของท่าน
Cr.ข่าวสด