3 ม.ค. 2558

ศึกพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ 2015

พรีเมียร์ลีก 2558
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015

        ตอนแรกดูเหมือนว่าอัตราความมันส์จะไม่เต็มพิกัดเหมือนฤดูกาลที่แล้วที่อุดมด้วยความดราม่า เหตุเพราะเชลซีจากภูมิปัญญาของ โชเซ่ มูรินโญ่ ดันนำโด่ง ทำท่าว่าจะเข้าป้ายแบบม้วนเดียวจบ แต่หลังครึ่งฤดูกาลผ่านพ้น แต้มระหว่างจ่าฝูงกับทีมอันดับ 2 ยังไม่ห่างมากนัก เรียกว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
        ว่าแล้วผมทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับศึกพรีเมียร์ลีกในปี 2015
 1. เชลซีจะเป็นแชมป์
        ตอนที่กระแทกนิ้วบนแป้นพิมพ์ ผมยังไม่ทราบผลการแข่งขันของวันที่ 1 ม.ค.
        อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันแรกของปี 2015 ผมยังเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเชลซีจะสถาปนาตัวเองเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จอีกครั้ง หลังจากห่างเหินมานานถึง 4 ฤดูกาล
        ด้วยตัวผู้เล่นที่สมบูรณ์กว่า แถมโชคดีที่ดาวเตะสำคัญไม่ถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปเป็นเวลานานๆ เหมือนคู่ขับเคี่ยว และที่สำคัญคือความเจนจบของ โชเซ่ มูรินโญ่ เขารู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ทีมสิงห์บลูส์พลาดง่ายๆ เหมือนฤดูกาลที่แล้ว
   2. ลิเวอร์พูลจะไม่ได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก
        ''เด็กหงส์'' อย่าเพิ่งอวยพรปีใหม่ผมว่า ''ป้ามึงตาย'' นะครับที่บังอาจหมิ่นประมาทลิเวอร์พูลแบบนี้ อิอิอิ
        สาบานได้ว่าไม่มีอะไรที่เรียกว่า ''อคติ'' แต่อย่างใด แต่ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในเกมรุกและเกมรับนี่แหละจะทำให้พลพรรคหงส์แดงที่ฤดูกาลก่อนเป็นถึง ''รองแชมป์เก่า'' หลุดจากตำแหน่งท็อปโฟร์
        หลายนัดนะครับที่ผู้เล่นหงส์แดงอุตส่าห์โชว์ฟอร์มได้ดีและเหนือกว่าคู่แข่ง แต่บทจะเสียประตูก็เสียง่ายๆ แบบไม่มีเหตุผลและไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
        เกมรุกก็เช่นกันที่บ่อยครั้งบุกแทบตาย แถมอุดมด้วยโอกาสมากมาย แต่กลับทำประตูไม่ได้ ไม่เหมือนซีซั่นที่แล้วที่มีดาวยิงตีนมหาวินาศอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ กับ แดเนียล สเตอร์ริดจ์
3. ใครจะตกชั้น?
        พูดถึงเรื่องการตกชั้น
        ตอนแรกไอ้กระผมก็มั่นใจแบบเต็มประดาว่า เบิร์นลี่ย์ กับ ควีนส์ปาร์ค 2 ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมานั่นแหละคือ 2 ทีมที่จองโลงเอาไว้ล่วงหน้า ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมของคนไทยน่าจะเอาตัวรอดแบบสบายๆ (หลังโชว์ฟอร์มถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 5-3) แต่ไปๆ มาๆ''จิ้งจอกสยาม'' ดันกลายเป็น''จิ้งจอกโรงแรมสยาม'' เหตุเพราะไม่ได้ใช้เงินเสริมทัพอะไรมาก นอกจาก เลโอนาร์โด้ อูยัว คนเดียว นอกนั้นอาศัยการยืมตัวเอา
        เท่านั้นไม่พอ
        ผมมองว่าเลสเตอร์เล่นบอลแบบห่วงสวยมากเกินไป ทั้งที่ทีมประเภทดิ้นรนเอาตัวรอดเพื่อหนีตกชั้น มันต้องไม่คิดมากครับ คือในเมื่อศักยภาพผู้เล่นสู้ทีมอื่นไม่ได้ มันก็ต้องอาศัยความหนักหน่วงและรุนแรงในการห้ำหั่นกับคู่แข่ง วิธีการเล่นไม่ต้องสวยงาม อาศัยการเล่นโบราณๆ แบบโยนยาวนั่นแหละ
        หลายทีมเอาตัวรอดด้วยวิธีการเล่นแบบเชยระเบิดนาปาล์ม
        สุดท้ายขอทำนายว่า เลสเตอร์, เบิร์นลี่ย์ และฮัลล์ ซิตี้ คือ 3 ทีมที่จะโดนถีบตกชั้น

