3 ส.ค. 2559

ไบโอแมทริกซ์ & ความปลอดภัย ยุคดิจิตอล



ถ้าท่านได้มีโอกาสได้ดูหนังชื่อเรื่อง Minority Report หรือ Mission Impossible จะมีฉากเด็ดที่ Tom Cruise ใช้ระบบสแกนม่านตาและใช้ลายนิ้วมือด้วยระบบไบโอแมทริกซ์ (Biometric) เป็นการใช้ข้อมูลทางชีวภาพเป็นสิ่งที่ดูเหลือเชื่อในอดีต ซึ่งถือว่าไกลความจริง จนไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะได้ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วในวันนี้ ยุคดิจิตอล

ระบบไบโอแมทริกซ์เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีชีวภาพกับคอมพิวเตอร์และสื่อสารโทรคมนาคมเข้าด้วยกัน โดยใช้การตรวจคุณลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคลที่เป็น ลักษณะเฉพาะตัวมาใช้ระบุตัวบุคคลนั้นๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับคุณลักษณะที่บันทึกไว้ในฐานข้อมูลก่อนหน้านี้ เพื่อใช้แยกแยะตัวบุคคลนั้นๆ

“ระบบไบโอแมทริกซ์” ซึ่งเป็นที่นิยม ได้แก่ การตรวจหาความถี่ “คลื่นเสียง” ของบุคคลนั้น  ซึ่งแต่ละบุคคลจะมีความถี่ของคลื่นเสียงไม่เท่ากันและ ไม่สามารถปลอมแปลงได้, “ลายนิ้วมือ” ก็เช่นกันซึ่งมีความเฉพาะตัว และไม่เหมือนกัน ปลอมแปลงยาก, การตรวจสอบ “เรตินา” ของดวงตา ของแต่ละบุคคลจะมีลักษณะลวดลายต่างกันในเรตินาไม่เหมือนกัน แม้แต่เป็น “ฝาแฝด” กันก็ตาม การตรวจสอบด้วยวิธีนี้จึงให้ความน่าเชื่อถือสูงมาก และการตรวจสอบด้วย “ดีเอ็นเอ” ซึ่งแต่ละคนมีโครงสร้างดีเอ็นเอที่ไม่เหมือนกัน มีความน่าเชื่อถือมาก แต่มีค่าใช้จ่ายสูง

ยุคดิจิตอล การใช้ข้อมูลทางชีวภาพ ระบบไบโอแมทริกซ์ สามารถประยุกต์ใช้ในการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลขององค์กร การระบุตัวตน รวมถึงการสั่งการ ซึ่งบางหน่วยงาน เช่น ตำรวจ สามารถใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อเป็นหลักฐานระบุแสดงตัวตน หรือใช้ตรวจสอบบุคคลที่ต้องสงสัยได้

ระบบไบโอแมทริกซ์ที่ใช้ในการระบุตัวบุคคลแต่ละคน แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

    การใช้ลักษณะข้อมูลทางชีวภาพ ได้แก่ ลายนิ้วมือ (Fingerprint) ลักษณะใบหน้า (Facial Recognition) ลักษณะใบหู (Ear Shape) ลักษณะของมือ (Hand Geometry) ลักษณะของนิ้วมือ (Finger Geometry)  Iris และ Retina ภายในดวงตา และกลิ่น (Human Scent)
    การใช้ลักษณะข้อมูลทางพฤติกรรม ได้แก่  การเดิน (Gait Recognition) เสียง (Voice Recognition) การพิมพ์ (Keystroke Dynamics) หรือการเซ็นชื่อ(Signature) ในการระบุตัวบุคคล

ยกตัวอย่างเช่น กระบวนการ Face Recognition System เป็นการตรวจสอบใบหน้าบุคคล สามารถเก็บข้อมูลได้จากหลายอุปกรณ์ เช่น web camera, scanner, video หรือ CCTV เป็นต้น โดยทำการส่งไปยังเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าสู่ระบบ face management server ซึ่งระบบจัดการนี้จะมี face recoqnition server ได้หลายตัว ขึ้นอยู่กับความต้องการของระบบ

ใน London เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร ซึ่งมีจำนวนกล้อง CCTV มากที่สุดในโลก นับล้านๆ กล้อง CCTV เชื่อมต่อกับระบบ Face Recognition System ที่สามารถตรวจจับผู้กระทำความผิด และคลี่คลายคดีอาชญากรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถควบคุมและลดอัตราการเกิดอาชญากรรมยุคดิจิตอลได้ประสบความสำเร็จ และที่น่าสนใจคือ กล้อง CCTV ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการติดตั้งโดยรัฐบาล แต่เป็นการติดตั้งกล้อง CCTV โดยเอกชนและประชาชน ซึ่งร่วมมือกับภาครัฐในการเชื่อมต่อเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่ก็มีเรื่องที่หลายหน่วยงานเป็นกังวลในประเด็นความเป็นส่วนตัว (Privacy) จนมีการกล่าวกันว่า London จะกลายเป็น “รัฐแห่งการถูกจับตามอง (Surveillance state)”

สำหรับ “ข้อเสีย” ที่ทำให้การใช้ข้อมูลทางชีวภาพระบบไบโอแมทริกซ์ไม่แพร่หลาย ยุคดิจิตอล มีอยู่ 3 ประการ คือ

    ความน่าเชื่อถือที่ได้ เพราะเทคโนโลยีระบบไบโอแมทริกซ์บางประเภทยังต้องการการพัฒนา ทั้งด้านทฤษฎี และอุปกรณ์เครื่องมือ
    “ราคายังสูง” ของอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เครื่องสแกนเรตินา/ไอริสในดวงตา ยังมีราคาสูง
    การยอมรับทางสังคม เพราะเป็นเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” ของแต่ละบุคคล

นอกจากนี้ยังมีปัญหาการใช้ข้อมูลทางชีวภาพทางเทคนิค เช่น ใช้อวัยวะร่างกายเป็นรหัสผ่านมีโอกาสโดนทำร้ายร่างกาย เพื่อขโมยข้อมูลทางชีวภาพ “รหัสผ่าน” ได้ง่าย

ขณะที่ยังมี “ข้อดี” ได้แก่ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็น ต้องพกบัตร หรือจำรหัสผ่าน ช่วยเพิ่มความสะดวก ความปลอดภัย และป้องกันการสูญหายของบัตรผ่าน หรือการลักลอบขโมยเอารหัสผ่านไปใช้, กรณีการใช้รหัสผ่าน หรือบัตรผ่าน ที่เจ้าของบัตรอาจอ้างว่ารหัสผ่านถูกลักลอบนำไปใช้

แต่ถ้าใช้การระบุตัวบุคคลด้วยระบบไบโอแมทริกซ์ ทำให้ผู้ใช้ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้, การใช้ข้อมูลทางชีวภาพระบบไบโอแมทริกซ์ ยากต่อการปลอมแปลง และลักลอบนำไปใช้ต่อได้, ระบบไม่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายๆเพราะ “อวัยวะ” ของร่างกายที่เป็น “รหัสผ่าน” ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำ “เลียนแบบ” ได้

นอกจากนี้การใช้ข้อมูลทางชีวภาพ “ระบบไบโอแมทริกซ์” ยังทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องพักผ่อน เท่ากับว่าเรามียามรักษาการณ์ติดอยู่กับบ้าน หรือ “ด่านชายแดน” ที่เหนือล้ำกว่า “สุนัขเฝ้าบ้าน” เสียอีก ที่ยังต้องหลับ หรืออาจโดนยาเบื่อ

Cr.ข่าว แบ๋ไต๋,Synergy | YouTube