21 ม.ค. 2558

เปิดตัว Window 10

 
วินโดวส์ 10
ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 10

 

Windows 10  Super Hero

มาพร้อมกับความสามารถ รันได้ทุกแพลตฟอร์มที่นับเป็นก้าวแรกของการรวมทุกระบบปฏิบัติการทั้งหมด กับปุ่ม Start ที่กลับมาแล้วตามคำเรียกร้อง และพีเจอร์อื่นๆอีกมากมาย ภายใต้ชื่อ Windows 10

 ปิดตัวกันไปเรียบร้อย สำหรับเวอร์ชั่นถัดไปของ Windows ที่หลายคนคงลุ้นจนตัวเกร็งกันมานาน ก่อนหน้านั้นก็มีข่าวลือกันหนาหูทีเดียว เกี่ยวกับชื่อของ Windows รุ่นถัดไป เช่น Windows Threshold ไม่ก็ Windows TH (ถ้ามาชื่อนี้จริง คงมีเฮแน่) และอีกชื่อที่คิดว่าไม่น่าพลาดอย่างชื่อ Windows 9 เป็นต้น แต่แล้ว กลับมาแบบเหนือเมฆสุดๆ เมื่อ Microsoft ได้ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการของ Windows ประจำเจเนอเรชั่นนี้ว่า “Windows 10″ ประกาศ ณ งานแถลงข่าวประจำวันที่ 30 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา
Terry Myerson ผู้บริหารด้านระบบปฏิบัติการของ Microsoft ได้กล่าวถึงระบบปฏิบัติการตัวใหม่นี้ว่า “The first step of a whole new generation of Windows” (ก้าวแรกของ Windows ยุคใหม่) โดยวินโดวส์ใหม่ตัวนี้ จะมีความพิเศษตรงที่สามารถรันบนอุปกรณ์ได้ทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้ทันยุคสมัยสมาร์ทโฟน หรือ คลาวด์ ที่ครองโลกอยู่ขณะนี้  Joe Belfiore ผู้บริหารด้านระบบปฏิบัติการอีกคนหนึ่ง เป็นผู้สาทิตการใช้งานของตัว Windows 10 รุ่น Beta นี้ ซึ่งจากการสาธิตทำให้เห็นว่า ลักษณะโดยรวมของมันเหมือนเอาข้อดีของ Windows 7 ในเรื่องของการใช้งาน และ ข้อดีของ Windows 8 ในเรื่องของหน้าตา มารวมกันจนกลายเป็น  Windows 10 (ความรู้สึกเหมือน OSX ยังไงยังงั้น) สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้


Windows 10 All in one
Windows 10 All in one รวมทุกอย่างไว้เป็นหนึ่งเดียว

Windows 10 All in one รวมทุกอย่างไว้เป็นหนึ่งเดียว

ถือเป็นฟีเจอร์ชูโรงประจำครั้งนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับตัว Windows 10 นั้น จะสามารถใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ตหรือสมาร์ตโฟนทุกขนาดหน้าจอ และรองรับรูปแบบการใช้งานเมาส์คีย์บอร์ด กับการทัชสกรีนเป็นต้น (One product family) หรือตั้งแต่อินเตอร์เน็ตไปจนถึงระดับเวฺ็บเซิฟเวอร์ขององค์กร (One platform)  นอกจากนี้ Windows 10 จะให้มีการใช้งาน Store ร่วมกันอีกด้วย (One store)

เป็นพีเจอร์ที่สร้างมาเพื่อความสบายตาโดยเฉพาะ ถ้าหากเราจำภาพเก่าๆได้ คือเวลาเราเปิดโปรแกรมหลายๆโปรแกรม เราจะต้องพับโปรแกรมนั้นไว้ใน Taskbar ซึ่งถ้าเราเปิดโปรแกรมไว้เยอะๆก็ทำให้ยากต่อการแยกแยะอย่างมาก ต้องมานั่งจิ้มดูทีละตัวว่าโปรแกรมที่พับไว้อยู่นี้คืออะไร แต่ใน Windows 10 ได้แก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว ด้วยฟีเจอร์ Snap Assist UI ที่ช่วยให้เราสามารถเรียงตัวโปรแกรมที่เปิดอยู่ ให้สามารถเลือกใช้งานได้ง่ายๆ (ตามภาพข้างบน) ฟีเจอร์นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าจอคอมที่เราใช้มีความกว้างพอสมควร (คงไม่เหมาะสำหรับจอแก้วสี่เหลี่ยมจตุรัสแน่ๆ)

