15 ก.พ. 2561

เครื่องมือวัดแสง ใน ห้องทำงาน

เครื่องมือวัดแสง ใน ที่ทำงาน

เครื่องมือวัดแสง ใน ห้องทำงาน


การมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวของเราถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกิจกรรมประจำวันตั้งแต่ตื่นเช้า การดำเนินกิจกรรม ส่วนตัว ทำอาหารในห้องครัว การเดินทาง การทำงาน อ่านหนังสือ ดูภาพยนตร์ และอีกมากมายที่ต้องใช้สายตามองเพื่อให้เกิดประโยชน์ กับการดำเนินชีวิต การมองเห็นอย่างชัดเจนถูกต้อง และเกิดความสบายตา ควรมีการจัดแสงสว่างให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานที่ ลักษณะการดำเนินกิจกรรมของตน โดยแสงสว่างต้องมีปริมาณความเข้มข้นแสง ที่เหมาะสม มีคุณภาพสำหรับการมองเห็นที่ดี

ความเข้มแสง & การอ่านเอกสาร
แสงสว่างที่เหมาะต่อการอ่านเอกสารในห้องทำงาน ตามหลักวิชาการจะเรียกว่าดูความเข้มแสงที่เพียงพอต่อการอ่าน โดยจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter) วัดปริมาณแสง ในหน่วย Lux (ลักซ์) ซึ่งจะวัดความเข้มแสงออกมาเป็นตัวเลข โดยความเข้มแสงที่เหมาะกับการทำงาน เช่น อ่านเอกสารในห้องทำงานจะอยู่ที่ 300-500 Lux (ลักซ์) ดังนั้น เวลาอ่านหนังสือในแสงสว่างปกติ ที่ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไปจะดีที่สุด อาจจะอยู่ในร่มที่ไม่มีแดดส่องมาโดน หรืออ่านเอกสารในห้องทำงานตอนกลางคืน อาจจะต้องเปิดโคมไฟส่องเวลาอ่านหนังสือ

ความเข้มแสง & การมองเห็น
การจัดการความเข้มของแสงสว่างที่ไม่เหมาะสมทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน แสงสว่างที่น้อยหรือมาก เกินไป หรือ แสงจ้า ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากเกินไป เกิดความเมื่อยล้า กล้ามเนื้อหนังตากระตุก ปวดตา มึนศีรษะ นอนไม่หลับ ความสามารถในการมองเสื่อมลงเป็นผลให้เกิด อุบัติเหตุในการทำงาน การมองเห็นอย่างชัดเจนถูกต้อง และเกิดความสบายตา ควรมีการจัดแสงสว่างให้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานที่ ลักษณะการทำงานของพนักงาน โดยแสงสว่างต้องมีปริมาณความเข้มข้นแสงที่เหมาะสมเพียงพอและมีคุณภาพสำหรับการมองเห็นทีดี ที่เราสามารถวัดความเข้มแสงที่เหมาะสม ด้วย เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter)

ความเข้มแสงที่เหมาะสม ห้องทำงาน 
-ห้องสุขา 100 ลักซ์
-ห้องประชุม 300 ลักซ์
-โรงอาหาร 200 ลักซ์
-ห้องคอมพิวเตอร์ 400 ลักซ์
-ห้องเก็บของ 50-200 ลักซ์
- ห้องพักฟื้น 50 ลักซ์
- ห้องตรวจรักษา 400 ลักซ์
- ห้องถ่ายเอกสาร 300 ลักซ์
- ห้องนิรภัย 100 ลักซ์
- ห้องจองตั๋วหรือห้องขายตั๋ว 400 ลักซ์

เพิ่มความเข้มแสง ด้วย หลอดไฟ
แสงสว่างนั้นมีผลกระทบต่อพนักงาน กรณี แสงสว่างน้อยเกินไป จะมีผลเสียต่อนัยน์ตา ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานมากเกินไป ทำให้เกิดความเมื่อยล้าของนัยน์ตาที่ต้องเพ่งชิ้นงาน ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะ มึนศรีษะได้ และในกรณีความเข้มแสงมากเกินไป จะทำให้พนักงานเกิดความไม่สบาย เมื่อยล้า ปวดตา กล้ามเนื้อตากระตุก ซึ่งทั้งแสงสว่างมากไปน้อยไป จะทำให้เกิดผลเสียทางสายตาแล้วยังทำให้เกิดอุบัติเหตุในการทำงานขึ้นได้ด้วย แสงธรรมชาติเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงควรตรวจสอบความเพียงพอของระบบไฟส่องสว่างในพื้นที่สำนักงาน ด้วย เครื่องมือวัดแสง (Lux Meter) ถ้าไม่เพียงพออาจจำเป็นต้องเพิ่มความสว่างในห้องทำงานด้วยการติดหลอดไฟส่องสว่างเพิ่ม

