ยุคที่2 (พิชญ์)โพธารามิก ถึงเวลาขยายอาณาจักรกลุ่มจัสมิน นับเป็นลูกไม้ใต้ต้นอย่างแท้จริง สำหรับ "พิชญ์ โพธารามิก" ซีอีโอ"กลุ่มจัสมิน ที่มากกว่าคือเขาสามารถก่อร่างสร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมาได้เองแต่แรก ตั้งแต่ช่วงตั้งไข่ธุรกิจดอตคอมในเมืองไทยในฐานะผู้สนับสนุนเงินทุนให้นัก พัฒนาเรียกว่าเป็น "วีซี" "ยุคแรก ๆ ก็น่าจะได้
รวมเข้ากับความ สนใจส่วนตัวด้านความบันเทิง ทั้งภาพยนตร์, ละคร, เพลง, เกม หรือแม้แต่สิ่งพิมพ์ ให้บริการเกม, ข่าว SMS, คอนเทนต์ต่าง ๆ บนมือถือ และเข้าไปซื้อเว็บไซต์เอ็มไทยดอทคอม เวลานั้น"ไม่มีใครคิดว่าจะเพิ่มมูลค่าเพิ่มได้
เมื่อต้องมารับช่วงกิจการต่อ ก็ไม่ทำให้ "ดร.อดิศัย โพธารามิก" ผู้พ่อผิดหวัง เขาไม่เพียงพลิกฟื้นธุรกิจจากบริษัทที่โดนฟ้องล้มละลายให้กลับสู่สนามแข่งขัน อย่างไม่น้อยหน้าใครกับธุรกิจบรอดแบนด์ภายใต้ชื่อ"3BB" ฟากคอนเทนต์ที่รักยังขยายไปใน "ดิจิทัลทีวี" และในปีเดียวช่องโมโนก้าวขึ้นสู่ 1 ใน 5 ช่องที่มีเรตติ้งสูงสุด
ไฟแนนเชียลเกมเป็นเครื่องมือในการจัดการได้หลายวิธี
- ขยายอาณาจักรไปสู่สิ่งใหม่ด้วย แม้นพลาดประมูล 4G
จริง ๆ เป็นสิ่งที่คุณพ่ออยากทำมาตั้งแต่สมัยก่อน เราเคยได้ไลเซนส์มือถือที่อินเดีย พอปี 1997 วิกฤตเศรษฐกิจ"ทุกอย่างก็ล้มไปหมด วันนี้เป็นสิ่งที่เรามาสานต่อ แต่ถ้าไม่ทำวันนี้โอกาสที่บรอดแบนด์จะมีปัญหาก็มี ถ้าต่อไปมี 5G ล่ะ คือคนจะหันมาใช้มือถือเยอะขึ้น บรอดแบนด์ก็ยังมีแต่อาจเริ่มนิ่ง การลุย 4G และ 5G อาจทำให้เราอยู่ในโพซิชันนิ่งที่ได้เปรียบ เพื่อรองรับเทคโนโลยีโมบายอินเตอร์เน็ต ที่สามารนำ ไวไฟพกพา (Pocket WiFi) รองรับ 4G มาเล่นเน็ต WiFi ได้ แม้นพลาด 4G แต่รอโอกาสประมูลครั้งหน้า
- มือถือลงทุนเยอะไม่ใหญ่จริงเหนื่อย
ไม่ เรียกว่าเหนื่อย กลยุทธ์ผม คือ
1.ประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจ
2.เน็ตเวิร์ก
3.อุปกรณ์หรือดีไวซ์ สมาร์ทโฟน"มีในไทย 30 ล้านเครื่อง
ที่เป็นไฮเอนด์รองรับ LTE อยู่แล้ว และต่ำหมื่นเริ่มเข้ามาเยอะ ยุคต่อไปของมือถือรุ่นใหม่จะเป็น LTE แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีคือไวไฟ เพื่อรองรับการใช้งาน ไวไฟพกพา(Pocket WiFi) ถ้าเป็นค่ายมือถืออย่างเดียวอาจไม่สนไวไฟมาก แต่ผมเป็นบรอดแบนด์ มีไวไฟอยู่แล้ว ทุกคน"ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ไวไฟได้ถือเป็นลูกค้าเรา คำว่า ดีไวซ์ของผม ที่บอกมี 30 กว่าล้าน มือถือมี 15 ล้านที่เป็นโพสต์เพดจ่ายรายเดือน คนกลุ่มนี้ที่จะดึงมาเป็นลูกค้า เราบันเดิลหรือทำมัลติดีไวซ์ได้ เราก็ต้องมีกลยุทธ์ "มีแท็กติกในการเข้าสู่ตลาด