 

        4. ดีเอโก้ คอสต้า จะเป็นดาวซัลโว
        ฤดูกาลนี้มีกองหน้า 3 คนที่น่าจะได้เป็นดาวซัลโว
        1. กุน อเกวโร่
        2. ดีเอโก้ คอสต้า
        3. ชาร์ลี ออสติน
        แต่จากอาการบาดเจ็บของ ''กุน'' ทำให้สถิติในการถล่มตาข่ายหยุดคาอยู่ที่ 14 ประตู โดยไม่รู้ว่าจะหายเจ็บกลับมาเมื่อไหร่
        โอกาสทองจึงตกเป็นของกองหน้าทีมชาติสเปนสายพันธุ์แซมบ้าที่อยู่ในทีมที่องค์ประกอบดีกว่า ชาร์ลี ออสติน
        เหนือสิ่งอื่นใด ผมว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ใช้กองหน้าของตัวเองคนนี้เป็น หรือรู้จักใช้อย่างถูกวิธี คือใช้อย่างทะนุถนอม โดยเฉพาะในเกมที่ไม่ยากมากนัก เนื่องจากมีอะไหล่อย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และ โลอิก เรมี่ ไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบันใช้จนอาจเจ็บยาว


        5. นักเตะยอดเยี่ยม
        ฤดูกาลที่แล้ว หลุยส์ ''เฉาะเหลี่ยมกะโหลก'' ซัวเรซ สำแดงความโดดเด่นแบบทะลักจุดแตกอยู่คนเดียว ผิดกับฤดูกาลนี้ที่ดาวเตะหลายคนโชว์ฟอร์มโดดเด่นเป็นสง่าน่าชิดเชยชม โดยเฉพาะขุนศึกจากทีมสิงห์บลูส์อย่าง เชส ฟาเบรกาส, เนมานย่า มาติช, เอแด็น อาซาร์ หรือ ดีเอโก้ คอสต้า
        ส่วนของ แมนฯ ซิตี้ ก็มิใช่เบา กุน อเกวโร่ กับ ดาบิด ซิลบา มักลงสนามพร้อมความกระฉูด น่าเสียดายที่ชอบถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไปเป็นช่วงๆ
        ราฮีม สเตอร์ลิง ของลิเวอร์พูลก็เด่นทุกนัด เพราะแทบจะแบกทีมไว้คนเดียว
        ว่าแล้วขอเลือก ดาบิด เด เคอา นายทวารของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม เหตุเพราะมีแผงหลังอย่าง จอนนี่ อีแวนส์, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ และ มาร์กอส โรโฮ นี่แหละ มันจะทำให้ผู้รักษาประตูผู้นี้โชว์ฟอร์มเหินหาวเซฟประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกนัด!


        6. แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ
        10 ปีแล้วนะครับที่พลพรรคปีศาจแดงได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ครั้งสุดท้าย
        หลังจากคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 2004 แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าชิงชนะเลิศอีก 2 ครั้งในปี 2005 กับ 2007 แต่พ่าย อาร์เซน่อล กับ เชลซี ส่งผลให้สถานะเจ้าพ่อ เอฟเอ คัพ ด้วยสถิติแชมป์ 11 สมัย ถูกเทียบเท่าด้วยอาร์เซน่อล
        ฤดูกาลนี้สิ่งที่ต้องยอมรับตามตรงคือ แมนฯ ยูไนเต็ด หมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในทางปฏิบัติ แต่การได้แชมป์บอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ ที่ห่างเหินมานานถึง 10 ปี มันก็ไม่เลวเลยนะสำหรับปีศาจแดงยุคหลังป๋าวางมือ
        พรีเมียร์ลีกแค่ประคองตัวให้ติด 1 ใน 4 ไม่น่าจะเป็นเรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ว่าแล้วก็มามุ่งเน้นใน เอฟเอ คัพ แบบเต็มที่เพื่อสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าพ่อบอลถ้วยนี้เพียงทีมเดียวอีกครั้ง