Cr.วารสารกรมวิทยาศาสตร์บริการ

5 ก.พ. 2561

เครื่องมือวัดแสง สถานที่ทำงาน


เครื่องมือวัดแสง สถานที่ทำงาน

เครื่องมือวัดแสง สถานที่ทำงาน



เนื่องจากการทำงานด้านเอกสารจะต้องใช้สายตาอย่างมาก เมื่อมีความเข้มของการส่องสว่างที่ไม่เพียงพอจะทำให้สายตาต้องปรับขยายรูม่านตาเพื่อเปิดรับแสงให้เข้ามามากขึ้น กล้ามเนื้อรอบดวงตาก็จะต้องทำงานหนัก ทำให้เกิดความเมื่อยล้าของสายตา เพราะการที่ต้องทำงานโดยใช้สายตาเป็นเวลานานก็มีผลต่อสุขภาพสายตาอยู่แล้ว หากมีปัจจัยอื่น เช่น แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การทำงานที่ต้องใช้สายตาในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ยังจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไม่มีสมาธิในการทำงาน เกิดความเครียดในการทำงาน เป็นต้น

ลักซ์ ( Lux) ความเข้มแสง
ดังนั้นเราควรวัดความเข้มแสงซึ่งมีหน่วยเป็น ลักซ์ ( Lux) ที่จำเป็นเพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานของคุณอย่างเห็นได้ชัดขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่กำลังทำ ความเข้มแสง (ลักซ์ ( Lux)) วัดได้ด้วย เครื่องมือวัดแสง ที่จำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่าง ระบบแสงสว่างที่ดี ต้องให้แสงที่พอเหมาะสมกับชนิดของงานที่ทำ และมีความสมํ่าเสมอของแสงสว่าง ไม่ใช่บางจุดก็มืด บางจุดก็สว่างจ้า นอกจากนี้เพดาน ผนัง และพื้นก็ต้องช่วยลดความจ้าของแสงด้วย เพราะแสงที่จัดจ้าจนเกินไป ไม่ว่าจะมาจากโคมไฟโดยตรง หรือเกิดจากการสะท้อนแสง ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายกับดวงตาอันบอบบางของเราทั้งสิ้น ปกติแล้ว งานแต่ละชนิดจะมีความจำเป็นในการใช้แสงสว่างที่แตกต่างกันออกไป

เครื่องมือวัดแสง
การใช้เครื่องมือวัดความเข้มแสงในบริเวณนั้นๆ เพื่อตรวจสอบแสงสว่างภายในอาคาร บริเวณสถานที่ทำงาน เช่น สายงานการผลิตในโรงงาน หรือ ห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล ซึ่งต้องให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่เหมาะสมและมีความปลอดภัยต่อสายตาพนักงาน การวัดความเข้มแสงและปริมาณแสงจึงควรมีอุปกรณ์วัดความเข้มแสง หรือที่เรียกว่า เครื่องวัดแสง (Lux Meter) เป็นอุปกรณ์สำหรับวัดความสว่างเฉพาะความเข้มที่ปรากฏในสายตาของมนุษย์ อาทิ เช่น ถ้าเป็นงานพิมพ์เอกสาร การเขียน การอ่าน จะต้องมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่า 400 ลักซ์ และสำหรับห้องคอมพิวเตอร์ งานบันทึกข้อมูลและบริเวณที่แสดงผลข้อมูล (จอคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์) จะต้องมีความเข้มของแสงสว่างไม่ต่ำกว่า 600 ลักซ์ ถ้ามีความสว่างไม่เพียงพอ จะเกิดความรู้สึกตาพร่า เวียนศีรษะ บางรายมีอาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน

ความเข้มแสง ที่เหมาะสม ในสถานที่ทำงาน
- ขนย้าย บรรจุ บด เกลี่ยวัตถุ ความเข้มแสงไม่ควรน้อยกว่า 50 ลักซ์
- การผลิตหรือประกอบชิ้นงานหยาบ ๆ การสีข้าว ความเข้มแสงในบริเวณนั้นไม่ควรน้อยกว่า 100 ลักซ์
- เย็บผ้า ควรมีแสงสว่างบริเวณนั้นไม่น้อยกว่า 200 ลักซ์
- สถานที่ทำงานที่ต้องการความละเอียดเป็นพิเศษ เช่น เจียรนัยเพชรพลอย ควรมีความเข้มแสงอย่างน้อย 1000 ลักซ์
- ถนน ทางเดิน เฉลียง ควรมีความเข้มแสง ไม่น้อยกว่า 50 ลักซ์ เป็นต้น

ความเข้มแสง ห้องสัมมนา ห้องเรียน
นอกจากนี้ห้องเรียน ห้องสัมมนาก็เช่นกัน การทำงานเอกสารที่มีความสว่างน้อยเกินไปก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสายตาได้เนื่องจากจะต้องเพ่งสายตาเป็นเวลานาน เช่นการอ่านหนังสือ การเขียนหนังสือในที่ที่มีแสงน้อยๆ จะทำกล้ามเนื้อตาเสื่อมเร็วกว่าปกติ ดังนั้นจึงต้องอ่านหนังสือและเขียนหนังสือในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ เช่นมีการกำหนดความสว่างสำหรับห้องเรียน ห้องสัมมนาไว้ 300-700 Lux เป็นต้น ความสว่างที่เหมาะสมในสถานที่ต่างๆ จึงมีความสำคัญมากต่อการทำงาน เป็นการถนอมสายตาแก่พนักงาน จึงควรวัดความเข้มแสงด้วย เครื่องมือวัดแสง เพื่อกำหนดความสว่างที่เหมาะสมไว้ จะต้องให้แสงสว่างเพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานและการอบรมที่ต้องใช้สายตากับเอกสารเหมาะสมและสบายแก่สายตา ที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพสายตาของพนักงาน

Cr.EUafp,Stou