- ยากที่สุดคือไลเซนส์
คง แข่งขันกันพอสมควร มุมธุรกิจ"คอนเทนต์ เรามีช่องโมโน ทำดิจิทัลทีวี วันนี้อยู่ในอันดับ 5 โฆษณาเริ่มเยอะ ปีที่ผ่านมา เข้ามา 50 กว่าล้านบาทแล้ว เต็มสลอต 18 ชั่วโมงจากเป้าเดือนละ 100 ล้านบาท ทำให้ปรับราคาขึ้นจาก 5 พัน เป็น 8 พัน และขยับมาหมื่นสอง หมื่นห้า"และสองหมื่น ชนะช่อง 5 และ 9 เราซื้อหนังและซีรีส์เยอะที่สุดในประเทศจากสตูดิโอใหญ่ทุกราย ซื้อเป็นออลไรต์ใช้ได้ทุกอย่าง เมื่อมี 4G 5G ก็ง่ายเลย มีดูหนัง ดอตคอมอยู่แล้วในอินเทอร์เน็ต ลูกเล่นตรงนี้เอามาใช้ประโยชน์บน 4G ได้
- จบการเงินเข้าสู่ธุรกิจคอนเทนต์ได้ยัง
มีพรรคพวกมาชวน ทำตั้งแต่ 15-16 ปีที่แล้ว เริ่มจากทำละครให้ช่อง 7 ก็เจ๊งนะ ละครชื่อสื่อรักภาษาใจเรื่องแรก กับช่อง 3 ก็เคย หนังทำเจ๊งมาไม่รู้กี่เรื่อง จากวันนั้น"ทำให้มีพื้นฐานด้านนี้ เป็นที่มาของช่องโมโนที่โฟกัสเป็นช่องหนังกับซีรีส์ ค่อย ๆ ทำของเราไปเอง ตอนนั้นผมยังไม่ได้เข้ามาในกลุ่มจัสมิน คุณพ่อออกไปทำงานการเมืองแล้วให้มืออาชีพมาทำต่อ ผมเลยไปทำอะไรของตัวเอง กอสซิปสตาร์ มีรุ่นน้องมาเสนอ ก็ลองทำ พิมพ์ครั้งแรก 5 พันเล่ม ปีเดียวเพิ่มมาพิมพ์เกือบสองแสนเล่ม เพิ่มทุกเดือน เป็นหนังสือเล่มเดียวที่กำไรจากการขาย เพราะตั้งราคาสูงและยอดขายเยอะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วนะ"ต่อมาก็ซื้อเว็บไซต์เอ็มไทย คือฝั่งหนึ่งอยู่ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ อีกฝั่งเรื่องไอที
- สร้างธุรกิจเอง
ตอน นั้นคุณพ่อยุ่งเรื่องการเมือง แต่ก็คอยแนะนำว่า ให้ไปหัดทำอะไรเอง ไปเกาหลี ไปญี่ปุ่น ไปเจอ KT ไปเจอซอฟต์แบงก์"ถึงบอกว่าเรื่องพวกนี้อยู่ในหัวอยู่แล้ว ธุรกิจคอนเทนต์ รู้ว่าทำยังไง
2 ปีที่แล้วมีประมูลทีวี โมโนเพิ่งเข้าตลาดเลยมีเงินทำให้เข้าประมูลด้วย แต่สุดท้ายแล้วเรื่องไฟแนนเชียลสำคัญ "คนอื่นอาจสะบักสะบอม แต่เราสบาย เพราะเงินมีอยู่แล้ว 7 หมื่นล้าน คือ"ถ้าเจาะถูกจุด เงินจะไหลมาเอง ถึงได้มีการปรับราคาโฆษณาขึ้น ฐานลูกค้าเว็บกับทีวีคนละกลุ่ม ลูกค้าหลัก"ของโมโน 29 อายุ 40 อัพ ซึ่งก็ดี โฆษณาชอบ ขณะที่เด็กยุคใหม่ไปอยู่กับอินเทอร์เน็ต
- พนักงานทั้งหมด
จัส มิน 6,000 กว่า โมโนพันคน มีสิ่งพิมพ์ 10 กว่าหัว ไบโอสโคปเรื่องหนัง, กอสซิปสตาร์ เป็นต้น เราไม่ได้ทางเดียว แต่จะต่อยอดไปหลายทางทั้งเว็บ สิ่งพิมพ์ ต้องคิดให้ครบทุกด้าน
Cr.ประชาชาติธุรกิจ