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Window 10
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 10

“task view”จัดการ desktop ให้ทำงานอยู่ในรูปแบบ multi-tasking


เมื่อมองไปที่ตัว Taskbar ก็มองจะเห็นปุ่มแปลกๆ ที่เป็นรูปสี่เหลื่ยมซ้อนกันตรงมุมล่างซ้าย หลังกดเข้าไปแล้ว ก็จะปรากฏหน้าต่างเล็กๆ อยู่ด้วยกัน 4 หน้าต่าง ที่เรียกว่า “task view” เป็นฟีเจอร์สำหรับเลือกใช้ desktop ที่เราต้องการ โดยสามารถสลับไปมาระหว่างแต่ละ desktop ได้อย่างอิสระ กล่าวคือ เราสามารถค้างหน้าต่างโปรแกรมต่างๆ ได้ถึง 4 จอ (อิงจากฟีเจอร์ Snap Assist UI) เช่น หน้าหนึ่งเราทำ Photoshop กับเปิดโฟลเดอร์รูปภาพไว้ อีกหน้า เราทำ premiere pro กับเปิดโฟลเดอร์วีดีโอไว้ เราก็สามารถเลือกได้ว่า จะทำอันไหนก่อน โดยที่ไม่ต้องมาปิดโปรแกรมใด โปรแกรมหนึ่งให้เสียเวลา (ขึ้นอยู่กับสเปกคอมด้วยนะครับว่า โหดพอไหม)

 “Continuum”ให้การ touch screen เป็นเรื่องง่าย 


เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถใช้งานระบบ touch screen หรือจอสัมผัสได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะทำงานก็ต่อเมื่อ เราถอดตัวคีย์บอร์ดออก หรือ ตั้งค่าสำหรับใช้งานทัชสกรีน Continuum ก็จะปรับหน้าตาของ UI ใน Windows 10 ให้มีความใหญ่ขึ้น ลักษณะการทำงานให้ดูคลิปด้านบนเลยครับ

ไมโครซอฟท์เปิดตัว วินโดวส์ 10
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 10

Start menu It Come back ปุ่มสตาร์ท คืนชีพ !!

มาถึงในส่วนสุดท้ายกันแล้ว สำหรับตัวปัญหาอันเลื่องชื่อของใครหลายๆคนใน Windows 8 ว่า “ปุ่ม Start มันไปอยู่ใส” จน ณ ตอนนี้ Windows 10 ก็ได้ประทานปุ่ม Start มาให้ใช้แล้ว พร้อมทั้งยังเพิ่มลูกเล่นให้กับปุ่ม Start โดยการเอา modern UI ที่เป็นของ Win 8 มายัดไว้ใน StartMenu จนมีความสวยงามพอสมควร แต่ทั้งนี้ ยังไม่ได้หมายความว่าตัว modern UI หรือ Live tiles จะถูกตัดออกไป มันยังคงมีอยู่ใน Windows 10 เช่นเดิม  และเรายังสามารถปรับแต่ง-ย่อขนาด ได้ตามความต้องการเช่นกัน
สำหรับฟีเจอร์ที่เห็นอยู่ทั้งหมดนี้ ยังไม่ใช้ทั้งหมดของ Windows 10 นะครับ เพราะตัวที่ทาง Microsoft เอามาโชว์นี้ ยังเป็นรุ่นทดสอบ (Beta) อยู่เลย ในตอนนี้ก็มีตัว Technical Preview ของ Windows 10 ให้ทดลองใช้งานกันไปก่อน ส่วนรุ่นตัวเต็มนั้นจะมีเปิดตัวให้เห็นอีกในช่วงต้นปี 2015 นี้ครับ อดใจรอกันต่อไป

Cr. ARIP News