เมื่อ ชีวิตประจำวันของเราผูกพันกับการใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างแยกไม่ออก หนึ่งปัญหายอดฮิตที่พบเจอได้บ่อยคงหนีไม่พ้นปัญหาแบตเตอรี่ไม่พอใช้จนต้องพก Powerbank เอาไว้เป็น ที่ชาร์ตแบตสํารอง ระหว่างวันแต่ก็อาจจะไม่พอกับการใช้งานโซเชียวของเรา ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความหงุดหงิดใจ วันนี้หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนสกรุ๊ป (ประเทศไทย) มีเคล็ดไม่ลับแก้ปัญหาแบตหมดเร็วทั้งจากในสมาร์โฟนหรือแบตสำรองมือถือ (Power Bank) มาฝากกันโดยสามารถนำไปใช้ได้ทั้งแอนดรอยด์ iOS และ Windows Phone มาดูเคล็ดไม่ลับ 5 ข้อกับการแก้ปัญหาแบตสมาร์ทโฟนหมดเร็ว
1. ลดความสว่างของหน้าจอลง
เชื่อ หรือไม่ว่าหน้าจอเป็นตัวดูดพลังงานมากที่สุดในสมาร์ทโฟน ซึ่งบางครั้งเราก็เปิดหน้าจอสว่าง เกินความจำเป็นโดยเฉพาะในเวลากลางวันซึ่งมีแสงสว่างมากเพียงพออยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงควรลดความสว่างของหน้าจอให้อยู่ในระดับกลางที่สามารถอ่านข้อ ความได้อย่างสบายตาไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่สำรองแล้วยังช่วยถนอมสายตาของเราได้อีกด้วย
2. ปิดแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้งาน
การ เรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆในเวลาเดียวกันนอกจากจะเปลืองแบตสํารองมือถือ แล้ว ยังส่งผลกระทบให้การทำงานของสมาร์ทโฟนของเราช้าลงอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรเลือกปิดการใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ไม่สำคัญทิ้งไปเพื่อยืด การใช้งานของสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามในปัจจุบันสมาร์ทโฟนบางยี่ห้อก็ได้มีการพัฒนาให้มีความฉลาดมาก ขึ้น เช่นสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยที่มีการพัฒนามีชิปเซ็ตประมวลผลที่มีความสามารถใน การจัดการการใช้พลังงานได้อย่างชาญฉลาด ช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่ทั้งในตัวและแบตเตอรี่สำรองมือถือโดยอัตโนมัติ ให้คุณมั่นใจได้ว่าแบตสํารองมือถือไม่หมดระหว่างวันแน่นอน
3. ปิดการทำงานของ GPS และ Location Service
การ เปิดใช้งานในแอปพลิเคชั่น GPS ตลอดเวลานั้นเป็นการนำพลังงานของเครื่องมาใช้โดยไม่จำเป็น ดังนั้นควรเลือกเปิดใช้งานเฉพาะเมื่อจำเป็นจะดีกว่า นอกจากนั้นการปิด Location Service จากแอปพลิเคชั่นต่างๆก็จะช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่สำรองให้ยาวนานยิ่งขึ้น เพราะแอปพลิเคชั่นบางตัวจะมีการส่งข้อมูล Location ของเราผ่านอินเทอร์เน็ตอยู่เรื่อยๆโดยไม่จำเป็น
4. ปิดการทำงานของ 3G, 4G, Bluetooth หรือ WiFi เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ปกติ ในการใช้งานสมาร์ทโฟน เราไม่สามารถเลือกเชื่อมต่อผ่านระบบช่องสัญญาณต่างๆพร้อมกัน ดังนั้นเมื่อเลือกเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วยช่องทางใดช่องทางหนึ่งก็ควรปิด สัญญาณอื่นๆทิ้งไป เช่น เมื่ออยู่ในที่ๆมีสัญญาณ WiFi ก็ไม่จำเป็นที่จะเปิดการใช้งาน 3G, 4G หรือ Bluetooth ทิ้งไว้ เพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานของเครื่องโดยไม่จำเป็นแถมยังประหยัด พลังงานในแบตเตอรี่สำรองอีกทางหนึ่งด้วย
5. เลือกสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่สำรองความจุเยอะ ๆ
การ เลือกใช้สมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่สำรองความจุเยอะ ๆเหมาะสมกับการใช้งานก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนอ ย่างหนักหน่วง เพื่อตัดปัญหาที่จะสร้างความหงุดหงิดที่เกิดจากแบตเตอรี่หมดเร็วเกินพอ หัวเว่ย จึงออกแบบสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคใน ปัจจุบันได้อย่างแท้จริง เช่น พีแปดแม็กซ์ ที่นอกจากจะมีหน้าจอใหญ่สะใจขนาด 6.8 นิ้วแล้วยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองขนาดใหญ่ถึง 4360 mAh ให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
Cr.RYT9,กรุงเทพธุรกิจ